ความสามารถของเย่เฉินไม่ธรรมดาเป็นอย่างมาก หากเขาอยู่บ้าน ตนกับลูกชายไปหาถึงหน้าประตูก็เท่ากับส่งตนเองไปตาย

คิดมาถึงตรงนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะกัดฟันกล่าวว่า “คุณแม่! วันนี้ผมไม่ไปสร้างความยุ่งยากให้เธอก็ได้ แต่ไม่ว่ายังไง ก็ไม่อาจให้หม่าหลันแขวนหมวกเขียวพวกนั้นในวันปีใหม่ได้!”

นายหญิงใหญ่เซียวเอ่ยอย่างเหยียดหยามว่า “เธอชอบแขวนก็ให้เธอแขวนไปสิ! ตอนนี้สำหรับครอบครัวเราแล้ว หน้าตานับเป็นอะไรได้? เงินสิถึงจะจับต้องได้ที่สุด!”

เซียวฉางเฉียนพูดอย่างเดือดดาล “งั้นผมไม่ต้องทนนังสารเลวหม่าหลันนั่นตลอดไปหรอกหรือ? แบบนี้เมื่อไหร่ถึงจะหยุดกัน?”

เวลานี้เซียวไห่หลงก็พูดด้วยสีหน้าทะมึนว่า “พ่อ! พ่อพูดอยู่ตลอดว่าจะหาโอกาสทำอะไรสักอย่างกับหม่าหลันไม่ใช่เหรอ? หากให้ผมพูด พวกเราควรต้องทำโดยเร็วที่สุด! ทางที่ดีจัดการเธออย่างรุนแรงก่อนปีใหม่จะดีที่สุด และทำให้ครอบครัวเย่เฉินฉลองปีใหม่ด้วยจิตใจว้าวุ่น เมื่อเป็นเช่นนี้ ทางฝั่งประธานอู๋ก็จะมอบไมตรีดีๆ ให้เช่นกัน ไม่อย่างนั้นล่ะก็ หากเราไม่ลงมือกับพวกเขาเสียที ประธานอู๋คงได้หมดความอดทนกับเราแน่!”

เซียวฉางเฉียวแสดงสีหน้าหนาวเหน็บ พูดโพล่งออกมาว่า “ใช่! ก่อนหน้านี้นังหญิงโสโครกหม่าหลันนั่นเท้าเข้าเฝือกอยู่ วันทั้งวันเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านไม่ออกไปไหน คิดจะจัดการเธอก็ไม่มีโอกาส แต่ตอนนี้ฉันเห็นเหมือนว่าเธอจะเอาเฝือกออกแล้ว สองวันนี้เพื่อจัดเตรียมฉลองวันปีใหม่ จากที่ฉันดูหม่าหลันจะต้องออกจากบ้านแน่ สู้หาโอกาสจัดการเธอขั้นเด็ดขาดไม่ได้กว่าเหรอ ให้บทเรียนระยะยาวแก่เธอเสียที!”

กล่าวจบ เขาก็มองไปที่นายหญิงใหญ่เซียว เอ่ยปากถามว่า “คุณแม่ คุณแม่ว่ายังไง?”

นายหญิงใหญ่เซียวขบคิดอยู่ชั่วครู่ ก็พยักหน้ากล่าวว่า “เราเองก็สมควรสั่งสอนหม่าหลันให้มากๆ จริงๆ อย่างน้อยก็ต้องสร้างความยุ่งยากให้บ้านเย่เฉินสักหน่อย ไม่อย่างนั้นในใจอู๋ตงไห่เกรงว่าจะไม่สบายใจ”

ทันใดนั้น นายหญิงใหญ่เซียวก็นึกบางอย่างออก กล่าวขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า “พรุ่งนี้อู๋ตงไห่จะมาตรวจสอบโครงการสองสามแห่งที่จินหลิงพอดี บางทีอาจจะค้างคืนที่จินหลิง!”

เซียวฉางเฉียนฟังถึงตรงนี้ ก็รีบกล่าวสำทับว่า “คุณแม่ นี่ไม่ใช่โอกาสดีในการแก้แค้นให้ประธานอู๋หรอกหรือ! ทำไมประธานอู๋ถึงเอาคฤหาสน์หลังนี้มาให้พวกเราพักอาศัย ทั้งยังมอบทุนให้บริษัทเซียวซื่อของเราอีก? เข้าใจแล้ว ก็เพื่อให้พวกเราอยู่ใต้หนังตาของครอบครัวเย่เฉิน รังเกียจพวกเขาให้มากๆ ไม่ใช่เหรอ? หากพวกเราเอาเงินมาโดยไม่ทำอะไรเลย เกิดวันไหนประธานอู่ตำหนิลงมา พวกเราได้ซวยกันพอดี!”

นายหญิงใหญ่เซียวส่งเสียงอืมตอบรับ เอ่ยปากกล่าวว่า “เอาล่ะฉางเฉียน เรื่องนี้ฝากแกไปคิดหาวิธีแล้วกัน แม่ขอร้องแค่อย่างเดียว จัดการแค่พอประมาณ อย่าให้ถึงแก่ชีวิตเป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นอู๋ตงไห่ก็ไม่อาจปกป้องพวกเราได้”

เซียวฉางเฉียนพยักหน้า ยิ้มเย็นกล่าวว่า “คุณแม่วางใจ ผมวางแผนไว้นานแล้ว ผมจะจับหม่าหลันมัดไว้ จากนั้นก็จะถ่ายรูปไม่น่าดูของเธอ ทางที่ดีหาคนมาทำให้เธอตั้งท้องจะดีที่สุด ทำให้พวกเขาทั้งครอบครัวได้รับความอับอาย!”

นายหญิงใหญ่เซียวขมวดคิ้ว กำชับว่า “ฉางเฉียน แกหาคนทำแม่ไม่ออกความเห็น แต่แกอย่าได้ออกแรงทำเองเป็นอันขาด!”

เซียวฉางเฉียนพยักหน้ากล่าวว่า “คุณแม่วางใจ ในใจผมมีขอบเขต!”

เซียวไห่หลงที่อยู่ด้านข้างก็รีบร้อนถามว่า “พ่อ พ่อวางแผนจะลงมือพรุ่งนี้เลยเหรอ?”

“ใช่!” เซียวฉางเฉียนแสยะยิ้มกล่าวว่า “พรุ่งนี้จับเธอมัด จากนั้นรอจนถึงกลางคืนก็จัดแสดงโชว์ให้ประธานอู๋ชม!”

เซียวไห่หลงรีบกล่าวว่า “พ่อ เมื่อก่อนผมพอจะรู้จักเพื่อนอยู่บ้าง ทั้งยังไว้ใจได้ด้วย ถึงเวลาให้พวกเขามาช่วยได้!”

เซียวฉางเฉียนยิ้มกล่าว “ได้! แกไปหาคนหนุ่มรูปร่างกำยำมาสักสองสามคน แล้วค่อยหารถตู้สักคัน ฉันมีโกดังเก็บของที่ไม่ได้ใช้ของพรรคพวกอยู่ที่ชานเมือง ถึงเวลาก็จับหม่าหลันไปไว้ที่นั่น!”

เซียวเวยเวยที่อยู่ด้านข้างก็เอ่ยปากถามว่า “คุณพ่อ หากพรุ่งนี้หม่าหลันไม่ออกจากบ้านจะทำยังไงคะ?”

เซียวไห่หลงก็พยักหน้าเช่นกันแล้วกล่าวว่า “นั่นสิ พ่อ หากหม่าหลันไม่ออกจากบ้านจะทำยังไง?”

เซียวฉางเฉียนกล่าวว่า “หากหม่าหลันไม่ออกมา เราก็สร้างโอกาสให้เธอออกมาสิ! หลายวันมานี้ฉันสังเกตการใช้ชีวิตประจำวันของเธอตลอด แกวางใจ ฉันมีวิธีจะทำให้เธอออกมาจากบ้านแล้วกัน!”