ชายชุดขาวเงียบไปครู่ใหญ่ค่อยเอ่ยว่า “เจ้ามาแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นต้องสู้แล้ว”
ในใจหลินสวินสั่นไหว
ความแข็งแกร่งของชายชุดขาว ก่อนหน้านี้เขาเคยได้เห็นแล้ว ต่อให้ผีสุราและต้าหวงอยู่ตรงหน้า ก็ไม่เคยทำให้เจตจำนงของเขาเปลี่ยนแปลงแม้แต่เสี้ยวเดียว
ทว่าพอศิษย์พี่รองปรากฏตัว กลับทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลง
ไม่มีความจำเป็นต้องสู้ต่อ เป็นเพราะเขาคิดว่าเมื่อศิษย์พี่รองปรากฏตัว ก็ไม่มีโอกาสชนะแล้ว!
จากเรื่องนี้แค่คิดก็รู้ว่าศิษย์พี่รองแข็งแกร่งเพียงใด
นี่จึงจะเป็นจุดที่ทำให้หลินสวินตกใจ
“ไม่สู้แล้ว ก็ควรจะคุยสักหน่อยว่าจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร”
ศิษย์พี่รองเสียงราบเรียบ “หนึ่ง ข้าจะทำตามข้อตกลงในตอนนั้น ไม่ฆ่าเจ้า”
“สอง ในเมื่อเจ้าหมอนี่เป็นทายาทจักรพรรดินรกเลือดทมิฬ ข้าสามารถให้ทางรอดสายหนึ่งกับเขา”
“สาม เงื่อนไขที่จะทำตามสองข้อแรก คือศิษย์น้องของข้าจะยอมรับหรือไม่”
พูดถึงตอนสุดท้าย สายตาของจ้งชิวมองไปยังหลินสวิน สีหน้ายังคงเต็มไปด้วยความหยิ่งทระนง แต่ในสายตาแฝงความอ่อนโยนเสี้ยวหนึ่ง
เขาพยักหน้าให้หลินสวิน
หลินสวินประสานหมัด “หลินสวินคารวะศิษย์พี่รอง”
จ้งชิวขานรับว่าอืม เคลื่อนสายตาไปมองชายชุดขาวคนนั้นอีกครั้ง “เจ้าตัดสินใจเถอะ”
เขาไม่ใช่คนที่ชอบพูดไร้สาระ
ชายชุดขาวเงียบไปครู่หนึ่งก่อนกล่าวว่า “ข้าสามารถทิ้งมรรคกระบี่ทั้งชีวิตมอบให้กับศิษย์น้องของเจ้าได้”
จ้งชิวอึ้งไป ดูเหมือนประหลาดใจเล็กน้อย
ผีสุราและต้าหวงกลับเผยสีหน้าตกใจ
จูคง ตัวตนอันน่ากลัวที่ถูกกำราบในชั้นสิบแปดของนรกอำพราง
แต่ในช่วงต้นยุคดึกดำบรรพ์ จูคงคือจอมกระบี่อันดับหนึ่งของโลกมืด เป็นบุคคลระดับตำนานที่ชื่อเสียงเทียบเคียงจักรพรรดิกระบี่ไท่เสวียน
ในข่าวลือ จูคงเป็นสิ่งมีชีวิตฟ้าประทานที่ถือกำเนิดในแม่น้ำนรกแรกกำเนิดเหมือนจักรพรรดินรกเลือดทมิฬ ตั้งแต่มีสติปัญญาตื่นรู้ก็ครอบครองมรรคกระบี่ชั้นเลิศแล้ว!
ความแข็งแกร่งของเขา ได้รับการพิสูจน์ตั้งแต่ในเคราะห์จ่อมจมครั้งแรกแล้ว แม้ในกาลเวลาไร้สิ้นสุดที่ผ่านมาเขาถูกขังอยู่ในชั้นสิบแปดของนรกอำพราง แต่ก็แข็งแกร่งจนถึงขั้นสามารถกำราบบรรพจารย์จักรพรรดิได้!
ตัวตนที่น่ากลัวเช่นนี้ กลับยอมทิ้งมรดกมรรคกระบี่ทั้งชีวิตเพื่อแก้ไขปัญหาให้บุตรนรก นี่น่าตกใจเกินไปแล้ว
“เจ้าทำเช่นนี้ คงไม่ใช่เพียงเพื่อช่วยทายาทของจักรพรรดินรกเลือดทมิฬกระมัง” จ้งชิวพูด เขาเดาอะไรออกรางๆ แล้ว
“ไม่ผิด”
ชายชุดขาวพยักหน้าเปิดเผย
เขาไม่ได้อธิบาย
จ้งชิวก็ไม่ได้ซักไซ้ต่อ เพียงหันสายตาไปมองหลินสวินแล้วเอ่ยว่า “ศิษย์น้อง เจ้าคิดว่าอย่างไร”
หลินสวินพูดโดยไม่คิด “รากปฐมจิตวิญญาณของต้นไม้เทพคุนอู๋จะต้องทิ้งเอาไว้ อย่างอื่นศิษย์พี่เป็นผู้ตัดสินใจ”
จ้งชิวพยักหน้า
“รากปฐมจิตวิญญาณของต้นไม้เทพคุนอู๋หรือ” บุตรนรกอึ้งไป ราวกับห้าอสนีผ่าลงกลางศีรษะ เพื่อกำราบสิ่งนี้เขาจ่ายค่าตอบแทนไปไม่น้อย
พูดอย่างไม่เกินจริง ที่เขามาเยือนนรกอำพรางครั้งนี้ เป้าหมายก็เพื่อช่วงชิงสิ่งนี้
สำหรับเขา ข้อเรียกร้องของหลินสวินเท่ากับกรีดเนื้อเลยเชียว!
“ได้” กลับเห็นชายชุดขาวตอบรับอย่างไม่ลังเลสักนิด
บุตรนรกสีหน้าเปลี่ยนไปมาไม่อาจสงบได้ เขาเองก็ดูออกว่าตอนนี้เขากับชายชุดขาวราวกับปลาบนเขียง อยากรอดชีวิตมีเพียงการให้ผู้อื่นสูบเลือดเนื้อไป
“กาหลอมจิตนี่…”
หลินสวินเพิ่งเอ่ยปาก บุตรนรกก็คำรามออกว่า “แม้ข้าตายก็ไม่มีทางให้สมบัตินี้กับคนอื่น!”
“ศิษย์น้อง อย่าข้องเกี่ยวสมบัตินี้จะดีที่สุด” จ้งชิวเตือน
หลินสวินยิ้มพูด “ข้าเพียงพูดถึงเฉยๆ”
ในใจอันที่จริงก็เสียดายเล็กน้อย ความแข็งแกร่งของกาหลอมจิต ไม่ด้อยกว่าเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดแน่!
“ก็เอาตามนี้เถอะ”
ชายชุดขาวตัดสินใจ
ไม่นานชายชุดขาวก็พาบุตรนรกจากไป หายไปจากชั้นเก้าของนรกอำพรางแห่งนี้
ก่อนไปเขาทิ้งมรดกมรรคกระบี่ทั้งชีวิตไว้ในม้วนหยก ขณะเดียวกันก็ทิ้งรากปฐมจิตวิญญาณของต้นไม้เทพคุนอู๋เอาไว้
ก่อนไปบุตรนรกเหม่อลอย สีหน้าที่คล้ำเขียวเต็มไปด้วยความไม่จำยอม แต่สุดท้ายก็ไม่ปริปากแม้แต่คำเดียว
หลินสวินรู้ว่าหลังจากผ่านเรื่องนี้ เจ้าหมอนี่คงแค้นตนเข้ากระดูกอย่างสิ้นเชิง ในอนาคตหากเจอกันอีก จะต้องดำเนินการแก้แค้นอย่างแน่นอน
ทว่าหลินสวินไม่เพียงไม่กลัว กลับยังมีความคาดหวังอยู่รางๆ เจอกันคราวหน้า เด็กแจกทรัพย์นี่จะให้ตนปล้นสมบัติได้อีกเท่าไหร่
……
ผีสุราและต้าหวงจากไปก่อน ทั้งสองต่างรู้ดีว่าหลังจากนี้ศิษย์พี่ศิษย์น้องคู่นี้จะต้องมีเรื่องคุยกันแน่
สายฟ้าปั่นป่วน กลับเชื่องราวกับลูกสัตว์ กลางฟ้าดินแห่งนี้เต็มไปด้วยความสงบสันติ
ในบ่ออสนีที่อยู่ห่างออกไป ต้นไม้เทพคุนอู๋ที่แดงชาดราวกับหลอมจากแร่ทองแดงเพลิง ดับสิ้นไปทุกกระเบียนในบ่ออสนีไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่
รากปฐมจิตวิญญาณของมัน ก่อนหน้านี้ถูกบุตรนรกช่วงชิงไป ตอนนี้ตกอยู่ในมือของหลินสวิน
จ้งชิวยืนนิ่งอยู่ข้างบ่ออสนี เงียบไปครู่หนึ่งค่อยเอ่ยว่า “เดิมทีข้าคิดว่าหลังจากแดนปรินิพพานสิ้นสุดลงค่อยเจอเจ้า แต่เจอตอนนี้ก็ไม่เป็นไร”
หลินสวินยืนอยู่ข้างๆ เงียบฟัง
เขาดูออกว่าศิษย์พี่รองคนนี้ไม่ใช่คนที่ชอบถามไถ่ความเป็นอยู่
“นั่ง”
จ้งชิวมองเขาคราหนึ่งแล้วนั่งขัดสมาธิลงก่อน
หลินสวินเองก็ไม่ได้เกรงใจ นั่งลงข้างๆ สีหน้านิ่งสงบราบเรียบ
“อาจเป็นเพราะเจ้ามีสภาวะจิตเช่นนี้ ถึงได้สามารถเอาชนะเจตจำนงกระถางใหญ่ได้ แข็งแกร่งกว่าข้าในตอนนั้นมาก”
เสียงของจ้งชิวดังขึ้นเนิบๆ “เช่นนี้ก็ดี ผู้สืบทอดของคีรีดวงกมลเดิมก็เป็นเช่นนี้ เหมือนที่อาจารย์พูดกับศิษย์พี่ใหญ่ในตอนนั้น ศิษย์ไม่จำเป็นต้องด้อยกว่าอาจารย์”
“และในสายตาข้า เจ้าในฐานะศิษย์คนสุดท้ายที่เข้าสำนัก ทั้งยังมีมรดกมหามรรคที่อาจารย์ทิ้งเอาไว้ ก็ควรจะแข็งแกร่งกว่าศิษย์พี่อย่างพวกเรา!”
ฟังถึงตรงนี้หลินสวินเอ่ยถามว่า “ถ้าอย่างนั้น ข้าได้รับการยอมรับจากศิษย์พี่แล้วหรือ”
จ้งชิวอึ้ง “ดูท่าในใจเจ้ามีความคิดจะแข่งกับข้า”
หลินสวินยิ้ม “หากไม่มีความคิดที่จะแข่งขันจะได้รับการยอมรับจากศิษย์พี่ได้อย่างไร แน่นอนว่าการยอมรับเป็นแค่ขั้นแรก ต่อไป”
จ้งชิวพูดว่า “ต่อไปทำไม”
หลินสวินสบตากับสายตาของจ้งชิว พูดอย่างจริงจัง “ศิษย์ไม่จำเป็นต้องด้อยกว่าอาจารย์ ศิษย์น้องไม่จำเป็นต้องด้อยกว่าศิษย์พี่”
ยามนี้ในที่สุดจ้งชิวก็เผยรอยยิ้ม ราวกับพอใจกับคำตอบของหลินสวินมาก เอ่ยว่า “ข้ารอวันนั้นที่เจ้าจะก้าวข้ามข้า”
หลังจากนั้นศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งสองคุยกันอีกเยอะมาก
ในที่สุดหลินสวินก็ได้รู้เรื่องราวบางอย่าง
อย่างเช่นจูคงนั่น ร่างเดิมคือปลาแดงตัวหนึ่งที่เกิดในแม่น้ำนรกแรกกำเนิด ครอบครองมรรคกระบี่ชั้นเลิศแต่กำเนิด เป็นพวกระดับตำนานยุคเดียวกับจักรพรรดินรกเลือดทมิฬ
จูคงกับจักรพรรดินรกเลือดทมิฬสนิทสนมกัน แต่เพราะแนวคิดมหามรรคที่เสาะแสวงไม่เหมือนกัน สุดท้ายจึงแยกทางกัน
ที่จูคงปกป้องบุตรนรก ก็เพราะแม้มหามรรคที่เขากับจักรพรรดินรกเลือดทมิฬเสาะแสวงแตกต่างกัน แต่ก็ระลึกถึงมิตรภาพในตอนนั้นมาโดยตลอด จึงปฏิบัติกับบุตรนรกเหมือนหลานของตน
ที่จูคงถูกขังไว้ที่นี่ ความจริงก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับจักรพรรดินรกเลือดทมิฬ
หลังจากเคราะห์จ่อมจมครั้งแรกปะทุขึ้น บุคคลเทียมฟ้าในช่วงต้นยุคดึกดำบรรพ์อย่างพวกจูคง จักรพรรดินรกเลือดทมิฬ จักรพรรดิกระบี่ไท่เสวียนล้วนมายังโลกมืด
เพื่อช่วงชิง ‘ต้นกำเนิดโลก’ ของโลกมืด
สุดท้ายพวกจักรพรรดิกระบี่ไท่เสวียนชนะ ส่วนจูคงเพื่อช่วยจักรพรรดินรกเลือดทมิฬจึงถูกกำราบจากเคราะห์จ่อมจม ถูกขังอยู่ในนรกอำพราง
ฟังถึงตรงนี้หลินสวินอดอึ้งไม่ได้ “จูคงนี่แยกทางกับจักรพรรดินรกเลือดทมิฬแล้วไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงต้องช่วยสุดชีวิตเช่นนี้”
“แยกทางกันเพราะมรรคที่แตกต่าง แต่ไม่กระทบต่อมิตรภาพที่ผ่านมาของทั้งสอง”
จ้งชิวเอ่ยต่อ “ก็เพราะเช่นนี้ ข้าจึงชื่นชมความสง่างามของจูคงเป็นอย่างมาก ตัวเขาก็เหมือนมรรคกระบี่ของเขา องอาจโดดเด่น ปลอดโปร่งไพศาล”
“หากเปลี่ยนเป็นสมัยที่พลังรุ่งเรืองถึงขีดสุด ข้าอยากเอาชนะจูคงก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนอยู่บ้าง”
พูดถึงสุดท้าย น้ำเสียงแฝงความทอดถอนใจ
ความองอาจทั้งชีวิตทำให้ศิษย์พี่รองชื่นชมเป็นอย่างมาก จากเรื่องนี้สามารถมองได้ว่า จูคงคนนี้เป็นคนที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่งจริงๆ
จากนั้นหลินสวินก็ได้รู้ความลับตะลึงฟ้าเรื่องหนึ่ง!
ที่แท้ยามเคราะห์จ่อมจมมาเยือนครั้งแรก ‘ต้นกำเนิดโลก’ ที่ผู้ยิ่งใหญ่ในช่วงต้นยุคดึกดำบรรพ์อย่างพวกจักรพรรดิกระบี่ไท่เสวียนที่มาชิงในโลกมืด ก็คือแดนมกุฎที่เคยปรากฏในดินแดนรกร้างโบราณ!
จากที่จ้งชิวพูด ตอนนั้นที่พวกจักรพรรดิกระบี่ไท่เสวียนทำเช่นนี้ เพราะอยากรักษาต้นกำเนิดที่เป็นของโลกมืดเอาไว้ หวังว่าหลังจากเคราะห์จ่อมจมสิ้นสุดลง จะสามารถทำให้โลกมืดกลับเป็นเหมือนเดิมได้
แต่ผลลัพธ์ได้พิสูจน์ว่า ภายใต้เคราะห์จ่อมจม โลกมืดจมลงไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะฟื้นตัวขึ้นมาอีก
กระทั่งศึกมรรคสิบทิศปะทุขึ้น พลังระเบียบต้องห้ามที่มาจากฟากฝั่งฟ้าดาราปกคลุมทางเดินโบราณฟ้าดารา ต้นกำเนิดโลกที่ได้มาจากโลกมืดนี้ถึงได้มีประโยชน์
นั่นก็คือแดนมกุฎ!
ควรรู้ว่าภายใต้การปกคลุมของพลังระเบียบต้องห้าม ในดินแดนรกร้างโบราณไม่มีมกุฎมรรคาให้เสาะแสวงได้อีก แต่การปรากฏของแดนมกุฎได้ทิ้งความหวังหนึ่งให้กับดินแดนรกร้างโบราณ!
เมื่อได้รู้เรื่องพวกนี้ หลินสวินจึงคลายความสงสัยที่ซ่อนอยู่ในใจมาหลายปี
มิน่าแดนมกุฎถึงเรียกได้ว่าเป็นแดนแห่งวาสนาชั้นเลิศซึ่งไม่เคยมีมาก่อน ที่แท้โลกแห่งนี้ก็แปลงมาจากพลังต้นกำเนิดของโลกมืด!
และไม่แปลกที่แดนมกุฎนั่นจะซ่อนมรดกของบุคคลชั้นเลิศอย่างพวกจักรพรรดิสงครามอู๋ยาง จักรพรรดิกระบี่ไท่เสวียน เซียนผลาญเฉินหลินคง
เดิมทีนี่ก็คือสิ่งที่พวกจักรพรรดิกระบี่ไท่เสวียนทิ้งไว้!
ก็เพราะแดนมกุฎ จึงทำให้หลินสวินก้าวสู่มกุฎมรรคา ครอบครองรากฐานพลังที่สามารถประชันกับหมื่นผู้กล้าทั่วหล้าได้
และเพราะแดนมกุฎ ถึงทำให้ดินแดนรกร้างโบราณได้แก้ชะตาใหม่ ปรากฏบุคคลขอบเขตมกุฎมากมาย!
คิดถึงตรงนี้ในใจหลินสวินอดทอดถอนใจไม่ได้ สิ่งที่พวกจักรพรรดิกระบี่ไท่เสวียนทำ เรียกได้ว่าเป็นคุณูปการนับพันหมื่นปี! อยากไม่ชื่นชมยังยาก
หลินสวินอดถามไม่ได้ “ศิษย์พี่ ตอนนี้พวกจักรพรรดิกระบี่ไท่เสวียนอยู่ที่ไหนหรือ”
“ฟากฝั่งฟ้าดารา” จ้งชิวตอบง่ายมาก
“ฟากฝั่งฟ้าดาราอีกแล้ว…” หลินสวินอึ้ง
เขากับจ้งชิวคุยกันเยอะมาก ทำให้ความสงสัยบางอย่างในใจเขาค่อยๆ ได้รับคำตอบ
อย่างเช่น การปรากฏตัวของแดนปรินิพพาน แม้พลังระเบียบต้องห้ามก็ไม่สามารถรบกวนและทำลายได้
อย่างเช่น จักรพรรดิสวรรค์ดำรงที่มาจากฟากฝั่งฟ้าดารา ในเวลาอันสั้นไม่มีทางกลับจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ได้
อย่างเช่น ผลลัพธ์ของการต่อสู้ระหว่างซีและหญิงชุดม่วง…
แต่ก็ยังมีหลายคำถามที่จ้งชิวไม่สามารถให้คำตอบได้
อย่างเช่น ท่านลู่ที่เคยเป็นเจ้าของเรือนเร้นหมอก… ตอนนี้อยู่ที่ไหน
——