เมื่อเซียวไห่หลงได้ยินคำพูดเหล่านี้เขาเกือบจะสติแตกเลย!

เขามองเห็นบอดี้การ์ดหลายๆคนของอู๋ตงไห่เดินมาหาตัวเอง เขาหวาดกลัวจนเดินถอยหลัง และตะโกนด้วยความประหม่า:”ประธานอู๋ คุณจะทำอะไรเหรอ! พวก…พวกเราทำทุกอย่างเพราะคุณ…คุณไม่รับน้ำใจของพวกเราก็ไม่เป็นไร แต่ทำไมคุณต้องหักแขนทั้งสองข้างของฉันด้วย?”

อู๋ตงไห่โกรธจัดและด่าออกมาทันที:”แม่งเอ๊ย ถ้าคุณยังกล้าพูดว่าทำเพื่อฉัน ฉันจะหักขาทั้งสองข้างของคุณด้วย!”

เซียวไห่หลงหวาดกลัวมากๆ ยังไม่ทันได้หนีได้ไกล เขาก็ถูกบอดี้การ์ดร่างใหญ่หลายๆคนกดไว้กับพื้น

บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆของอู๋ตงไห่ไม่ใช่คนที่ต่อกรได้ง่าย เมื่อเจ้านายสั่งการ พวกเขาจะไม่ลังเลเลย

ดังนั้น เมื่อเซียวไห่หลงโดนกดไว้ที่พื้น ก็มีคนหยิบก้อนอิฐขึ้นมาจากพื้นทันที และใช้ก้อนอิฐทุบไปที่ไหล่ของเขา

เซียวไห่หลงร้องด้วยความเจ็บปวด ยังไม่ทันที่เขาจะกรีดร้องจบ ไหล่อีกข้างหนึ่งก็มีอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรง ความเจ็บปวดเหล่านี้ทำให้เขาเกือบจะหมดสติ

เมื่อเซียวฉางเฉียนเห็นว่าลูกชายตัวเองถูกทำร้ายจนอยู่ในสภาพน่าสังเวช เขาก็รีบอ้อนวอนทันทีและพูดว่า:”ประธานอู๋…ประธานอู๋! ลูกชายของฉันทำเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะหวังดีกับคุณ ถึงแม้ความหวังดีนี้จะกลายเป็นเรื่องไม่ดี คุณก็ไม่ควรทำกับเขาแบบนี้…”

อู๋ตงไห่กัดฟันตัวเองและด่า:”พวกคุณสองพ่อลูกพูดมากเกินไปแล้ว! พวกเจ้ามานี่ จัดการหักแขนทั้งสองข้างของเขาด้วย!”

อู๋ตงไห่ในเวลานี้ เขารู้อยู่แก่ใจว่าเรื่องนี้ไม่สามารถปิดบังได้ ดังนั้นเขาก็เลยเลือกที่จะอยู่ข้างเย่ฉางหมิ่น

เขาแค่ต้องการพิสูจน์ทุกอย่างให้เย่ฉางหมิ่นเห็นว่า ตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์ เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวเองเลย

ดังนั้นในเวลานี้ เซียวฉางเฉียนยังกล้าพูดว่าทำเรื่องนี้เพราะหวังดีกับเขา นี่ไม่ใช่การใส่ร้ายป้ายสีเขาเหรอ?

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็อย่าหาว่าเขาใจร้ายละกัน!

การหักแขนของพวกเขา มันเป็นการพิสูจน์ตัวเองต่อหน้าเย่ฉางหมิ่น

ถ้าเย่ฉางหมิ่นใจอ่อนและได้ระบายความโกรธ หายโกรธ ปัญหาที่ยุ่งยากของตัวเองอาจจะน้อยลงทันที

เซียวฉางเฉียนคาดไม่ถึงจริงๆ ไอ้สารเลวอย่างอู๋ตงไห่ไม่เพียงแค่หักหลังพวกเขา แต่ยังจะหักแขนของลูกชายตัวเอง หลังจากนั้นก็จะหักแขนของตัวเองด้วย!

เมื่อเห็นว่าลูกชายตัวเองโดนทำร้ายและร้องคร่ำครวญกลิ้งอยู่ที่พื้น ความคิดแรกของเขาก็คือรีบหนีไปอย่างรวดเร็ว

แต่เขาแก่จนจะกลายเป็นชายชราแล้ว เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของบอดี้การ์ดวัยกลางคนเหล่านั้นของอู๋ตงไห่อย่างแน่นอน

ดังนั้น เมื่อเขาวิ่งหนีไปได้ไม่กี่ก้าว เขาก็โดนกดลงไปอยู่ที่พื้น

หลังจากนั้น เขาก็โดนทุบสองครั้งด้วยอิฐก้อนเดิม เซียวฉางเฉียนก็เหมือนหมูที่โดนเชือด และโดนโยนไปใกล้ๆกับลูกชายตัวเอง พ่อลูกสองคนร้องคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดดังก้องไปทั่วโกดัง

เสียงคร่ำครวญอันเจ็บปวดนี้ดังมากๆจนเฮลิคอปเตอร์บินมาถึง แต่คนด้านในโกดังไม่ได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์เลย

ในเวลานี้ พ่อลูกคู่นี้ มีเลือดไหลเต็มแขน พวกเขาดูน่าสังเวชมากๆ

เมื่ออู๋ตงไห่เห็นว่าพ่อลูกคู่นี้โดนหักแขนทั้งสองข้าง เขาเดินไปด้านหน้าของเย่ฉางหมิ่นและพูดด้วยความประสบสอพลอ:”คุณผู้หญิงเย่ ฉันได้สั่งสอนไอ้เดรัจฉานสองคนนี้แล้ว ผมหวังว่าคุณจะหายโกรธ…”

เย่ฉางหมิ่นโล่งอกทันที แต่อดไม่ได้ที่จะบ่นว่า:”คุณรีบแก้มัดให้ฉันหน่อย!”

“โอ้ ได้ๆๆ!”อู๋ตงไห่รีบแก้เชือกที่มัดอยู่บนร่างกายของเย่ฉางหมิ่นทันที

เย่ฉางหมิ่นถูกแก้มัดและเป็นอิสระ เธอรีบกระโดดขึ้นจากพื้นทันที โดยไม่สนใจปัสสาวะที่อยู่ในร่างกายของตัวเอง ความคิดแรกของเธอก็หันหลังและจับเส้นผมของหม่าหลันขึ้นมา และตบหน้าหม่าหลันอย่างหนัก!