ตอนที่ 2186 ทวนศึกที่พุ่งผ่านฟ้าดารามาเล่มนั้น

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

แสงอสนีซัดสาด เพริศแพร้วบาดตา ส่องสว่างฟ้าดาราแห่งนี้

ด่านเคราะห์อสนีประหนึ่งประกาศิตปรากฏ กลิ่นอายทำลายล้างที่ปลดปล่อยออกมาทำให้ห้วงอากาศแถบนี้ทรุดตัว เกิดเสียงดังครั่นครืน

มันน่ากลัวเกินไป ประหนึ่งไม่อาจสั่นคลอนได้ เต็มไปกลิ่นอายสูงสุดดั่งต้องห้าม

แต่ที่ทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าทั้งหมดรู้สึกประหลาดใจก็คือ หลังจากเงาร่างหลินสวินระเบิดแล้ว ประกาศิตอสนีเคราะห์นั้นไม่ได้สลายไปเพียงเท่านี้

“ในหมื่นกาลนี่คือศุภโชคชิ้นแรกที่เกี่ยวข้องกับยอดหนทางสู่อมตะ จะหายไปเท่านี้ได้อย่างไร”

มีสัตว์ประหลาดเฒ่าสีหน้าตื่นเต้น รู้สึกคึกคัก หลินสวินตายแล้ว แต่พวกเขายังอยู่!

ขวับ!

ทันใดนั้นก็เห็นเงาร่างหนึ่งพุ่งออกมา ฝ่ามือหนึ่งกำราบประกาศิตอสนีเคราะห์นั้นกลางอากาศ

เห็นได้ชัดว่าสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิคนนี้อดกลั้นไม่ไหว หมายจะชิงยอดศุภโชคชิ้นนี้

แต่ภาพพิสดารกลับปรากฏขึ้น ฝ่ามือที่เขายื่นออกมาสลายไปในชั่วพริบตา ในขณะเดียวกันกลิ่นอายทำลายล้างอันคลุมเครือสายหนึ่งก็แปลงเป็นแสงคล้ายโซ่เทพพุ่งออกมาจากประกาศิตอสนีเคราะห์นั้น

เผียะ!

ร่างของสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิที่พุ่งออกมาระเบิดออกในชั่วพริบตา จิตวิญญาณยังถูกตบกระจุย กลายเป็นฝุ่นควันโดยสมบูรณ์

ภาพความตายนี้กระตุ้นให้คนอื่นตัวสั่นเทา ความละโมบที่เพิ่งผุดขึ้นในใจเมื่อครู่ดับลงในพริบตา ถูกความหนาวเยือกเข้าแทนที่

ชั่วพริบตาสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิคนหนึ่งก็จิตสิ้นวิญยาณสลาย! นี่จะให้ใครกล้าจ้าไปช่วงชิง

และในขณะเดียวกัน เงาร่างคล้ายภาพมายาร่างหนึ่งควบรวมออกมาจากแสงอสนีเคราะห์นั้น แปลงเป็นเตาหลอมเตาหนึ่ง

ครืน!

เตาหลอมส่องแสง กำราบประกาศิตอสนีเคราะห์นั้นไว้ภายใน

“เป็นเขา เจ้าสวะนั่นยังมีชีวิตอยู่!” มีคนอุทาน

เหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าที่อยู่ในที่นั้นต่างก็มองออกแล้ว แต่ละคนตกตะลึงอ้าปากคร้าง เจ้าหมอนี่ถึงกับยังไม่ตายหรือ!

เรื่องนี้น่าเหลือเชื่อเกินไปอย่างไม่ต้องสงสัย ก่อนหน้านี้ใครก็เห็นเงาร่างเขาระเบิดกระจุย ศีรษะถูกทำลาย สลายไปโดยสมบูรณ์ แต่ตอนนี้กลับฟื้นขึ้นมาอีกแล้ว

ครืนโครม…

ภายใต้เมฆาเคราะห์ปั่นป่วน เตาหลอมส่งเสียงดังสนั่นเหมือนเดือดพล่าน

พอจะเห็นว่ารอบๆ เตาหลอมนั้นมีกฎเกณฑ์มหามรรคมากมายปรากฏ สำแดงวิชามากมาย เข้ากำราบไม่ว่างเว้น เผยอานุภาพกำราบหมื่นกาลออกมา

เพียงแต่ประกาศิตอสนีเคราะห์ที่ถูกกำราบอยู่ภายในนั้นน่ากลัวเกินไป ครู่สั้นๆ ก็ถล่มเตาหลอมนี้กระจุย ทำให้มันระเบิดกระจาย!

ด่านเคราะห์รอบนี้น่ากลัวเกินไปจริงๆ หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นที่ทะลวงระดับจักรพรรดิ ต้องถูกปลิดชีพไปนานแล้วเป็นแน่

และเมื่อเห็นภาพนี้ ยังไม่ทันรอให้พวกสัตว์ประหลาดเฒ่าได้สติกลับมาก็เห็นว่าเงาร่างหลินสวินมารวมตัวกันอีกครั้ง!

ละอองแสงกฎเกณฑ์อันลึกลับที่ถักทออยู่รอบกายเขาแปลงเป็นเตาหลอมมหามรรค กลืนกินประกาศิตอสนีเคราะห์ เข้ากำราบอีกครั้งหนึ่ง

ตูม! ตูม!

ฟ้าดินสะเทือนเลื่อนลั่น แสงเคราะห์ทะลวงผ่านฟ้าดารา กระแสปั่นป่วนตลบม้วนดั่งดับทำลาย เตาหลอมที่หลินสวินแปลงมาสั่นสะเทือนรุนแรง ประหนึ่งหญ้าฟางกลางคลื่นคลั่งกรรโชก

เพียงแต่ต่อให้เป็นเช่นนี้เขาก็ยังมั่นคง ใช้พลังทั้งหมดเข้ากำราบ เป็นตายคืออะไร ความเจ็บปวดคืออะไร ความคิดอะไร… มลายไปสิ้นแล้ว

เบื้องหน้านี้ เขาแค่ต้องการกำราบด่านเคราะห์นี้ หลอมด่านเคราะห์นี้!

แม้ว่าจะถูกเล่นงานจนเหลือเพียงความคิดเจตจำนง เขาก็จะไม่ยอมแพ้เท่านี้

เหล่าจักรพรรดิที่อยู่ตรงนั้นต่างอึ้งงัน ทำใจเชื่อได้ยาก ว่านี่เป็นสิ่งที่ชายหนุ่มซึ่งยังไม่บรรลุจักรพรรดิอย่างแท้จริงคนหนึ่งทำได้

ตูม!

น่าเสียดาย ครู่หนึ่งผ่านไปเงาร่างที่แปลงเป็นเตาหลอมนั้นของหลินสวินระเบิดออกอีกครั้ง ถูกประกาศิตอสนีเคราะห์ถล่มแหลก หายลับไปในแสงเคราะห์เต็มฟ้า

“คราวนี้คงตายโดยสมบูรณ์เสียทีกระมัง…” ตอนนี้สัตว์ประหลาดเฒ่าบางส่วนไม่กล้าแน่ใจแล้ว ถูกตบหน้ามาหลายครั้งเกินไปจริงๆ ถึงกับทำให้พวกเขาสงสัยตัวเองอย่างห้ามไม่อยู่

“พวกเจ้าคิดว่าต่อให้เขารอดชีวิตจากเคราะห์นี้จริงๆ แต่จะ… รอดได้นานแค่ไหนกัน” มีคนเอ่ยเนิบๆ

ประโยคเดียวทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าต่างหัวเราะอย่างอดไม่แล้ว ข้ามด่านเคราะห์สำเร็จแล้วอย่างไร มีระดับจักรพรรดิหลายร้อยคนอย่างพวกเขาอยู่ข้างๆ มีสัตว์ประหลาดฟ้าดาราที่อยู่ไกลออกไปเหล่านั้นจ้องตะครุบ เขาจะรอดไปได้ถึงตอนไหน

“แต่ถ้าเขารอด จะไม่ได้หมายความว่ายอดศุภโชคนั่นก็ถูกเขาได้ไปแล้วหรือ” มีคนนิ่วหน้า

“ศุภโชคชั้นนี้ เขาจะเอามาเป็นของตัวเองทันทีได้อย่างไร ชิงมาได้ก็พอแล้ว” มีคนพูดเอ่ยอย่างเป็นเหตุเป็นผล

ชั่วขณะหนึ่งสัตว์ประหลาดเฒ่าเหล่านี้ต่างเยือกเย็นลงไม่น้อย

“ยังไม่ตายจริงๆ…” จู่ๆ ก็มีคนร้องเสียงดัง

ทุกคนมองไป ก็เห็นเงาร่างหลินสวินควบรวมในแสงด่านเคราะห์แล้วปรากฏตัวออกมาดังคาด

เขาแปลงกายเป็นเตาหลอม กำราบประกาศิตอสนีเคราะห์นั้นอีกครั้ง!

ทุกคนมองหน้ากันอย่างอดไม่ได้ ในใจระส่ำระสาย ความสามารถประหนึ่งไม่ตายไม่ดับสิ้นนั้นของหลินสวินทำให้พวกเขารู้สึกหวาดผวา

ต่างไม่กล้าคิดว่าต้องมีพลังเย้ยฟ้าปานไหนจึงทำได้ถึงขั้นนี้

“ไม่ได้ จะมองดูแบบนี้ไม่ได้”

ทันใดนั้นจักรพรรดิกระบี่อวิ๋นกวงที่มาจากเผ่าจักรพรรดิดึกดำบรรพ์ หรือก็คือชายชุดขาวที่ก่อนหน้านี้เคยเอ่ยปากเอาซย่าจื้อมาข่มขู่หลินสวินสีหน้าเหี้ยมเกรียม “ข้าอยากถามสักคำ ทุกท่านในที่นี้ใครอยากไปจับผู้หญิงคนนั้นกับข้าบ้าง”

ขณะที่พูด สายตาของเขาก็มองไปยังซย่าจื้อที่อยู่ไกลออกไป

“ข้าช่วยพี่ข่งอีกแรง”

“เรื่องดีปานนี้จะขาดข้าได้อย่างไร”

“จับผู้หญิงคนนี้แล้วจะคุกคามหลินสวินนั่นได้ ทำให้ใจเขาปั่นป่วนยิ่งยวดแน่!”

ทันใดนั้นก็มีระดับจักรพรรดิหลายคนก้าวออกมา แต่ละคนกลิ่นอายคับฟ้า ทั้งร่างอบอวลด้วยกลิ่นอายน่ากลัวโหดเหี้ยมไร้ขอบเขต

เห็นดังนี้จักรพรรดิกระบี่อวิ๋นกวงก็เผยสีหน้าฮึกเหิมอย่างอดไม่ได้ ยิ้มเหี้ยมเอ่ยว่า “หลินสวิน คราวนี้ผู้หญิงคนนั้นจะตายเพราะเจ้า!”

ระหว่างที่พูดเขาเคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศ พุ่งไปหาซย่าจื้อที่อยู่ไกลออกไปพร้อมกับระดับจักรพรรดิหลายสิบคน อานุภาพดุดันฮึกเหิม

“ต่ำช้า ต่ำช้าเกินไปแล้ว…” จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงเส้นเอ็นปูดโปน ดวงตาแดงก่ำ ควบคุมความโกรธเกรี้ยวที่ประหนึ่งแม่น้ำพลิกทะเลคว่ำในใจเอาไว้สุดแรง เขาไม่ได้ขัดขวาง เพราะอาศัยเขาคนเดียวก็ไม่ต่างอะไรกับรนหาที่ตาย

ยิ่งไปกว่านั้น ความแข็งแกร่งในพลังต่อสู้ของซย่าจื้อ ล้วนสามารถสังหารสัตว์ประหลาดฟ้าดาราที่เทียบได้กับระดับจักรพรรดิขั้นห้ากับขั้นหก มีหรือจะต่อกรได้ง่ายปานนั้น

ตูม ครืน!

ฟ้าดาราแห่งนี้ยิ่งโกลาหล เงาร่างหลินสวินที่แปลงเป็นเตาหลอมถูกทำลายอีกครั้ง แต่ไม่ทันไรก็ควบรวมใหม่อีก แล้วแปลงเป็นเตาหลอมเข้ากำราบต่อ

พังพินาศครั้งแล้วครั้งเล่า กำราบครั้งแล้วครั้งเล่า ประหนึ่งไม่หยุดหย่อนชั่วนิรันดร์

เพียงแต่อันตรายที่ประสบในนั้นใครจะได้รู้

ในขณะเดียวกันกลางฟ้าดาราไกลโพ้น การเคลื่อนไหวล้อมเหยื่อที่พุ่งเป้ามาที่ซย่าจื้อก็ปะทุขึ้นแล้ว

ซย่าจื้อไม่ได้หนี แต่เลือกลงมือทันที ตัวคนเดียวถือทวนศึกกระดูกขาว รับศึกจากสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิหลายสิบคน!

นี่ไม่ใช่สัตว์ประหลาดฟ้าดาราที่ไร้สติปัญญา สัตว์ประหลาดเฒ่าเหล่านี้ต่างครอบครองกฎเกณฑ์มหามรรค มียอดวิชาต่อสู้มากมาย เป็นภัยคุกคามที่เหนือกว่าสัตว์ประหลาดฟ้าดาราระดับเดียวกัน

ยกตัวอย่างเช่น สัตว์ประหลาดที่เทียบได้กับระดับจักรพรรดิขั้นหนึ่ง ถ้าสู้กันจริงๆ ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้ฝึกปราณระดับจักรพรรดิแท้!

แต่ที่ทำให้ทุกคนต่างคิดไม่ถึงก็คือ ทันทีที่เปิดศึกก็มีสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิสองสามคนถูกสังหาร

ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!

รูปแบบการต่อสู้ของซย่าจื้อยังเรียบง่ายเด็ดขาดหาใดเทียบดังเดิม หนึ่งทวนศึกทะลวงแทง ซัดลมคาวฝนเลือดแถบหนึ่ง

ที่ถูกนางฆ่ามีระดับจักรพรรดิขั้นสองสองคน ระดับจักรพรรดิขั้นสามหนึ่งคน ล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหนึ่งกระบวนท่าของนาง บ้างถูกแทงทะลุทรวงอก บ้างถูกกระแทกสมองกระจุย บ้างถูกฟันเป็นสองท่อน!

ภาพความตายนองเลือดภาพแล้วภาพเล่าทำให้ระดับจักรพรรดิหลายสิบคนนั้นต่างหน้าเปลี่ยนสี เพิ่งตระหนักได้ยามนี้ ว่าก่อนหน้านี้ผู้หญิงคนนี้เคยอาศัยทวนศึกเล่มเดียวก็ช่วยหลินสวินต้านคลื่นคลั่ง สังหารจนทัพสัตว์ประหลาดนั่นร่วงหล่นดั่งสายฝน!

“นางมีแค่คนเดียว จะเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเราได้อย่างไร ทุกท่านอย่าได้หวาดกลัวไป”

จักรพรรดิกระบี่อวิ๋นกวงตะคอกลั่น พุ่งไปข้างหน้า ตวัดกระบี่ผ่านฟ้าดารา อานุภาพดุดัน

“ฆ่า!” สัตว์ประหลาดเฒ่าเหล่านั้นก็ร่วมกันลงมือ เข้าปิดล้อมซย่าจื้อ แต่ละคนระแวดระวังหาใดเทียบ คิดจะดำเนินการช้าๆ ไม่กล้าบุ่มบ่ามเอาชีวิตเข้าแลก

น่าเสียดาย ไม่มีใครรู้ว่าซย่าจื้อที่เห็นอันตรายและการต่อสู้มากมายซึ่งหลินสวินประสบยามข้ามด่านเคราะห์ แต่ไม่อาจช่วยอะไรได้นั้น ในใจโมโหโกรธาปานไหน

ความโกรธและไอสังหารเต็มอกไม่มีที่ระบายออก แต่พวกจักรพรรดิกระบี่อวิ๋นกวงดันกระโจนเข้ามา นี่ทำใหเซย่าจื้อเหมือนหาทางระบายโทสะเจอ

และออกโจมตีอย่างกราดเกรี้ยว!

นางต้องการระบาย หาไม่นางยังสงสัยว่าตนจะรับความเจ็บปวดเช่นนั้นไหวหรือไม่

ซย่าจื้อที่เดือดดาลยิ่งยวดแข็งแกร่งปานไหนหรือ

ภาพแต่ละภาพที่เกิดขึ้นต่อจากนั้น ก็ทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิที่อยู่ในที่นั้นได้สัมผัสอย่างลึกซึ้ง

เพียงครู่สั้นๆ ซย่าจื้อบุกตะลุยโจมตีศัตรูเพียงลำพัง สังหารคู่ต่อสู้เจ็ดคนต่อเนื่องด้วยอานุภาพทำลายล้างรุนแรง เลือดเนื้อที่แหลกกระจุยลอยไปทั่ว ชักนำเสียงอุทานไม่รู้เท่าไร

ใครก็ไม่อาจคาดคิด ว่าซย่าจื้อที่ถูกล้อมโจมตีถึงกับยังแกร่งกล้าปานนี้

นั่นเป็นถึงระดับจักรพรรดิ มาจากขุมอำนาจใหญ่ต่างๆ ในฟ้าดารา แต่ละคนต่างเป็นบุคคลที่เรียกได้ว่าสูงส่งล้ำเลิศ ผงาดผยองเหนือสรรพชีวิตได้!

แต่ต่อหน้าซย่าจื้อ กลับอ่อนแอเหมือนไก่กระเบื้องสุนัขดินเผา!

และมีเพียงผู้แข็งแกร่งที่มีระดับสูงกว่าระดับจักรพรรดิขั้นสี่ถึงพอจะต้านซย่าจื้อได้ แต่คิดจะกำราบนาง ต่อให้เป็นระดับจักรพรรดิขั้นห้ายังไม่ไหว

นี่ทำให้จักรพรรดิกระบี่อวิ๋นกวงสีหน้าอึมครึม กราดเกรี้ยวหาใดเทียบ แม้แต่เขายังคิดไม่ถึงว่าสหายร่วมมรรคออกเคลื่อนไหวมากมายปานนี้ แต่กลับยังจับผู้หญิงคนเดียวไม่ได้

มองเห็นว่าซย่าจื้อบุกเข้ามาในที่นั้น อานุภาพไม่อาจต้านทานได้ แต่ก็ในตอนนี้เอง

ตูม!

จู่ๆ ส่วนลึกฟ้าดารานั้นก็เกิดความเคลื่อนไหวประหลาด ทวนศึกที่มีแสงมรรคน่าสะพรึงเล่มหนึ่งพุ่งเข้ามาอย่างฉับไว เสมือนทำลายพันธนาการของกาลเวลาและความว่างเปล่า

ฟุบๆๆ!

ฝูงสัตว์ประหลาดฟ้าดาราที่เดิมกระจายตัวอยู่ใกล้ๆ ต่างหลบไม่ทัน ถูกทวนศึกเล่มนั้นทะลวงผ่านเป็นทางโลหิต!

มีสัตว์ประหลาดอย่างน้อยสามสิบกว่าตัวตายคาที่ในชั่วพริบตาบนทางโลหิตนี้ ไม่ว่าศักยภาพจะสูงต่ำ ล้วประหนึ่งกระดาษเปื่อย ไม่อาจต้านทวนศึกเล่มนั้นได้สักนิด!

มันน่ากลัวเกินไปแล้ว กลิ่นอายที่แผ่ออกมาเหมือนมาจากก่อนหมื่นกาล สำแดงอานุภาพอหังการที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจต้านทานได้

“เป็นมัน!” มีสัตว์ประหลาดเฒ่าร้องเสียงแหลมด้วยความครั่นคร้าม

เจ็ดปีก่อนหน้านี้ เคยมีสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิขั้นหกคนหนึ่งที่เฝ้ากำแพงเมืองหมื่นมรรคอยู่ ถูกทวนศึกซึ่งพุ่งมาจากส่วนลึกของฟ้าดาราฆ่าตาย

หลายคนเดาว่าเจ้าของทวนศึกนี้ เป็นไปได้สูงยิ่งว่าจะเป็นบุคคลน่ากลัวที่มาจากฟากฝั่งฟ้าดารา

และตอนนี้ ทวนศึกเล่มนี้ปรากฏขึ้นอีกครั้งแล้ว!

พวกจักรพรรดิกระบี่อวิ๋นกวงต่างตกตะลึง หลบหนีอย่างไม่ลังเลสักนิด ที่ทำให้พวกเขายินดีก็คือ ทวนศึกนี้ไม่ได้พุ่งมาหาพวกเขา

แต่เป็นหลินสวินที่กำลังข้ามด่านเคราะห์!

เมื่อเห็นภาพนี้ เงาร่างสูงเพรียวของซย่าจื้อที่เดิมกำลังสู้ศึกอยู่พลันชะงักค้าง จากนั้นก็ถลาออกไปหาทวนศึกเล่มนั้นด้วยความเร็วทั้งหมดทันที

ไม่ว่าเป็นใคร นางก็จะไม่ยอมให้การข้ามด่านเคราะห์ของหลินสวินถูกรบกวน!

เพียงแต่ที่ทำให้นางแทบสิ้นหวังก็คือ ทวนศึกเล่มนั้นเร็วเกินไป คล้ายทำลายพันธนาการห่วงอากาศว่างเปล่า เพิกเฉยต่อโซ่ตรวนแห่งกาลเวลาได้

ชั่วพริบตาก็พุ่งไปถึงใต้เมฆาเคราะห์นั่นแล้ว!