เย่เฉินยิ้มกล่าว: “ลุงกู้ครับ ทางนี้โอเคทุกอย่างครับ ลุงและน้าหลินสบายดีไหมครับ?”
“ดี! พวกเราสบายดี!” กู้เย้นจงพยักหน้าติดต่อกัน ในตอนนี้ หลินหว่านชิวก็ได้ยืนอยู่ที่ด้านหลังของเขา มองดูเย่เฉินที่อยู่ในวิดีโอคอ และยิ้มกล่าว: “เฉินเอ๋อ เมื่อไร่จะมาพักที่เย่นจิงสักระยะ? ช่วงนี้ลุงกู้ของนายคิดถึงนายมาก ในหนึ่งวันบ่นถึงนายอยู่หลายครั้ง จนหูของน้าแทบเกิดรังไหมขึ้นมาแล้ว”
เย่เฉินยิ้มกล่าว: “ลุงกู้ น้าหลินครับ รอผมเสร็จธุระ ผมจะหาเวลาไปเยี่ยมทั้งสองท่านที่เย่นจิงนะครับ”
กู้ชิวอี๋ที่ยืนอยู่ด้านข้างของกู้เย้นจงทำปากจู๋บ่นอย่างไม่พอใจ: “อะไรที่บอกว่าเยี่ยมพวกท่านทั้งสอง แล้วฉันจะทำยังไง? ไม่ต้องเยี่ยมฉันแล้วเหรอ?”
เย่เฉินรีบกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม: “เยี่ยมสิ จะต้องเยี่ยมอย่างแน่นอน พี่พูดผิดไป มีเวลาพี่จะไปเยี่ยมเธอและลุงกู้ น้าหลิน! ตอนนี้พอใจหรือยัง?”
กู้ชิวอี๋กล่าวอย่างได้ใจ: “ยังพอว่าหน่อย!”
ในตอนนี้เอง กู้เย้นจงก็ได้เอ่ยขึ้น: “ใช่แล้วเฉินเอ๋อ ฉันได้ยินมาว่าอาหญิงของนายได้ไปที่เมืองจินหลิงเหรอ?”
“ใช่ครับ” เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย: “ลุงกู้ได้ข่าวแล้วเหรอครับ?”
กู้เย้นจงยิ้มเล็กน้อย กล่าว: “เช้าวันนี้คุณปู่ของนายได้โทรมาหาฉัน และเล่าเรื่องนายและอาหญิงของนายให้ฉันฟัง”
เย่เฉินกล่าวอย่างตกใจ: “ท่านรู้เรื่องที่ผมได้พบกับลุงแล้วเหรอครับ?”
กู้เย้นจงส่ายหัว: “ท่านยังไม่รู้หรอก ดังนั้นท่านก็เลยคิดว่าฉันยังไม่ได้รับข่าวคราวของนาย ถึงได้เล่าเรื่องของนายให้ฉันฟัง”
เย่เฉินถามอย่างไม่เข้าใจ: “ทำไมท่านถึงได้เล่าเรื่องพวกนี้ให้ลุงฟังล่ะครับ?”
กู้เย้นจงยิ้มกล่าว: “ดูจากความหมายของท่านแล้ว หลัก ๆ ก็คือต้องการบอกข่าวคราวของนายกับฉัน จากนั้นก็ถามฉันว่ายังยินดีที่จะทำตามข้อตกลงที่ได้คุยกับพ่อของนายในตอนนั้นหรือเปล่า ให้นายกับหนานหนานแต่งงานกัน”
ภายในใจของเย่เฉินอดไม่ได้ที่จะประหม่าขึ้นมา
ดูเหมือนว่า ความหมายของคุณปู่ ยังอยากที่จะพาตัวเองกลับไปบ้านตระกูลเย่ แล้วให้ตัวเองแต่งงานกับกู้ชิวอี๋
ในตอนนี้ กู้เย้นจงเองก็ได้มองความประหม่าของเย่เฉินออก จึงรีบกล่าวขึ้นมา: “เฉินเอ๋อ เรื่องนี้น่ะ นายไม่ต้องกดดันอะไร ฉันแค่บอกกับคุณปู่ไปว่ายินดีที่จะทำตามข้อตกลงที่ได้คุยกับพ่อของนายไว้ แต่ฉันก็ได้บอกไปแล้วว่า เรื่องนี้จะต้องเคารพการตัดสินใจของเด็ก ๆ”
กล่าวไป กู้เย้นจงก็ได้พูดขึ้นมาอีก: “เฉินเอ๋อ นายยังคงเดินตามจังหวะของตัวเอง ในเมื่อฉันได้พูดแล้วว่า ครอบครัวของพวกเรารอนายสามปี ก็รอนายสามปี”
เย่เฉินพยักหน้าเบา ๆ กล่าว: “ลุงกู้ครับ ขอบคุณที่เข้าใจผมนะครับ…”
กู้เย้นจงโบกมือ กล่าว: “ชีวิตของลุงกู้เป็นนายที่ช่วยเอาไว้ นายไม่ต้องเกรงใจลุงแบบนั้นหรอก”
จากนั้น กู้เย้นจงก็ได้กล่าวขึ้นมาอีก: “ใช่แล้ว คุณปู่ของนายยังได้ให้ฉันเกลี้ยกล่อมนาย ถึงยังไงนายและอาหญิงของนายก็เป็นคนในครอยบครัวเดียวกัน อย่าโกรธเคืองแบบนี้เลย ยิ่งอย่าได้ทำลาย ความสัมพันธ์กัน”
เย่เฉินกล่าว: “ลุงกู้ครับ อาหญิงของผมคนนี้น่ะ ใช้อำนาจบาตรใหญ่มากเกินไป คุณปู่ของผมก็ไม่ยอมจัดการกับเธอขั้นเด็ดขาด ทันทีที่มาถึงเมืองจินหลิงก็เรียกให้ผมทำนั่นทำนี่ คอยสั่งการอยู่ตลอดเวลา แถมยังไปพูดจามั่วซั่วกับแม่ยายของผม แบบนั้นมันอวดดีเกินไปแล้วจริง ๆ นะครับ”
กู้เย้นจงพยักหน้ากล่าว: “อยู่ที่เย่นจิงอาหญิงของนาย เป็นคนขึ้นชื่อว่ายากที่จะกัดการได้ คิดไม่ถึงว่าไปที่เมืองจินหลิงจะถูกนายจัดการได้
เย่เฉินกล่าวอย่างสงบ: “ถ้าหากเธอไม่ทำมากจนเกินไป ผมเองก็ไม่อยากจะไปอะไรกับเธอหรอกครับ”
กู้เย้นจงยิ้มเบา ๆ กล่าว: “คุณปู่ของนายยังอยากจะให้ฉันเกลี้ยกล่อมนาย ถ้าหากมีเวลา ก็กลับไปดูที่บ้านตระกูลเย่หน่อย ปีนี้เมื่อผ่านตรุษจีนไป ค่อยฉลองเทศกาลโคมไฟ ก็จะเข้าเดือนสามแล้ว เขาหวังว่าเทศกาลเชงเม้งนายจะกลับไปที่บ้านตระกูลเย่ ร่วมงานพิธีบูชาบรรพบุรุษที่ตระกุลเย่จัดขึ้นที่ภูเขาเย่หลิงซานกับพวกขา”
เย่เฉินกล่าวด้วยความประหลาดใจ: “จัดพิธีบูชาบรรพบุรุษเหรอครับ?”
“ใช่” กู้เย้นจงกล่าว: “แต่ในแต่ไรมาตระกูลเย่ของพวกนายจะจัดพิธีบูชาบรรพบุรุษในทุก ๆ สิบสองปี และเป็นปีนี้พอดี นอกจากนี้ภูเขาเย่หลิงซานได้พัฒนามาสามปีกว่า พึ่งจะเสร็จลงเมื่อฤดูใบไม้ผลิของปีที่แล้ว พอถึงฤดูใบไม้ร่วงตระกูลเย่ถึงได้อัญเชิญสุสานบรรพบุรุษเข้าไป ดังนั้นเทศกาลเชงเม้งของปีนี้ เป็นเทศกาลเชงเม้งปีแรกหลังจากที่สุสานบรรพบุรุษของตระกูลเย่ได้ถูกเชิญเขามาที่ภูเขาเย่หลิงซาน”
“ดังนั้นคุณปู่ของนายเลยต้องการจัดพิธีบูชาบรรพบุรุษให้ใหญ่โต พอถึงตอนนั้นไม่ใช่เพียงตระกูลของพวกนายที่แซ่เย่ ยังจะมีคนที่แซ่เย่อีกหลายแขนงจากทั่วทั้งประเทศมาร่วมงานด้วย นายเป็นลูกหลายสายตรงของตระกูลเย่ เขาหวังว่านายจะไปร่วมงานด้วย และถือโอกาสกราบไหว้พ่อแม่ของนายอย่างเป็นทางการ”