อันเจิงเกือบคิดว่าหลินสวินจงใจหาเรื่อง

ต่อให้ขายตัวเอง เกรงว่ายังจ่ายเงินประมูลวารีแรกปฐมไม่ได้ด้วยซ้ำ…

แต่ครู่ต่อมาอันเจิงก็รู้สึกละอายใจเต็มอก ซ้ำยังรู้สึกสะท้านสะเทือน

หลินสวินล้วงถุงเก็บของใบหนึ่งออกมา ในนั้นบรรจุศาสตราจักรพรรดิสามสิบกว่าชิ้น แม้จะดูเหมือนของโจร แต่ความยิ่งใหญ่ของมูลค่าก็ไม่สามารถประเมินได้!

“ของพวกนี้หากไม่พอประมูลวารีแรกปฐม ก็ใช้ถุงเก็บของใบนี้”

กล่าวพลางหลินสวินยื่นให้อันเจิงอีกใบ เมื่อเปิดออกดู ในนั้นบรรจุหลายสิบล้านเหรียญเจินหลง ของล้ำค่าสมบัติประหลาดนานาชนิดที่เหมือนภูเขาลูกย่อมๆ เจตวัตถุ วัตถุดิบเทพที่ไม่สามารถนับจำนวนได้เอาไว้…

อันเจิงสูดหายใจสะท้าน ใคร่ครวญเนิ่นนานกว่าจะมั่นใจได้ในที่สุด ว่าเพื่อจะประมูลวารีแรกปฐม หลินสวินจริงจังมาก!

เขาอดกล่าวไม่ได้ “ผู้อาวุโส เหตุไม่ไปด้วยตัวเองเล่า”

หลินสวินกล่าว “ไม่สะดวก”

ไม่สะดวกจริงๆ สถานที่อย่างงานประมูลนั้น ต้องมีคนมากมายหลายสายตา เกิดถูกคนจำได้จะสร้างเรื่องวุ่นวายไม่น้อย

แน่นอน หลินสวินไม่ได้กลัวความวุ่นวาย ที่ให้อันเจิงไปแทน หนึ่งคืออีกฝ่ายเป็นทายาทเลือดบริสุทธิ์เผ่าจักรพรรดิปี้อั้น บนเกาะเทพรุ้งมรกตแห่งนี้เกรงว่าไม่มีใครกล้าไปหาเรื่อง

อีกอย่าง สมบัติกองนี้ที่เขามอบให้อันเจิงล้วนมาจากเผ่าจักรพรรดิเจินโห่ว ต่อให้เป็นของโจร ตอนที่ทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนก็ต้องถูกคนจำได้แน่นอน

และการมอบให้อันเจิงไปขายของโจร ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะเกิดปัญหาอะไรแล้ว

“รีบไปเถอะ รองานประมูลจบข้าจะไปหาเจ้าเอง”

หลินสวินตบไหล่อันเจิงที่ยังคงเหม่อลอย “เรื่องนี้หากทำสำเร็จ ข้าจะให้เจ้าได้เห็นสักหน่อยว่าประทับปี้อั้นของจริงเป็นอย่างไร”

อันเจิงพยักหน้า สูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง “เช่นนั้นข้าไปก่อนแล้ว”

จนกระทั่งมาถึงหอคันฉ่องสวรรค์ คราวนี้อันเจิงจึงฉุกคิดขึ้นมาได้ อะไรที่เรียกว่าประทับปี้อั้นของจริง ความหมายของคำพูดนี้ออกจะทำให้คนฉงนเกินไปหน่อย

ถึงขั้นทำให้ผู้คนรู้สึกว่าเหลวไหล

อย่างไรเสียประทับปี้อั้นก็เป็นถึงมรดกของพวกเขาเผ่าจักรพรรดิปี้อั้นเชียว!

อันเจิงส่ายหน้า ไม่คิดมากความอีก หลังจากแจ้งฐานะ เขาก็ตรงไปยังห้องที่ราคาแพงที่สุดซึ่งถูกหอคันฉ่องสวรรค์จัดแจงไว้

ระหว่างนั้นหลินสวินเดินเล่นคนเดียวอยู่บนเกาะเทพรุ้งมรกต ยังคงใช้เงินเหมือนละลายน้ำตามเดิม

ของล้ำค่าที่ไม่เคยแม้แต่จะได้ยินมาก่อน?

ซื้อ!

วัตถุดิบอาหารที่ไม่เคยเจอมาก่อน?

ซื้อ!

ของเฉพาะถิ่นพวกนี้ดูค่อนข้างน่าสนใจ?

ซื้อ!

หลินสวินที่จับจ่ายตลอดทาง ไม่ว่าเดินไปที่ไหนต่างได้รับการปฏิบัติอย่างกระตือรือร้นที่สุด ถึงขั้นที่เพราะเขาจ่ายเงินมือเติบจึงเรียกเสียงฮือฮาไม่น้อยอีกด้วย

ไม่นานนักร้านค้าที่เปิดกิจการทั่วทั้งเกาะเทพรุ้งมรกตแทบจะรู้กันหมด ว่าวันนี้มี ‘คนรวย’ ที่กระเป๋าหนักคนหนึ่งมา แสดงให้คนทั่วหล้าเห็นกันจะจะตัวเป็นๆ ว่าอะไรที่เรียกว่าใช้เงินทองเหมือนก้อนดิน อะไรที่เรียกว่าใช้เงินตามใจ

เหรียญเจินหลงหลอมขึ้นมาจากผลึกมรรคทองดำที่บริสุทธิ์อย่างหนึ่ง และเป็นสกุลเงินที่สิ่งมีชีวิตหมื่นเผ่าในแดนเจินหลงต่างยอมรับ

แต่สำหรับหลินสวินแล้ว สกุลเงินเช่นนี้ก็แค่ตัวเลขอย่างหนึ่ง ไม่ได้มีราคามากมายอะไรนัก หากไม่ใช้ให้หมดตอนนี้ ต่อไปหากกลับสู่ทางเดินโบราณฟ้าดาราก็ใช้ไม่ได้อีกแล้ว

เผ่าจักรพรรดิเจินโห่วดีชั่วอย่างไรก็เป็นนายเหนือหัวแห่งเมืองหนึ่ง ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ความมั่งคั่งที่สั่งสมมาสามารถทำให้มหาจักรพรรดิคนใดก็ตามน้ำลายไหลได้

และตอนนี้ ทรัพย์สมบัติเหล่านี้ล้วนกลายเป็นทรัพย์หลังศึกของหลินสวิน นอกจากสมบัติพวกนั้นที่เอาให้อันเจิงแล้ว บนตัวหลินสวินยังมีอีกเพียบ

กล่าวง่ายๆ คือ ไม่ขาดเงิน!

ไม่นานนักหลินสวินมาถึงพื้นที่ซื้อขายลักษณะพิเศษแถบหนึ่ง การค้าขายที่เกิดขึ้นในที่นี้ล้วนมีแต่ทาส!

ก็เห็นในกรงที่เบียดเสียดแน่นขนัดล่ามโซ่สิ่งมีชีวิตไว้หลากหลาย ส่วนใหญ่ล้วนเป็นเผ่าเล็กอ่อนแอที่แปลกประหลาดหายาก

บนใบหน้าของสิ่งมีชีวิตที่ตกเป็นทาสแต่ละคนเต็มไปด้วยความเฉยชา เหมือนสินค้าที่ปล่อยให้คนเลือกสรร ถูกชี้จับจอง วิพากษ์วิจารณ์ตามใจชอบ

หลินสวินกวาดสายตาสำรวจปราดหนึ่ง ก็มองเห็นทาสเผ่ามนุษย์ที่ถูกจับตัวมาส่วนหนึ่ง ต่างผมเผ้ายุ่งเหยิง อาภรณ์ขาดหลุดลุ่ย แทบจะมีแต่ช่วงอายุสิบกว่าปี มีทั้งชายทั้งหญิง

“ใต้เท้า ท่านต้องการเลือกทาสหรือ” ชายชุดเงินที่หน้าตาอัปลักษณ์คนหนึ่งยิ้มพลางเดินเข้ามา

หลินสวินมองออกในปราดเดียวว่านี่คือสิ่งมีชีวิตเผ่าค้างคาวเขียวกระหายเลือด กล่าวว่า “ทั้งตลาดมีเผ่ามนุษย์เท่าไหร่”

ชายชุดเงินกล่าวว่า “ใต้เท้าต้องการกี่คน”

“เอาหมด”

ชายชุดเงินคึกคัก กล่าวอย่างฮึกเหิม “ใต้เท้า พูดแบบไม่ปิดบังท่าน ทั่วทั้งเกาะเทพรุ้งมรกต การติดต่อซื้อขายทาสเผ่ามนุษย์มีพวกเราเผ่าค้างคาวเขียวกระหายเลือดควบคุมมาตลอด ที่ท่านเห็นตอนนี้เป็นแค่ส่วนน้อยเท่านั้น”

เขาหยุดไปพักหนึ่งค่อยกล่าวลองเชิง “สิ่งเดียวที่ข้าน้อยเป็นห่วงคือ ใต้เท้าท่านจะซื้อหมดได้จริงหรือไม่”

หลินสวินโยนถุงเก็บของใบหนึ่งออกไป “เจ้าเอาของพวกนี้แทนค่ามัดจำก็ได้”

ลมหายใจของชายชุดเงินเปลี่ยนเป็นหอบหนักขึ้นมา ภายในถุงเก็บของบรรจุหนึ่งล้านเหรียญเจินหลงเต็มๆ นี่เป็นเงินจำนวนมหาศาลเชียว!

“ใต้เท้ารอสักครู่ ข้าจะไปเตรียมสินค้าให้ท่านเดี๋ยวนี้ ” ชายชุดเงินรีบล้วงม้วนหยกส่งข่าวม้วนหนึ่งออกมาจัดการอย่างเร็วรี่

ไม่นานนักก็เห็นชายชราชุดดำคนหนึ่งเดินมาจากไกลๆ ชายชุดเงินเดินขึ้นไปพูดคุยคร่าวๆ ก็รับถุงสมบัติใบหนึ่งมาจากมือชายชราชุดดำคนนั้น

“ใต้เท้า ในนี้บรรจุทาสเผ่ามนุษย์สามร้อยแปดสิบเจ็บคนเอาไว้ ในนั้นมีเด็กที่อายุต่ำกว่าสิบปีหนึ่งร้อยสามสิบคน ที่เหลือต่างก็อายุสิบปีขึ้นไป ชายหญิงอายุต่ำกว่าสิบเจ็ดปี บวกกับทาสสิบเจ็ดคนที่อยู่ในกรงพวกนี้ รวมจำนวนทาสทั้งสิ้นสี่ร้อยสี่คน”

ชายชุดเงินกล่าวอย่างฉับไว “อิงตามราคาในตอนนี้ ทาสพวกนี้รวมทั้งสิ้นหนึ่งล้านสามแสนห้าหมื่นเหรียญเจินหลง ใต้เท้าท่านต้องจ่ายเพิ่มอีกเพียงสามแสนห้าหมื่นเหรียญเจินหลง ทาสพวกนี้ก็จะเป็นของท่านทั้งหมดแล้ว”

หลินสวินเอ่ยถาม “น้อยเกินไป ยังมีอีกหรือไม่”

ชายชุดเงินอึ้งงัน นี่ยังว่าน้อย? เผ่ามนุษย์เดิมก็มีจำนวนน้อยนิดอยู่แล้ว การที่ขายทาสสี่ร้อยกว่าคนออกไปได้ในพริบตาก็เป็นการค้าขายครั้งใหญ่อย่างหนึ่งแล้ว

ครุ่นคิดครู่หนึ่งชายชุดเงินก็มองรอบบริเวณอย่างระมัดระวัง คราวนี้จึงกัดฟันสื่อจิตเสียงเบา ‘ใต้เท้า ในมือพวกเรายังมีของเถื่อนอีกหนึ่งกลุ่ม หากท่านต้องการจริงๆ พวกเราต้องเปลี่ยนสถานที่ซื้อขายแลกเปลี่ยนกันแล้ว’

ของเถื่อนที่เรียกกัน ก็คือสินค้าที่มีที่มาที่ไปไม่ถูกต้อง ยามเรื่องแดง เป็นไปได้สูงว่าอาจเรียกความวุ่นวายมากมายได้

“ได้”

หลินสวินพยักหน้าตอบตกลง

จากนั้นชายชุดเงินก็นำทางหลินสวินออกจากสถานที่พลุกพล่านแห่งนี้ เดินเลาะไปมาจนถึงส่วนลึกของถนนที่อยู่ไกลโพ้นสายหนึ่ง ผลักเปิดประตูบานใหญ่ของคฤหาสน์ที่ปิดสนิทแล้วเดินตรงลึกเข้าไป

ในระหว่างนี้หลินสวินสังเกตเห็น ว่ารอบบริเวณคฤหาสน์นี้ปกคลุมด้วยพลังผนึก สามารถหลีกเลี่ยงการสำรวจจากโลกภายนอกได้

ไม่นานนักในโถงแห่งหนึ่งที่อยู่ส่วนลึกของคฤหาสน์ หญิงชุดม่วงคนหนึ่งนั่งตัวตรงอยู่ในนั้น ในดวงตารูปสามเหลี่ยมเจือแววชั่วร้ายดำทะมึน

‘ผู้อาวุโสใหญ่ ใต้เท้าท่านนี้เป็นลูกค้ารายใหญ่คนหนึ่ง…’ ชายชุดเงินเดินไปเบื้องหน้าพลางสื่อจิตอธิบาย

ฟังจบ หญิงชุดม่วงก็มองสำรวจหลินสวินปราดหนึ่ง กล่าวว่า “สหายท่านนี้ ของเถื่อนเป็นของร้อนลวกมือยิ่ง ไม่แน่อาจเรียกหายนะใส่ตัวเองก็เป็นได้ เจ้าไม่กังวลใจเลยหรือ”

หลินสวินกล่าวเสียงเรียบ “ในเมื่อข้ามาแล้ว เจ้าคิดว่าข้าจะกังวลใจเรื่องพวกนี้หรือ”

หญิงชุดม่วงมองหลินสวินอย่างลุ่มลึกปราดหนึ่ง ไม่ได้พูดมากความอีก โบกแขนเสื้อคราหนึ่ง

เสียงปึกๆ ดังมั่วขึ้นระลอกหนึ่ง ก็เห็นเงาร่างชายหญิงเผ่ามนุษย์หลายสิบคนเซล้มลงเต็มพื้น แต่ละคนล้วนถูกพันธนาการ ผมเผ้ายุ่งเหยิง

“คนพวกนี้ล้วนเป็นผู้ฝึกปราณในเผ่ามนุษย์ คนที่อ่อนแอที่สุดมีปราณระดับหยั่งสัจจะ คนที่แข็งแกร่งที่สุดก็มีรากฐานพลังระดับมกุฎราชันอริยะ”

หญิงชุดม่วงเอ่ยปากเนิบนาบ “ราคาของทาสพวกนี้ ไม่ใช่พวกกระจอกที่ไม่รู้จักการฝึกปราณพวกนั้นจะเทียบชั้นได้”

กล่าวพลางนางหยัดตัวลุกขึ้นมาหยุดตรงหน้าหญิงเผ่ามนุษย์คนหนึ่ง เชยปลายคางของฝ่ายหลังขึ้น พูดกับหลินสวินว่า

“สหายเจ้าดูสิ แม่นางคนนี้ก็คือมกุฎราชันอริยะคนหนึ่ง รูปร่างหน้าตาก็งดงามอย่างที่สุด ที่หายากที่สุดคือจนป่านนี้นางก็ยังครองพรหมจรรย์อยู่”

หญิงเผ่ามนุษย์คนนั้นผมเผ้ากระเซอะกระเซิง ทั่วร่างถูกโซ่ตรวนที่ประทับลายมรรคเกี่ยวรัด บนผิวขาวหิมะล้วนเต็มไปด้วยรอยแส้เบียดแน่น

ตอนที่นางถูกบังคับให้เงยหน้าขึ้นก็เผยดวงหน้าดุจบุปผาประหนึ่งหยก งดงามถึงขีดสุด เพียงแต่ใบหน้ากลับซีดขาวแทบโปร่งแสง สายตาว่างเปล่า เต็มไปด้วยแววเฉยชาราวไม่มีวิญญาณ

และตอนที่หลินสวินมองเห็นหญิงสาวคนนี้ นัยน์ตาพลันหดรัด ในใจเกิดระลอกคลื่นขึ้นฉับพลัน

อิ๋นฮวน!

หญิงสาวคนนี้ก็คืออิ๋นฮวน ผู้สืบทอดสำนักเร้นฤทธิ์เทพ โฉมงามโดดเด่นซึ่งคล้ายจะเป็นคู่บำเพ็ญของอ๋าวเจิ้นเทียน ทายาทเลือดบริสุทธิ์เผ่าเจินหลงคนนั้น!

ปีนั้นก็เป็นนางและอ๋าวเจิ้นเทียนมุ่งหน้าไปดินแดนรกร้างโบราณด้วยกัน เชิญจ้าวจิ่งเซวียนมายังแดนเจินหลง

แต่ตอนนี้นางกลับตกอยู่ในสภาพทาส ตกอยู่ในมือของเผ่าค้างคาวเขียวกระหายเลือด!

หากไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง หลินสวินก็แทบจะไม่กล้าเชื่อ

มองดูร่างกายที่มีแต่รอยแผลเต็มตัว สายตาที่เฉยชาว่างเปล่าของนาง ความตกใจแกมโกรธอย่างบอกไม่ถูกก็พุ่งทะลักอยู่จิตใจของหลินสวิน

ปีนั้นจิ่งเซวียนก็เดินทางพร้อมกับอิ๋นฮวน ตอนนี้อิ๋นฮวนประสบกับสถานการณ์น่าเวทนาเช่นนี้ แล้ว… จิ่งเซวียนล่ะ?

นางเองก็เกิดเหตุไม่คาดฝันอะไรด้วยหรือไม่

หญิงชุดม่วงไม่ได้สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของหลินสวินสักนิด เห็นสายตาเขาจับจ้องทาสหญิงเผ่ามนุษย์คนนั้นไม่วางตาก็อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้

นางกล่าว “ดูท่าสหายยุทธ์จะพึงพอใจต่อของเถื่อนพวกนี้มาก แต่ว่า ราคาก็ต้องพูดให้ชัดเจน อย่างผู้หญิงคนนี้ในมือข้า อย่างน้อย… ก็ต้องจ่ายยี่สิบล้านเหรียญเจินหลง ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นถึงมกุฎราชันอริยะคนหนึ่ง หากไม่ใช่เพราะนี่คือของเถื่อน อย่าว่าแต่ยี่สิบล้านเหรียญเจินหลงเลย ต่อให้ห้าสิบล้านก็มีคนอยากได้”

“แน่นอน หากสหายยุทธ์ติว่าแพง จะดูทาสเผ่ามนุษย์คนอื่นอีกก็ได้ อย่างปราณระดับหยั่งสัจจะแค่แปดแสน ระดับกระบวนแปรจุติหนึ่งล้านสองแสน ระดับราชัน…”

หญิงชุดม่วงกำลังบอกราคา ชายชุดเงินที่อยู่ข้างๆ ก็รอลูกค้ารายใหญ่อย่างหลินสวินควักเงินอย่างมีความหวังเต็มอก…

และในเวลานี้ จู่ๆ หลินสวินก็เอ่ยปาก “ของพวกนี้… ข้าเอาทั้งหมด ยังมีอีกหรือไม่”

หญิงชุดม่วงและชายชุดเงินต่างอึ้งงัน ยังไม่พอ!?

“ดูท่าพวกเจ้าจะไม่มีแล้วจริงๆ”

หลินสวินเหลือบมองพวกเขาปราดหนึ่ง กล่าวว่า “เช่นนั้นก็มีแต่ต้องส่งพวกเจ้าไปตามทางแล้ว”

ชายชุดเงินหน้าเปลี่ยนสียกใหญ่ กล่าวว่า “เจ้าหมายความว่าอย่างไร”

น้ำเสียงเพิ่งสิ้นสุดก็ถูกพลังไร้รูปวูบหนึ่งสังหาร ร่างกลายเป็นเถ้าถ่านตรงๆ ลอยล่องดับสลาย

สวบ!

หญิงชุดม่วงตอบสนองอย่างรวดเร็วยิ่ง เคลื่อนย้ายไปทางนอกโถงใหญ่โดยไม่ลังเล

แต่ชั่วอึดใจนั้นก็ถูกหลินสวินคว้าลำคอไว้ผ่านอากาศ กำขึ้นมาเหมือนหิ้วลูกไก่ไม่ผิดเพี้ยน

นางส่งเสียงกรีดร้องเกรี้ยวกราดออกมา “บนเกาะเทพรุ้งมรกตห้ามการเข่นฆ่าทุกอย่าง หาไม่จะต้องพบเจอการกำราบจากเผ่าจักรพรรดิปี้อั้น สหาย หากเจ้าต้องการทาสพวกนี้จริงๆ ข้าส่งให้เจ้าทั้งหมดก็ได้ ไม่คิดเงิน!”

……………………….