“รายงาน…! ศัตรูกำลังมุ่งไปทางวังมหามรรคหมื่นมังกร!”
เมื่อข่าวนี้แพร่ออกไป เหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าที่กำลังเคลื่อนพลมาจากทั่วสารทิศพวกนั้นต่างประหลาดใจและยากจะเชื่ออย่างอดไม่ได้
วังมหามรรคหมื่นมังกร สถานที่ใจกลางของเผ่าเจินหลง มีเพียงเครือญาติสายตรงของหัวหน้าเผ่าที่เข้าไปอยู่ในนั้นได้
ที่นั่นปกคลุมด้วยพลังต้องห้ามที่น่าหวาดกลัวหาใดเปรียบ มีสัตว์ประหลาดเฒ่ามากมายควบคุมดูแล สามารถทำให้บุคคลระดับจักรพรรดิไม่กล้าล่วงล้ำ!
ใครจะกล้าจินตนาการว่าโจรถ่อยนั่นถึงกับกล้าบุกไปยังสถานที่เช่นนี้
นี่คือการล้มล้างกฎเกณฑ์ชัดๆ พาให้คนอดสงสัยไม่ได้ว่าอีกฝ่ายจงใจรนหาที่ตายด้วยเสียสติใช่หรือไม่…
“คนดีไม่มา คนมาไม่ดี เร็วเข้า! ทุกคนรีบไปที่วังมหามรรคหมื่นมังกร…!”
บุคคลสำคัญที่มีอำนาจระดับสูงคนหนึ่งแห่งเผ่าเจินหลงออกคำสั่ง
เพียงชั่วขณะในแดนวังมังกรที่กว้างใหญ่หาใดเปรียบ มีเงาร่างน่ากลัวนับไม่ถ้วนออกเคลื่อนพลจากสถานที่ฝึกปราณ กลายเป็นรุ้งสายยาวที่เจิดจรัสสะท้านฟ้า แหวกผ่านท้องนภา เคลื่อนที่ไปวังมหามรรคหมื่นมังกร
ภาพเช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว ทำให้สิ่งมีชีวิตที่กระจายอยู่ในแดนวังมังกรพวกนั้นถูกทำให้ตกใจ
ขณะเดียวกันผู้ติดตามอาวุโสระดับจักรพรรดิที่มาจากเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่พวกนั้น ต่างระบุฐานะของ ‘โจรถ่อย’ ที่ก่อเรื่องใหญ่ในวังมังกรนั้นได้โดยคร่าว ล้วนวางแผนอย่างแน่ชัดในใจ หากมีโอกาสจะช่วยหลินสวินแน่นอน!
แต่เมื่อสังเกตเห็นว่าการเคลื่อนไหวเริ่มบานปลายใหญ่โต ผู้ติดตามอาวุโสแห่งเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่พวกนี้ก็กังวลขึ้นมาอย่างไม่อาจระงับ
มังกรมีเกล็ดย้อน หากสัมผัสแล้วต้องตาย!
ในแดนวังมังกรนี้ เมื่อมังกรเฒ่าพวกนั้นถูกยั่วโทสะ หลินเต้ายวนนั่นไหนเลยจะมีโอกาสหนีรอด
ถึงตอนนั้นต่อให้พวกเขาช่วยเหลือก็กลัวว่าจะไร้ประโยชน์!
‘ตอนนี้คงได้แต่คิดไปทำไปแล้ว…’
นี่คือความคิดของผู้ติดตามอาวุโสแห่งเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่พวกนั้น
…
ตูม!
ฟ้าดินสั่นสะเทือน หินผาพังครืน ห้วงอากาศเหมือนถูกทำให้ปั่นป่วน ย้อมไปด้วยกลิ่นคาวเลือด เสียงธรรมดังกระหึ่มเหมือนเสียงฟ้าร้องแห่งเก้าสวรรค์ก้องฟ้าดิน
ระหว่างทางที่มุ่งหน้าไปวังมหามรรคหมื่นมังกร หลินสวินถูกโจมตีอย่างไม่เคยมีมาก่อน และไม่ปิดบังฐานะเหมือนก่อนหน้านี้อีก
เขาในตอนนี้ส่องประกายเจิดจรัสไปทั้งตัว ผมดำแผ่สยาย มือถือดาบไร้วิชาที่เจิดจ้าไร้ขอบเขต บุกสังหารไปข้างหน้า
ฉัวะๆๆ… เพียงชั่วขณะผู้แข็งแกร่งหลายสิบคนที่ปิดล้อมเข้ามา ถูกปราณดาบไร้ขอบเขตม้วนกลืนและซัดกระจายกันออกไป แขนขาแหว่งวิ่นลอยล่องไปทั่ว เลือดสดสาดกระเซ็นราวน้ำตก เสียงร้องโหยหวนก็ดังก้องตามมา
นัยน์ตาดำหลินสวินล้ำลึก พุ่งทะยานฝ่ากลิ่นคาวเลือด ไม่ล่าช้าแม้แต่น้อย
คู่ต่อสู้ที่เจอตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นมีภัยคุกคาม สามารถบดขยี้ได้โดยง่าย แต่ตามเวลาที่ล่วงเลยแน่นอนว่าต้องมีพวกน่ากลัวปรากฏตัวมากขึ้นเรื่อยๆ
หลินสวินไม่สงสัยแม้แต่น้อย ด้วยรากฐานพลังที่แข็งแกร่งของเผ่าเจินหลง ย่อมไม่มีทางมองสภาพการณ์เช่นนี้ยืดเยื้อต่อไปตาปริบๆ แน่
ฆ่า!
เงาร่างเขาส่องประกายราวกับแสงเคลื่อน พลังปราณระดับมกุฎจักรพรรดิขั้นสองโคจร ทั้งตัวประดุจเหวลึกที่เคลื่อนขวาง กดอัดฟ้าดินแล้วเคลื่อนไป
สามารถมองเห็นวังมหามรรคหมื่นมังกรได้แต่ไกลแล้ว
นั่นคือสิ่งปลูกสร้างที่ดูเก่าแก่ เรืองรองและศักดิ์สิทธิ์แถบหนึ่ง เย้ยฟ้าท้าดิน อาบไล้ด้วยไอขุ่นมัวโหมกระหน่ำ ปราณมังกรนานัปการสอดประสาน แสงสมบัติพร่างพรายครอบฟ้าคลุมดิน!
“เจ้าโจรถ่อยสามหาว! ถึงกับกล้า…”
ห่างออกไปเงาร่างกำยำหาใดเปรียบร่างหนึ่งพุ่งออกมา ไอชั่วร้ายล้นฟ้าหมุนวนรอบตัว ปกคลุมด้วยเกราะดำ มือถือง่ามเหล็กมหึมาเล่มหนึ่งพุ่งกระโจนเข้ามา
แต่เสียงเขาเพิ่งกล่าวไปครึ่งหนึ่งก็ถูกดาบของหลินสวินฟันกระเด็นไป ร่างใหญ่มหึมาดั่งขุนเขาพลันแยกออกเป็นสองซีกกลางอากาศ เลือดสีสดไหลพุ่งเหมือนน้ำตก
หลินสวินไม่แม้แต่จะมอง กำลังคิดพุ่งทะยานไปเบื้องหน้า ในบริเวณใกล้เคียงพลันมีละอองแสงอักษรแน่นขนัดแผ่คลุม กระบวนค่ายกลผนึกที่เก่าแก่ชั้นแล้วชั้นเล่าตื่นจากความเงียบงัน
ครืน…
ภูเขาเทพมากมายผุดขึ้นมาจากพื้นดินจนสูงเทียมฟ้า ภูเขาเทพกองพะเนิน หินผาราวกับหล่อจากทองเทพ คลื่นผนึกน่าพรั่นพรึงเวียนวน ขวางทางข้างหน้าไว้อย่างสมบูรณ์
มองจากไกลๆ ก็เหมือนปราการสวรรค์ปรากฏ พาให้คนรู้สึกว่าไม่อาจสั่นคลอน ไม่อาจก้าวล่วง
ห่างออกไปเมื่อเงาร่างที่ห้อตะบึงมาจากทั่วสารทิศเห็นภาพนี้ก็ลอบโล่งอกทันที
ผนึกปราบสวรรค์!
กระบวนผนึกโบราณที่คงอยู่เรื่อยมานับแต่อดีตจนปัจจุบัน ภูเขาเทพพาดอยู่กลางฟ้าดินประหนึ่งปราการ สามารถขวางบุคคลระดับจักรพรรดิไว้เบื้องหน้า
ตั้งแต่สร้างกระบวนค่ายกลนี้ ก็ไม่เคยมีศัตรูภายนอกสามารถทำลายกระบวนค่ายกลนี้ได้!
“เจ้าโจรถ่อย ดูสิว่าเจ้ายังหนีไปไหนพ้น!” สัตว์ประหลาดเฒ่าคนหนึ่งได้ใจจนหัวเราะเหี้ยมเกรียมขึ้นมา เสียงดังกังวานยิ่งกว่าสายฟ้าฟาด
แต่เมื่อเสียงเพิ่งแผ่วลง
ก็เห็นว่าห่างออกไปความเร็วในการเคลื่อนที่ของหลินสวินไม่หยุดชะงักแม้แต่น้อย พุ่งปะทะผนึกปราบสวรรค์นั้นโดยตรง ภาพนั้นก็เหมือนมดเขย่าไม้ใหญ่ เหมือนเอาไข่ไปกระทบหิน
แต่สิ่งที่แปลกคือเงาร่างเขาพลันส่องประกาย ถึงกับตัดผ่านกระบวนผนึกที่เต็มไปด้วยลายมรรคนั้น ชั่วพริบตาก็หายลับจากไป
ส่วนผนึกปราบสวรรค์นั้นก็แค่เกิดคลื่นอักษรที่เหมือนกระแสน้ำสายหนึ่ง…
สีหน้าของสัตว์ประหลาดเฒ่าที่หัวเราะเหี้ยมเกรียมอย่างได้ใจนั้นพลันหยุดชะงัก ตกตะลึงอ้าปากค้าง “นี่… มันเรื่องอะไรกัน!?”
เหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าที่ไล่ตามมาจากต่างทิศทางก็เผยสีหน้ายากจะเชื่อ ทำหน้าเหมือนเห็นผี
“เร็วเข้า รีบปลดผนึกปราบสวรรค์!”
มีสัตว์ประหลาดเฒ่าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ คำรามเสียงแตกพร่า
ผู้แข็งแกร่งคนอื่นล้วนร้อนรน ผนึกปราบสวรรค์นี้เป็นถึงผนึกแต่โบราณของพวกเขาเผ่าเจินหลง ตอนนี้กลับไม่อาจขวางศัตรูภายนอกนั้นได้ กลายเป็นว่าขวางคนในเผ่าเจินหลงอย่างพวกเขาแทน นี่เหมือนการตบหน้าตัวเองจริงๆ
ขณะเดียวกันหลินสวินที่ทะลวงฝ่ากระบวนค่ายกลใหญ่ไปอย่างง่ายดาย สีหน้าราบเรียบไม่สะทกสะท้าน ทอดสายตามองไปไกล
ผนึกปราบสวรรค์นี้แม้จะแข็งแกร่ง แต่สำหรับมกุฎมหาจักรพรรดิที่เติบโตมากับรอยสลักวิญญาณตั้งแต่เด็กอย่างเขา กลับเหมือนสอนจระเข้ว่ายน้ำ ไม่คู่ควรให้พูดถึงอย่างสิ้นเชิง
เวลานี้เขามองเห็นวังมหามรรคหมื่นมังกรที่ตั้งอยู่บนเส้นขอบฟ้าที่ห่างไกลนั้นอย่างชัดเจนแล้ว
‘อ๋าวฮ่วนไห่ เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้แล้ว เจ้ายังไม่คิดจะปรากฏตัวอีกหรือ…’
นัยน์ตาดำของหลินสวินเยียบเย็น
อ๋าวฮ่วนไห่คือหัวหน้าเผ่าคนปัจจุบันแห่งเผ่าเจินหลง สมญาจักรพรรดิมังกรหมื่นยอด เฒ่าดึกดำบรรพ์ที่ครองรากฐานพลังน่าหวาดกลัวคนหนึ่ง
เล่าลือว่าจักรพรรดิมังกรหมื่นยอดนิสัยเลือดเย็น สังหารเด็ดขาด ฝีมือเทียมฟ้า ทั้งเป็นนายเหนือหัวที่ทำให้สิ่งมีชีวิตหมื่นเผ่าในแดนเจินหลงกริ่งเกรงและหวาดกลัว
สาเหตุที่หลินสวินก่อเรื่องใหญ่และบุกเข้ามาที่นี่เช่นนี้ ก็เพื่อเค้นถามเบาะแสของจ้าวจิ่งเซวียนจากปากของอ๋าวฮ่วนไห่!
ใช่ว่าหลินสวินบุ่มบ่ามและใจกล้า หากแต่ทำไปด้วยจำยอม
ตามความเข้าใจของเขา กล้าออกคำสั่งให้ปิดข่าวในงานชุมนุมเซียนหมื่นมังกร กล้าออกคำสั่งให้ทำลายเส้นทางเชื่อมต่อทางเดินโบราณฟ้าดารา เห็นชัดว่าอ๋าวฮ่วนไห่คนนี้ตัดสินใจแล้วว่าไม่ว่าต้องจ่ายค่าตอบแทนเป็นอะไร ก็ต้องรั้งเด็กที่เกิดจากตนกับจ้าวจิ่งเซวียนไว้ให้ได้!
เหตุผลนั้นง่ายมาก แค่เพราะพรสวรรค์ของเด็กคนนี้เย้ยฟ้าเกินไป มีทั้งสายเลือดเจินหลงและพรสวรรค์หุบเหวกลืนกิน นี่ย่อมเรียกได้ว่าไม่เคยมีมาก่อน มีเพียงหนึ่งเดียวนับแต่โบราณ!
หากอ๋าวฮ่วนไห่รั้งเด็กคนนี้ไว้ได้จริง เลี้ยงดูจนเติบใหญ่ตั้งแต่เด็ก ภายหน้าเด็กคนนี้… เกรงว่าคงได้แซ่อ๋าวแน่!
‘เจ้าไม่ออกมา ข้าก็ไปหาเจ้าเอง’
หลินสวินสูดหายใจลึก เคลื่อนที่แหวกอากาศ มุ่งหน้าไปวังมหามรรคหมื่นมังกรที่ห่างไกล
ฮูม…
ทันใดนั้นเปลวไฟสีทองม่วงหลากสายพลันปรากฏ จากนั้นจึงแผ่กระจายไปทั่วทิศ ปกคลุมไปทางหลินสวินราวกับปิดล้อม
มองลงมาจากเวิ้งฟ้าเหมือนห่วงเพลิงสีทองม่วงเกลี้ยงกลมหนึ่งปรากฏ ส่วนหลินสวินก็ติดอยู่ในนั้น
ทันใดนั้นหลินสวินก็สังเกตเห็น ห้วงอากาศแถบนี้ถูกพันธนาการและปิดผนึก ไม่อาจเคลื่อนไหวได้อีก ขณะเดียวกันกลิ่นอายคุกคามถึงชีวิตพลันแผ่อบอวล
“เจ้าหนุ่ม แดนวังมังกรนี้ไม่ใช่สถานที่ที่ใครบุกรุกได้ตามชอบ ความสามารถของเจ้าไม่เลว หากข้ามองไม่ผิด เจ้าน่าจะเป็นมกุฎมหาจักรพรรดิคนหนึ่ง”
เสียงต่ำลึกแหบพร่าหนึ่งดังขึ้น ไม่ช้าไม่เร็ว เจือกลิ่นอายน่าเกรงขามที่พาให้คนสิ้นหวัง “มกุฎมหาจักรพรรดิหายากเป็นอย่างยิ่ง ยากพบเห็นตั้งแต่โบราณกาลมา มีแค่ในฟากฝั่งฟ้าดาราที่เจอมกุฎมหาจักรพรรดิก้าวเดินอยู่ในนั้น ทั้งยังมีจำนวนน้อยเช่นกัน…”
เมื่อเสียงดังขึ้น ผู้อาวุโสที่ดูชราภาพไม่กระฉับกระเฉง มีหนวดมังกรสีทอง สวมชุดคลุมทอง นัยน์ตาทองอร่ามคนหนึ่งปรากฏตัวกลางอากาศ
ฮูม…
เมื่อเขาปรากฏตัว วงแสงเพลิงสีทองม่วงที่แผ่ลามมาทางหลินสวินอย่างต่อเนื่องนั้นหยุดนิ่งกลางอากาศในพริบตาเช่นกัน ลุกโชนเงียบๆ พลางแผ่กลิ่นอายประหลาดและอันตรายออกมา
ชายชราชุดทองมองหลินสวินที่อยู่ห่างไปด้วยนัยน์ตาเฉยชาพลางกล่าว “แต่เจ้าไม่ได้มาจากฟากฝั่งฟ้าดารา ก่อนที่เส้นทางมุ่งสู่ทางเดินโบราณฟ้าดาราจะถูกถล่ม บนทางเดินโบราณฟ้าดารานั้นก็มีมกุฎมหาจักรพรรดิที่ไม่เคยปรากฏตัวในช่วงเกือบแสนปีเช่นกัน”
“ถ้าให้ข้าเดา เกรงว่าเจ้าคงเป็นคนที่บรรลุมกุฎจักรพรรดิในช่วงไม่กี่สิบปีนี้กระมัง”
ชายชราชุดทองพูดพลางสาดประกายเทพชวนตระหนกจากนัยน์ตาทองอร่าม คล้ายว่ามองทะลุหลินสวินได้ทั้งตัว
เขาน่ากลัวมาก กลิ่นอายรอบตัวบังฟ้าคลุมตะวัน ใช้เพลิงเทพสีทองพันธนาการห้วงอากาศทั่วทิศเหมือนแมงมุมที่อยู่บนใย ต้องการจับหนอนน้อยที่ติดกับกินเป็นอาหาร
อานุภาพนั้นเทียบกับมหาจักรพรรดิปาฉีในระดับจักรพรรดิขั้นแปดแล้วยังแข็งแกร่งกว่าช่วงหนึ่ง!
ไม่จำเป็นต้องสงสัย ชายชราชุดทองคนนี้เป็นยอดผู้อาวุโสคนหนึ่งแห่งเผ่าเจินหลง และเหมือนว่าบุคคลระดับมหาจักรพรรดิเช่นนี้ ด้วยเหตุผลทางสายเลือด เดิมทีก็มีรากฐานน่ากลัวที่กำราบคนในระดับเดียวกันได้อยู่แล้ว
อย่างน้อยตอนนี้หลินสวินก็รู้สึกได้ถึงภัยคุกคามถึงชีวิต!
แต่เขาไม่เปลี่ยนสีหน้า กล่าวว่า “อ๋าวฮ่วนไห่อยู่ที่ไหน”
ชายชราชุดทองขมวดคิ้ว “ชื่อของหัวหน้าเผ่าข้าใช่สิ่งที่เจ้าเรียกขานได้โดยตรงหรือ ลองว่ามาเถอะ เจ้ามาทำไมกันแน่ หากขัดขืนข้าก็ไม่รังเกียจที่วันนี้จะกำจัดมกุฎมหาจักรพรรดิคนหนึ่งซึ่งสามารถสร้างความสะเทือนให้อดีตถึงปัจจุบัน!”
น่าเกรงขาม มาดมั่น เฉยชา สูงส่งเหนือผู้อื่น!
คำตอบของหลินสวินนั้นง่ายมาก
ปล่อยหมา!
ต้าหวงทะยานแหวกอากาศดังฟุ่บ ตะปบอุ้งเท้าคราหนึ่งก็ซัดเพลิงเทพสีทองที่ปกคลุมทั่วทิศนั้นจนแหลก กลายเป็นเพลิงที่แผ่กระจายลอยล่องดุจสายฝน
นัยน์ตาของชายชราชุดทองพลันหดรัด!
“หนอนยักษ์เฒ่าระดับจักรพรรดิขั้นแปด เยี่ยมมาก!”
ต้าหวงมองชายชราชุดทองคนนั้นอย่างประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นน้ำลายก็ไหลออกจากปาก แววตาเต็มไปด้วยความเร่าร้อนและละโมบ “หม้อนี้… ดูท่าจะตุ๋นไม่ไหวไปสักหน่อยแล้ว แต่ไม่เป็นไร ควักตับมังกรออกมาแก้อยากก่อนก็ได้!”
ฟุ่บ!
ยามเอ่ยวาจาต้าหวงก็เคลื่อนแหวกอากาศไปอย่างรีบเร่ง เหมือนหญิงคณิกาที่ร้อนรนทนไม่ไหว แผดเสียงคำรามแล้วพุ่งไปทางชายชราชุดทองที่อยู่ห่างไกล
“หลินสวิน เจ้าไปต่อเลย หนอนยักษ์เฒ่าตัวนี้ยกให้ข้าจัดการ!”
………………………