ยอดเขางามวิจิตร
ภูเขาลูกหนึ่งที่อยู่ห่างจากวังมหามรรคหมื่นมังกรไม่ไกล งดงามอัศจรรย์เกินธรรมดา
ก่อนหน้านี้เมื่อนานมาแล้ว ที่นี่ก็คือที่พักของอ๋าวซิงถัง น้องสาวของหัวหน้าเผ่าคนปัจจุบันอ๋าวฮ่วนไห่
หลายสิบปีก่อนหลังจากจ้าวจิ่งเซวียนมาถึงแดนวังมังกรก็ถูกจัดเตรียมให้พักอยู่ที่นี่ ด้วยอ๋าวซิงถังก็คือชื่อของมารดานาง นามของจักรพรรดินีแห่งจักรวรรดิจื่อเย่า
หลินสวินปรากฏตัวหน้ายอดเขางามวิจิตร เงยหน้าขึ้นมองยอดเขาที่อบอวลด้วยแสงประกายสลัวราง สูดหายใจลึกแล้วเดินขึ้นไปบนภูเขา
ฮูม… คลื่นผนึกระลอกหนึ่งม้วนซัด ปกคลุมยอดเขางามวิจิตรไว้ภายใน แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าหลินสวินกลับเหมือนไร้ตัวตน ไม่มีภัยคุกคามแม้แต่น้อย ถูกเขาหลีกหลบได้อย่างง่ายดาย
เส้นทางบนเขาคดเคี้ยวเงียบเชียบ ต้นไม้ใบหญ้าเขียวมรกต หมอกควันอบอวล มีนกวิญญาณอาศัยอยู่ทุกหนแห่ง สัตว์มงคลก้าวเดินอย่างเงียบสงบ
ตรงไหล่เขามีสิ่งปลูกสร้างเก่าแก่เรียงรายเป็นระเบียบ ทั้งศาลาและตึกหอ ไผ่เขียวเริงระบำ
ข้ารับใช้และบ่าวบางคนกำลังกวาดใบไม้ที่ร่วงหล่นในภูเขา แต่ละคนล้วนดูเกียจคร้าน
หลินสวินเห็นภาพนี้แต่ไกล อดคิดไม่ได้ว่าหลายสิบปีมานี้จิ่งเซวียนใช้ชีวิตอยู่ที่นี่หรือ
จิตรับรู้ของเขาแผ่ขยายออกไป เพียงพริบตาก็ปกคลุมสิ่งปลูกสร้างเก่าแก่แถบนั้น แต่ไม่ทันไรหัวคิ้วเขาก็ขมวดขึ้น ในสิ่งปลูกสร้างพวกนั้นไม่มีเงาร่างของจ้าวจิ่งเซวียน
เขาเดินเข้าไปในเรือนที่มีกลิ่นอายโบราณหลังหนึ่งในนั้นอย่างไร้ร่องรอย ภายในห้องประดับตกแต่งอย่างหรูหรามีระดับ เรียบง่ายหมดจด ในอากาศยังมีกลิ่นหอมเย็นที่คล้ายมีคล้ายไม่มีเจือจางรางๆ
หลินสวินแยกแยะได้ในพริบตา นั่นเป็นกลิ่นอายของจ้าวจิ่งเซวียน!
ไม่นานสายตาเขาก็เหลือบไปเห็นห้องด้านข้างที่น่าจะเป็นห้องส่วนตัวของจ้าวจิ่งเซวียน ตกแต่งด้วยเตียงฟูก เก้าอี้ยาว โต๊ะเครื่องแป้ง…
หืม?
เมื่อเห็นของชิ้นหนึ่งที่อยู่ข้างเก้าอี้ยาวนั้น หลินสวินอึ้งงันทันที
นั่นคือม้าไม้ไผ่เด็กเล่นขนาดเล็ก ทำจากไผ่หยกเขียวอ่อนเกลี้ยงเกลา ข้างม้าไม้ไผ่ยังมีเปลน้อยปากหนึ่ง กระบี่ไม้ไผ่เล่มหนึ่ง กลองไม้เขย่าอันหนึ่ง…
หลินสวินใจสะท้านขึ้นมา ของพวกนี้… ล้วนเป็นสิ่งที่จิ่งเซวียนเตรียมไว้ให้ลูกของตนกระมัง…
แต่นางล่ะ
เนิ่นนานกว่าหลินสวินจะสูดหายใจลึก สะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง เก็บของเล่นชิ้นเล็กทั้งหมดอย่างม้าไม้ไผ่ เปลไกว กลองไม้เขย่าพวกนั้นลงไป จากนั้นจึงหันหลังเดินออกไปจากห้อง
ตึงๆๆ!
เมื่อจิตรับรู้ของหลินสวินเคลื่อนกวาดไปนอกเรือน ข้าบ่าวและสาวใช้ที่กระจายอยู่ต่างพื้นที่พวกนั้นล้วนหมดสติลงกับพื้นโดยไร้สุ้มเสียง
เขาคิดจะค้นวิญญาณของข้ารับใช้พวกนี้ ดูว่ามีเบาะแสบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับจ้าวจิ่งเซวียนหรือไม่
แต่ไม่รอให้หลินสวินได้ลงมือ คลื่นเสียงอลหม่านระลอกหนึ่งพลันดังขึ้นแต่ไกล
“เร็วเข้า มีโจรต่างถิ่นบุกรุก ทุกคนลงมือได้!”
“ผู้อาวุโสใหญ่มีคำสั่ง เมื่อพบคนน่าสงสัย สังหารไม่ละเว้น!”
“ไป!”
…คลื่นเสียงที่เต็มไปด้วยไอสังหารสะท้อนก้องท้องนภา
ขณะเดียวกันเงาร่างมากมายพุ่งตรงมายังเขางามวิจิตร ผู้นำคือบุคคลระดับจักรพรรดิแห่งเผ่าเจินหลงคนหนึ่ง นามว่าอ๋าวชวีทง มีพลังปราณระดับจักรพรรดิขั้นสาม
“ปิดผนึกที่แห่งนี้! จากนั้นให้ค้นอย่างละเอียด!” ยังไม่ถึงจุดหมาย อ๋าวชวีทงพลันออกคำสั่งด้วยสีหน้าอำมหิตแล้ว
“ขอรับ!”
ข้างกายอ๋าวชวีทง ผู้ติดตามอาวุโสหลายคนที่มีพลังปราณระดับจักรพรรดิลงมือทันที ต่างคนต่างนำผู้ติดตามที่แข็งแกร่งมากมาย เริ่มปิดผนึกอาณาเขตทั้งหมดของยอดเขางามวิจิตรราวกับกระแสน้ำที่ปกคลุมฟ้าดิน
เมื่อเห็นภาพนี้หลินสวินอดขมวดคิ้วไม่ได้
ขณะที่เขากำลังคิดจากไปเงียบๆ พลันมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น
วู้ม!
ก็เห็นว่ากลางอากาศที่ห่างไกล อ๋าวชวีทงพลิกฝ่ามือนำไข่มุกขนาดเท่ากำปั้นที่สาดแสงสว่างไสวออกมา หันไปทางยอดเขางามวิจิตร
ละอองแสงสีทองพร่างฟ้าพลันแผ่กระจาย ย้อมเขางามวิจิตรลูกนั้นเป็นสีทองอร่าม
มุกจับวิญญาณ!
สมบัติอัศจรรย์อย่างหนึ่ง สามารถทำลายการอำพราง ตรวจจับกลิ่นอายของผู้ฝึกปราณที่ซ่อนตัว แม้แต่บุคคลระดับจักรพรรดิก็ไม่อาจหลบหนี
ก็เห็นว่าภายใต้ประกายสีทองพร่างฟ้า เงาร่างของหลินสวินเผยตัวในละอองแสงสีทองนั้นเช่นกัน
“หืม?”
อ๋าวชวีทงชะงักไปก่อน คล้ายคิดไม่ถึงว่าตนจะจับพลัดจับผลูตีถูก จากนั้นก็เผยสีหน้าอำมหิตและตื่นเต้น ตะโกนออกมา
“เจ้าโจรถ่อยอยู่ตรงนั้น รีบไปฆ่ามันซะ!”
เสียงสะเทือนเก้าชั้นฟ้า
ขณะเดียวกันหลินสวินก็ผิดคาดไปชั่วขณะ จากนั้นสีหน้าก็กลับมาราบเรียบ สำหรับเรื่องนี้เขาเตรียมใจมาแต่แรก
“ฆ่า!”
ห่างออกไปผู้ติดตามอาวุโสมากมายพาผู้ติดตามทั้งหมดพุ่งเข้ามา ร่างกายแต่ละคนเปล่งประกาย อานุภาพร้ายกาจทะลุเมฆ บีบกดจนห้วงอากาศของฟ้าดินแถบนี้ทรุดทลาย สภาพการณ์น่ากลัวนัก
ผู้ติดตามอาวุโสพวกนั้นล้วนเป็นบุคคลระดับจักรพรรดิที่มาจากเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่ มีมากถึงหกคน แค่กระบวนรบเช่นนี้ก็พอจะทำให้บุคคลระดับจักรพรรดิพวกนั้นรู้สึกสิ้นหวังแล้ว
เพียงชั่วขณะก็เห็นแสงสมบัติพวยพุ่ง โผทะยานดุจสายฝน วิชามรรคเข้าปกคลุมฟ้าดินแถบนี้ราวกระแสน้ำ แผ่กลิ่นอายที่เหมือนทลายฟ้ามลายดิน
เผชิญหน้ากับเรื่องพวกนี้ หลินสวินไม่หลบหลีก ร่างกายพุ่งไปข้างหน้า ปราณกระบี่ไท่เสวียนแน่นขนัดม้วนซัดออกไปดุจเขาถล่มสมุทรคำราม
ตูม!
เสียงกัมปนาทสะท้านฟ้าสะเทือนดิน ปราณกระบี่ตัดสลับไขว้ขนาน ฟาดฟันการโจมตีทั้งมวล เปล่งประกายเจิดจรัส เผด็จการและดุดัน
ผู้ติดตามอาวุโสคนหนึ่งที่พุ่งมาหน้าสุดยังไม่ทันตอบสนอง กระบี่บินที่เขาเรียกออกมาก็ถูกฟาดแหลก ท่ามกลางละอองแสงที่ระเบิดออก ปราณกระบี่ไท่เสวียนหลายสิบสายครอบคลุมเข้ามา!
แย่แล้ว!
ผู้ติดตามอาวุโสคนนี้หน้าเปลี่ยนสี วิญญาณเกือบหลุดออกมา ไม่เคยคิดว่าพลังปราณของตนในปัจจุบันถึงกับไม่เอาไหนเช่นนี้
เมื่อคิดจะต้านทานและหลบหลีกก็ไม่ทันแล้ว
ฉัวะๆๆ… ผู้ติดตามอาวุโสคนนี้ถูกฟันเป็นรอยกระบี่นับไม่ถ้วนทั้งตัว เลือดสีสดสาดกระเซ็น เดิมทีเขาคิดว่าตนต้องตายอย่างไร้ข้อกังขา ใครจะคิดว่าบาดแผลพวกนี้ดูเหมือนสาหัสหาใดเปรียบ ความจริงกลับเป็นแค่บาดแผลภายนอกเท่านั้น
เกือบจะเวลาเดียวกัน เสียงของหลินสวินดังขึ้นข้างหูของเขา ‘ถ้าไม่อยากตายก็แกล้งตายให้ข้าคนแซ่หลินซะ!’
ผู้ติดตามอาวุโสที่มาจากเผ่าจักรพรรดิหยาจื้อคนนี้ชะงักไปก่อน จากนั้นก็เข้าใจกระจ่าง เจ้าหมอนี่… คือหลินเต้ายวน!
ตูม!
ปราณกระบี่ไท่เสวียนม้วนซัด โหมทำลายฟ้าดินแถบนี้ ขณะที่ผู้ติดตามอาวุโสคนนั้นถูกซัดพินาศ สถานที่อื่นก็มีคนมากมายได้รับบาดเจ็บ
ภายใต้การโจมตีที่ดุดันนั้นของหลินสวิน แทบจะไม่มีใครขัดขวาง!
‘ทุกท่านไม่ต้องดิ้นรน รีบนอนลงแล้วแกล้งตาย คนผู้นี้ก็คือสหายยุทธ์หลิน หลินเต้ายวน!’ ขณะเดียวกันผู้ติดตามอาวุโสที่เคยได้รับการสื่อจิตจากหลินสวินคนนั้นก็สื่อจิตอย่างรวดเร็ว บอกข่าวนี้กับคนอื่น
เมื่อรู้ข่าวนี้ผู้แข็งแกร่งที่เดิมยังรู้สึกขุ่นเคือง ตื่นตระหนก ไม่จำยอมพวกนั้นพลันเข้าใจกระจ่าง เริ่มแสดงละครอย่างให้ความร่วมมือหาใดเปรียบ
“เจ้าเป็นใคร ทำไมถึงแข็งแกร่งเช่นนี้” ชายชราผมขาวแกมเทาคนหนึ่งเลือดกบปากจมูก ท่าทางตื่นตระหนก ร่างกระเด็นลอยออกไปอย่างแรง ร่วงตกลงบนพื้น
“ไม่…!”
เวลานี้ชายวัยกลางคนที่ท่าทางแข็งกร้าว น่าเกรงขามถึงขีดสุดคนหนึ่งกลับร้องเหมือนสิ้นหวัง ร่างกายนอนแน่นิ่งกับพื้น
“ฆ่า ยอมตายดีกว่า…”
ฮูหยินงามหาใดเปรียบคนหนึ่งพุ่งเข้ามาอย่างเดือดดาล ราวกับแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ แต่หลังจากถูกปราณกระบี่สายหนึ่งของหลินสวินปะทะใส่ก็ส่งเสียงระโหยโหยหวน “หรือว่า… ข้าจะสิ้นชีพเช่นนี้…”
จากนั้นนางก็ทรุดคว่ำกับพื้นดังตึง
…เหตุการณ์ทั้งหมดแทบจะเกิดในช่วงสั้นๆ ไม่กี่อึดใจ เห็นผู้ติดตามอาวุโสพวกนั้นนอนแผ่ลงไปอย่างอนาถ สิ้นหวัง ไม่จำยอมทีละคน ผู้ติดตามและผู้คุ้มกันพวกนั้นล้วนงงเป็นไก่ตาแตก ขาสั่นระริก หนาวสั่นไปทั้งตัว
พอเห็นภาพนี้หลินสวินก็อดตะลึงไม่ได้ เมื่อบุคคลระดับจักรพรรดิแสดงละคร แต่ละคนล้วนเล่นละครเก่งโดยแท้…
ห่างออกไปอ๋าวชวีทงกลับไม่รู้เลยว่าภาพที่เหมือนเพลี่ยงพล้ำย่ำแย่นี้ ความจริงแล้วมีปริศนาอื่นอยู่
เวลานี้เขาอดสูดหายใจเย็นเยียบไม่ได้ ในใจตื่นตระหนก ทำไมเจ้าโจรถ่อยนี่ถึงแข็งแกร่งเช่นนี้!?
ตูม!
ฟ้าดินกู่ก้อง ร่างของหลินสวินส่องประกาย ปราณกระบี่หมุนอ้อมพุ่งสังหารมาทางนี้แล้ว นัยน์ตาดำล้ำลึกนั้นเต็มไปด้วยไอสังหารน่าสะพรึง
อ๋าวชวีทงเลือกหลีกหลบโดยไม่ลังเล ไม่กล้าฝืนปะทะอย่างสิ้นเชิง
แต่ยามที่เขาเพิ่งหลบก็ถูกมือใหญ่ข้างหนึ่งบีบคอแน่น มือใหญ่นั้นปลดปล่อยพลังน่ากลัวออกมา ทำลายการป้องกันทั้งตัวเขาจนพินาศในพริบตา ร่างสั่นสะท้านด้วยถูกกำราบแน่นหนา
“จ้าวจิ่งเซวียนถูกพวกเจ้านำไปซ่อนที่ไหน” ขณะเดียวกันเสียงเยียบเย็นของหลินสวินพลันดังขึ้น กระตุ้นจนอ๋าวชวีทงสั่นไปทั้งตัว
“เจ้าสวะ ที่นี่คือแดนวังมังกร หากเจ้าไม่กลัวตายก็ฆ่าข้าซะ!” อ๋าวชวีทงคำราม ดวงตาแดงก่ำ
เผ่าเจินหลงล้วนหยิ่งทะนง พวกเขาที่เป็นถึงนายเหนือหัวของโลกนี้เย่อหยิ่งจนเข้ากระดูก ไม่เชื่อว่าบนโลกนี้จะมีใครกล้ากระทำการชั่วร้ายบนอาณาเขตของพวกเขา!
กร๊อบ!
ครู่ต่อมาคอของเขาก็ถูกบิด จิตวิญญาณระเบิดกลายเป็นจุณ ก่อนตายบนหน้ายังเต็มไปด้วยความตกตะลึง คล้ายไม่กล้าเชื่อว่าบนโลกนี้จะมีคนกล้ากระทำการเหิมเหริมในอาณาเขตของพวกเขาจริงๆ…
หลินสวินเก็บศพเขาไปด้วย มองผู้ติดตามอาวุโสมากมายที่นอนแกล้งตายอยู่ไกลๆ สุดท้ายก็ไม่พูดอะไรมาก หันหลังจากไป
ด้วยเรื่องทารกในครรภ์ จ้าวจิ่งเซวียนจึงเป็นความลับสำคัญของเผ่าเจินหลงนานแล้ว ไม่ต้องพูดถึงผู้ติดตามอาวุโสพวกนั้น ต่อให้เป็นคนในเผ่าเจินหลงทั่วไปเกรงว่าคงไม่มีทางรู้เบาะแสของนางเช่นกัน
หลินสวินคิดจะไปวังมหามรรคหมื่นมังกรก่อน ไปหาหัวหน้าเผ่าเจินหลงอ๋าวฮ่วนไห่!
หากจับตัวคนผู้นี้ได้ บางทีปัญหาทุกอย่างก็อาจคลี่คลายได้โดยง่าย
“เร็วเข้า ฆ่าเขาซะ!”
ห่างออกไปห้วงอากาศม้วนซัด เงาร่างมากมายพุ่งสังหารมาทางหลินสวิน เห็นได้ชัดว่าคนพวกนี้ล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งที่ถูกการเคลื่อนไหวเมื่อครู่ทำให้ตกใจ รีบเร่งมาช่วยเหลือ
ตูม!
หลินสวินไม่อยากเสียเวลา สำแดงความสามารถที่แท้จริงออกมา เงาร่างไหววูบครั้งหนึ่ง ทำลายความว่างเปล่า พุ่งทะยานโจมตีเหมือนกระบี่แยกฟ้าเล่มหนึ่ง
พลันเห็นฟ้าดินอลหม่าน ห้วงอากาศระเบิดแหลก ศัตรูพวกนั้นไม่ว่าแข็งแกร่งหรืออ่อนแอแต่ละคนต่างร้องโหยหวน ลอยลิ่วระเนระนาดเหมือนถูกภูเขาเทพดึกดำบรรพ์กระแทก บ้างเอ็นกระดูกแตกหัก บ้างผิวแตกเลือดอาบ บ้างเลือดออกเจ็ดทวาร บ้าง…
สถานการณ์สับสนอลหม่านและนองเลือด
ส่วนเงาร่างของหลินสวินก็เหมือนแสงสายหนึ่งที่พุ่งฝ่าฝนโลหิตคาววายุ หลังจากใช้ท่าทีกดกำราบสยบศัตรูก็เคลื่อนที่แหวกอากาศ จากไปอย่างผ่าเผย
รุกเข้าไปเหมือนผ่าลำไผ่ตลอดทาง!
“รายงาน ศัตรูปรากฏตัวที่เขางามวิจิตร! ผู้อาวุโสอ๋าวชวีทงถูกสังหาร!”
“รายงาน ศัตรูตีฝ่าวงล้อมไปได้ กำลังหนีไปทางทิศตะวันออก!”
“รายงาน…”
ขณะเดียวกันแดนวังมังกรก็ถูกทำให้สั่นสะเทือน ผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนที่กำลังหาตัวหลินสวินในอาณาเขตต่างๆ เกือบทั้งหมดล้วนรู้ข่าวในพริบตา
เหล่าบุคคลสำคัญระดับสูงของเผ่าเจินหลงพวกนั้นก็ทยอยออกเคลื่อนพล พุ่งไปยังสถานที่ซึ่งพบร่องรอยของหลินสวินด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ
……………………….