จนกระทั่งครู่ใหญ่หลินสวินถึงคุ้นชินกับระดับขั้นใหม่ ในใจมีเพียงความรู้สึกเดียว หลังจากก้าวสู่ขั้นไร้พรมแดน พลังต่อสู้แข็งแกร่งกว่าตอนหน้านี้ไม่เพียงเท่าตัว!

ในร่างโลกจักรพรรดิบริสุทธิ์กว้างใหญ่ สะท้อนความรู้สึกไพศาลไร้พรมแดนไร้ขอบเขต ราวกับสามารถรองรับปราณวิญญาณไร้สิ้นสุดไว้ภายใน

เส้นเลือด ชีพจร กระดูกเอ็น ผิวหนัง อวัยวะภายใน ทุกกระเบียดของร่าง… ราวกับเสาค้ำของโลกอันกว้างใหญ่ ทุกลมหายใจเข้าออกสายลมสายฟ้าพัดโบก หมื่นลักษณ์ปรากฏ

และในสภาวะจิต แสงจิตเรืองรองสำแดงเงาแสงของโลกแห่งหนึ่งออกมา โลกนี้สะท้อนนัยเร้นลับของมรรควิถีทั่วร่างเขา มหัศจรรย์หาที่เปรียบไม่ได้

ใจยิ่งใหญ่แค่ไหน โลกก็กว้างใหญ่เพียงนั้น คำคนโบราณกล่าวไว้ไม่ผิด!

นี่ก็คือระดับจักรพรรดิขั้นสาม ที่กายใจล้วนสามารถเปลี่ยนเป็นโลกหนึ่ง แม้หลินสวินร่วงหล่นตอนนี้ ร่างกายก็จะเปลี่ยนเป็นโลกที่เสมือนจริงแห่งหนึ่ง ดำรงอยู่ในโลกต่อไป…

เสียเวลาไปอีกสามวัน หลังจากมรรควิถีทั่วร่างของหลินสวินมั่นคงแล้ว ก็เริ่มลงมืออนุมานและแก้ศิลามรรคค้ำสมุทรอย่างไม่ลังเลอีก

การเพิ่มขึ้นของระดับขั้นพลัง ทำให้ยามเขาแก้กระบวนค่ายกลลายมรรค ความเร็วก็เพิ่มขึ้นมาก ทั้งมีพลังกายมากกว่าก่อนหน้านี้ช่วงใหญ่ ประหยัดเวลาให้เขาอย่างมากในการอนุมานหลังจากนั้น

มีเพียงการสิ้นเปลืองเจตวัตถุและโอสถเทพที่ไม่ลดลง แต่ยังมากขึ้น

เหตุผลเพราะว่าการยกระดับพลังของหลินสวิน ทำให้ตอนที่เขาอยากจะฟื้นฟูพลังกายและใจ ทรัพยากรที่ใช้ก็น่าตกใจอย่างที่สุด

ถ้าไม่ใช่เพราะเขาสะสมทรัพยากรฝึกปราณจำนวนมหาศาลในหลายปีมานี้ ตอนที่บุกเข้าวังมหามรรคหมื่นมังกรก็เก็บทรัพย์จำนวนน่าตกใจมาได้ คงแบกรับความสิ้นเปลืองเช่นนี้ไม่ไหว

เวลาล่วงเลยไป

อีกหนึ่งปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว หลินสวินเข้าสู่ใต้ทะเลตะวันออกสองปีแล้ว

“ในที่สุดก็ได้แล้ว…”

วันนี้หลินสวินเหมือนยกภูเขาออกจากอก หลังออกจากสภาวะจิตที่จดจ่ออนุมานต่อเนื่อง ความพึงพอใจและความสำเร็จที่ไม่เคยมีมาก่อนก็พวยพุ่งในใจ

สองปี ศิลามรรคผนึกที่เรียกได้ว่าไร้เทียมทานสี่สิบเก้าหลัก ล้วนถูกเขาหยั่งรู้และอนุมานแก้ได้ทั้งหมด!

ควรรู้ว่าสำหรับระดับปฐมาจารย์สลักลายมรรคบนโลก หยั่งถึงผนึกชั้นเลิศอย่างหนึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว แต่ในสองปีนี้หลินสวินไม่เพียงหยั่งถึงกระบวนผนึกชั้นเลิศสี่สิบเก้าหลัก ยังอนุมานวิธีแก้ออกมาทั้งหมด!

และจากการอนุมานในสองปีนี้ ก็ทำให้ความเชี่ยวชาญด้านลายมรรคที่หลินสวินมียกระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงขั้นประหนึ่งสมบูรณ์สูงสุดแล้ว

เขาในตอนนี้สามารถสร้างกระบวนผนึกที่สามารถสังหารระดับจักรพรรดิทั่วไปได้ง่ายๆ แล้ว

หากมีเจตวัตถุเพียงพอ ทุ่มเทเสียเวลาอีกหน่อย ถึงขั้นสามารถสร้างกระบวนค่ายกลมรรคสิ้นฟ้าอาสัญที่สมบูรณ์แบบได้

นี่เป็นถึงกระบวนค่ายกลน่ากลัวที่สามารถกำราบบรรพจารย์จักรพรรดิได้ จัดอยู่ในอันดับห้าทั่วหล้า แข็งแกร่งกว่ากระบวนสังหารไร้ชีพไม่ใช่ช่วงเดียว!

‘สองปีแล้ว จักรพรรดิมังกรประหัตวิญญาณและอ๋าวฮ่วนไห่นั่นคงจะลืมข้าไปนานแล้วกระมัง…’

หลินสวินสูดหายใจลึกคราหนึ่ง มุ่งหน้าไปหาอ๋าวซิงถังและจ้าวหยวนจี๋โดยไม่ลังเล

ระหว่างทางเขาสื่อสารกับซี ต้าหวง ซย่าจื้อที่ซ่อนตัวอยู่ในเจดีย์ไร้สิ้นสุด ได้รู้ว่าบาดแผลที่ซีและต้าหวงได้รับตอนนั้นฟื้นตัวนานแล้วก็อดผ่อนคลายลงไม่ได้

ในสองปีนี้ซย่าจื้อนอนหลับโดยตลอด สำหรับนาง การนอนก็เป็นการฝึกปราณในความเงียบอย่างหนึ่ง

“สามารถแก้ได้ทั้งหมดแล้วหรือ”

ตอนที่ได้รู้ข่าวจากปากหลินสวิน อ๋าวซิงถังและจ้าวหยวนจี๋ต่างยากจะเชื่อ

สองปี!

แก้กระบวนผนึกชั้นเลิศสี่สิบเก้าหลักที่มาจากตระกูลลั่วอีกฟากฝั่ง!

นี่เป็นความเร็วที่เรียกได้ว่าราวกับปาฏิหาริย์อย่างแน่นอน!

“’เช่นนั้น… ตอนนี้สามารถช่วยบรรพชนเผ่าข้าออกมาได้แล้วใช่หรือไม่” เสียงของอ๋าวซิงถังแฝงแววสั่นเครือ

ตอนความหวังมาเยือน นางกลับตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูกอยู่บ้าง

ไม่รู้กี่ปีแล้วที่บรรพชนเผ่าเจินหลงของพวกเขาถูกกำราบอยู่ใต้ทะเลที่มืดมน พบเจอความทรมานและเคี่ยวกรำจิตใจไม่รู้เท่าไหร่

แม้จะแข็งแกร่งเช่นเผ่าเจินหลงก็ไม่กล้าไปช่วย ทำให้ทะเลตะวันออกกลายเป็นเขตต้องห้ามไร้ชีพ ไม่มีใครรู้ว่าบรรพชนเจินหลงถูกขังอยู่ที่นี่ประหนึ่งนักโทษมาโดยตลอด

หลายสิบปีมานี้อ๋าวซิงถังลองมาไม่รู้กี่ครั้ง แต่สุดท้ายก็จบลงด้วยความล้มเหลว เดิมในใจก็มีความสิ้นหวังแล้ว

แต่ตอนนี้หลินสวินใช้เวลาสองปี นำพาความหวังมาให้กับนาง!

เห็นสีหน้าทั้งตื่นเต้นและประหม่าของอ๋าวซิงถัง หลินสวินพยักหน้าอย่างไม่ลังเล

ทันใดนั้นอ๋าวซิงถังเหมือนคลายความตึงเครียดในใจ รู้สึกผ่อนคลายอย่างหนึ่ง อารมณ์ที่ยากจะอธิบายถาโถมเข้าสู่หัวใจราวกับภูเขาไฟปะทุ

นางนึกถึงบิดาที่ยอมสละชีพเพื่อเรื่องนี้ นึกถึงพี่น้องที่แตกหักกลายเป็นศัตรู นึกถึงอะไรมากมาย…

จ้าวหยวนจี๋อดหัวเราะเสียงดังไม่ได้ “ไม่เสียทีที่เป็นลูกเขยของข้า!”

ใบหน้าของหลินสวินร้อนระอุขึ้นมา นี่นับว่าได้รับการยอมรับแล้วหรือ

“ท่านลุงท่านป้า ข้าตัดสินใจว่าจะยังไม่ลงมือก่อนชั่วคราว” หลินสวินสูดหายใจลึกคราหนึ่ง บอกการตัดสินใจของตนออกมา

อ๋าวซิงถังอึ้งไป “เพราะเหตุใด”

ดวงตาดำของหลินสวินลึกล้ำ กล่าวโดยไม่ได้ปิดบังว่า “ข้าวางแผนจะไปเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่ก่อน ใช้วิชามังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปรแลกความช่วยเหลือที่แท้จริงจากพวกเขา”

คำว่าที่แท้จริงถูกเขาเน้นเสียงหนัก

อยากจะเปลี่ยนโชคชะตาของเผ่าหรือ

ได้!

ทว่ามีเหตุผลให้ชุบมือเปิบเสียที่ไหน

หลินสวินไม่ใช่แม่พระ คิดอยากจะได้มรดกมังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปร อย่างน้อย… ก็ควรจะแลกด้วยสิ่งที่คู่ควร!

อ๋าวซิงถังและจ้าวหยวนจี๋เข้าใจความคิดของหลินสวินทันที ในใจก็กระเพื่อมไหว ตระหนักได้ว่าครั้งนี้หลินสวินวางแผนจะเล่นงานเผ่าเจินหลงอย่างสิ้นเชิงแล้ว!

หลินสวินมองดูอ๋าวซิงถัง ใบหน้างามของอีกฝ่ายเปลี่ยนไปพักหนึ่ง สุดท้ายถอนหายใจเบาๆ พูดว่า “เจ้าไปจัดการเถอะ ข้าไม่ห้าม เผ่าเจินหลงนี่… ก็ควรชำระล้างสักหน่อยแล้ว!”

พูดถึงตอนสุดท้ายเสียงนางเปลี่ยนเป็นเด็ดขาดขึ้นมา

บรรพชนถูกกำราบ ในฐานะคนในเผ่ากลับไม่มีใครกล้าช่วย จักรพรรดิมังกรหมิงหลัวเสี่ยงชีวิตไปช่วย กลับถูกคนของเผ่าตนฆ่า!

เผ่าเจินหลงที่เป็นเช่นนี้ ไม่ใช่เผ่าฟ้าประทานที่เคยสะเทือนฟ้าดารา ทำให้หมื่นเผ่าทั่วหล้าเคารพนับถืออีกต่อไปแล้ว!

“ขอบคุณท่านป้าที่เข้าใจ”

หลินสวินตัดสินใจแน่วแน่แล้ว บนร่างอ๋าวซิงถังและจ้าวจิ่งเซวียนล้วนมีสายเลือดของเจินหลง แม้แต่อ๋าวเจิ้นเทียนก็เป็นลูกชายของอ๋าวฮ่วนไห่หัวหน้าเผ่าเจินหลง

หากหลินสวินจะแตกหักกับเผ่าเจินหลง ก็จำต้องดูท่าทีของคนเหล่านี้

“ความจริงเจ้าล่วงเกินเผ่าเจินหลงไปนานแล้ว ทำเช่นนี้ทุกคนล้วนสามารถเข้าใจได้ ศึกภายในของเผ่า การนองเลือดและความตายถูกกำหนดให้หลีกลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว”

จ้าวหยวนจี๋พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้ว เช่นนั้นก็ลงมือเถอะ ข้ากับท่านป้าของเจ้าจะสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง”

หลินสวินพยักหน้า

และในวันนั้น หลินสวินออกจากใต้เก้าพันจั้งในทะเลตะวันออกแห่งนี้

สองวันให้หลัง

บนเขาประกายรุ้งในเกาะเทพรุ้งมรกต

หลินสวินปรากฏตัวเงียบๆ และไปหาอันเสวี่ยกับอันเจิงทันที

“ผู้อาวุโส ท่าน… ถึงกับยังมีชีวิตอยู่” ทั้งสองยากจะเชื่อ เผยสีหน้าที่ราวกับเห็นผีกลางวันแสกๆ

สองปีที่แล้วข่าวที่ว่าหลินสวินอาละวาดในวังมังกรแพร่ออกมา ทำให้ทั่วหล้าสั่นไหว

คนผู้เดียวบุกเข้าวังมหามรรคหมื่นมังกร ทำลายกระบวนค่ายกลต้องห้าม สังหารระดับจักรพรรดิเผ่าเจินหลงไปสิบเจ็ดคน…

ผลงานการต่อสู้โดดเด่นนองเลือดเช่นนี้ ใครจะไม่อกสั่นขวัญหนี

ผ่านการต่อสู้ครั้งนี้ เผ่าเจินหลงที่ประหนึ่งนายเหนือหัวพลังดั้งเดิมเสียหายอย่างหนัก รากฐานสั่นคลอน จะไม่ให้หมื่นเผ่าทั่วหล้ากลัวได้อย่างไร

ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเรื่องที่สะท้านโลกเช่นนี้มาก่อน!

และการร่วงหล่นของหลินสวิน ก็ทำให้เผ่าไม่รู้เท่าไหร่ถอนหายใจอย่างเสียดาย

ถึงขั้นแม้แต่เก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่ยังอัดอั้นเพราะเรื่องนี้ เสียใจอย่างไม่อาจควบคุม

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้จู่ๆ ก็เห็นหลินสวินปรากฏตัว ความตกตะลึงในใจอันเสวี่ยและอันเจิงแค่คิดก็รู้แล้ว

หลินสวินไม่พูดพร่ำทำเพลง เอ่ยว่าต้องการพบหัวหน้าเผ่าของเผ่าจักรพรรดิปี้อั้นทันที อันเสวี่ยไม่กล้าเมมินเฉย ไปรายงานด้วยตัวเอง

ในคืนนั้นหัวหน้าเผ่าเผ่าจักรพรรดิปี้อั้นเร่งเดินทางมาจากพื้นที่ห่างไปหลายร้อยลี้ ยามเห็นหลินสวินยังมีชีวิตอยู่ก็ทั้งดีใจทั้งประหลาดใจ

คืนนี้หลินสวินกับหัวหน้าเผ่าเผ่าจักรพรรดิปี้อั้นคุยกันตามลำพังอยู่นาน สุดท้ายเผ่าจักรพรรดิปี้อั้นออกหน้า กระจายข่าวให้หัวหน้าเผ่าของแปดเผ่าจักรพรรดิใหญ่ที่เหลือด้วยประโยคเดียว

‘โอกาสเปลี่ยนโชคชะตาเผ่ามาแล้ว เชิญทุกท่านมาหารือที่เกาะเทพรุ้งมรกต’

หนึ่งวันหลังจากนั้น

ภายใต้สถานการณ์ที่คนบนโลกยังไม่รู้ตัว หัวหน้าเผ่าแปดเผ่าจักรพรรดิใหญ่อย่างผูเหลา ชือน้ำแข็ง ซวนหนี เฉาเฟิง ป้าเซี่ย ฉิวหนิว ฟู่ซี่ หยาจื้อเร่งเดินทางมาจากทั่วทิศ รวมตัวกันบนเกาะเทพรุ้งมรกต

ทีแรกในใจพวกเขายังมีความสงสัยอยู่มาก แต่หลังจากเห็นหลินสวินก็ทั้งตกใจทั้งดีใจ เหมือนมองเห็นความหวังที่จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาเผ่าทะลวงรัตติกาลเข้ามา!

วันนี้หลินสวินและหัวหน้าเผ่าเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่อยู่ด้วยกัน พูดคุยสนทนาในเรื่องที่คนนอกไม่สามารถรู้ได้

เช้าวันถัดมา หลินสวินเดินทางออกจากเกาะเทพรุ้งมรกต

มองส่งเขาจากไป หัวหน้าเผ่าเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่สบตากัน ปรึกษาสนทนากันอีกครั้งถึงสามชั่วยาม

สุดท้ายพวกเขาเลือกเชื่อคำพูดของหลินสวิน สำหรับพวกเขา ไม่ว่าต้องจ่ายค่าตอบแทนเท่าไร โอกาสที่จะเปลี่ยนโชคชะตาของเผ่าครั้งนี้ก็จะพลาดไม่ได้

……

ใต้เก้าพันจั้งของทะเลตะวันออก

หลังจากหลินสวินกลับมา คุยกับพวกจ้าวหยวนจี๋และอ๋าวซิงถังคร่าวๆ ก็เริ่มเคลื่อนไหวทันที

ในวันนี้ทะเลตะวันออกคลื่นลมเงียบสงบเหมือนที่ผ่านมา

ทว่าสำหรับหมื่นเผ่าในแดนเจินหลง นี่เป็นวันที่ต้องบันทึกลงในหน้าประวัติศาสตร์!

ตูม!

ใต้เก้าพันจั้งของทะเลตะวันออก เมื่อหลินสวินลงมือ ไม่ทันไรกระบวนผนึกไร้เทียมทานที่ปกคลุมอยู่บนศิลามรรคค้ำสมุทรหลักหนึ่งก็เข้าสู่สภาวะหยุดนิ่งในทันที ระลอกคลื่นที่ส่งออกมาก็หยุดนิ่งลง

อ๋าวซิงถังและจ้าวหยวนจี๋ล้วนสังเกตได้อย่างฉับไวว่าใต้เก้าพันจั้งของทะเลตะวันออกแห่งนี้เปลี่ยนไปแล้ว ขาดกลิ่นอายน่ากลัวที่แปลกประหลาดเย็นเยียบไป ไม่ได้ให้ความรู้สึกกดดันที่อันตรายถึงชีวิตเหมือนก่อนหน้านี้อีก

และพร้อมๆ กับการเคลื่อนไหวของหลินสวิน พลังผนึกที่ปกคลุมบนศิลามรรคค้ำสมุทรแต่ละหลักก็หยุดชะงักตามกัน พลังอันตรายที่แผ่ออกมาค่อยๆ จมสู่ความเงียบ

กระทั่งทำให้ศิลามรรคค้ำสมุทรสี่สิบเก้าหลักหยุดนิ่งไปแล้วครึ่งหนึ่ง โลกภายนอกก็ยังไม่รับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นใต้เก้าพันจั้งของทะเลตะวันออกแห่งนี้…

ทว่าก็เป็นตอนนี้เอง ส่วนลึกของใต้ท้องทะเลที่มืดมนหาใดเปรียบนั้น พลันมีดวงตาที่ใหญ่ราวกับทะเลสาบคู่หนึ่งลืมขึ้น นัยน์ตานิ่งสงบ ว่างเปล่า ไร้คลื่นอารมณ์ ไร้ซึ่งชีวิตชีวา

ทว่ากลับค่อยๆ มีแสงสว่างจุดประกายในดวงตาอันว่างเปล่านั้นทีละน้อย…

——