บทที่ 1944
ย่โจงฉวนขมวดคิ้ว ถามขึ้นมาว่า “แกเป็นถึงลูกหลานตระกูลเย่ ทำไมไม่มีความอดทนเลยล่ะ? เรื่องแค่นี้ยังทนไม่ได้ แล้วแกจะไปทำ
อะไรได้?”
พูดจบ เยโจงฉวนก็เอ่ยเตือนขึ้นมาว่า “ใช่สิ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป แกห้ามขัดแย้งอะไรกับเฉินเอ๋ออีก อย่าต่อความยาวสาวคามยืดกับเขา
เพราะเรื่องนี้ เฉินเอ่ออุตส่ห์รับปากแล้ว ว่าจะกลับมาไหว้บรรพบุรุษตอนเทศกาลเชงม้ง นั่นถือเป็นก้าวแรกของการกลับเข้าตระกูลเย่ของเขา
เลยนะ”
เย่ฉางหมิ่นเอ่ยถามอย่างกรุ่นโกรธว่า “พ่อ! ทำไมพ่อถึงเอาแต่เข้าข้างคนที่ไม่เคยเห็นหัวผู้ใหญ่แบบไอ้สารเลวเย่เฉินด้วย? มันก็แค่เด็ก
เหลือขอนอกคอก ไม่มีการศึกษา มีค่าอะไรกับตระกูลเย่ของเรานักหนา? พอให้มันกลับไปไหว้บรรพบุรุษแบบนี้ ถึงตอนนั้นมันจะไม่ทำให้สาย
เลือดทั้งตระกูลเย่ขายหน้าหมดเหรอ?”
เย่โจงฉวนพูดเสียงเย็น “ถึงยังไงฉินเอ๋อร์ก็มีสายเลือดตระกูลเมีสัญญาแต่งงานกับลูกสาวของกู้เยันจงติดตัว เขามีค่ากับตระกูลเย่
และตอนนี้ก็ไม่มิใครสู้ได้ รวมถึงแกด้วย! เพราะฉะนั้นแกหยุดสร้างเรื่องได้แล้ว ฉันขอสั่งให้แกอยู่ที่เมืองจินหลิงต่ออีกเจ็ดวัน! แค่เกี๊ยวไส้หมูกับ
ผักดองยังหาเรื่องได้ แกนี่มันไร้สาระจริงๆ!”
เย่โจงฉวนพูดจบ ก็ตัดสายไปทันที
เย่ฉางหมิ่นที่กำลังถือสายอยู่ น้ำตาไหลพรากอย่างน้อยใจ
ยิ่งเป็นแบบนี้ ในใจของเธอก็ยิ่งเกลียดเย่เฉิน
เธอคิดว่า การที่เธอต้องมาลำบาก และถูกคนเป็นพ่อดุด่าแบบนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะเย่เฉินคนเดียว
ดังนั้น เธอขอปฏิญาณไว้เลยว่า เธอจะต้องหาโอกาส ทำให้เย่เฉินชดใช้ให้ได้!
และการไหว้บรรพบุรุษในครั้งนี้นี่แหละ คือโอกาสที่ดีที่สุด!
คิดมาถึงตรงนี้ เย่ฉางหมิ่นก็พึมพำในใจว่า “เย่เฉิน ฉันเย่ฉางหมิ่นคนนี้จะให้บทเรียนแกอย่างสาสม!”
คิดมาถึงตรงนี้ เธอก็ปาดน้ำตา แล้วเปิดประตูออกไป เอ่ยพูดกับลูกน้องของหงห้าด้วยใบหน้ารู้สึกผิดว่า “นาย เมื่อกี้ฉันปากพล่อยเอง
แหละ ฉันขอโทษ หวังว่านายจะยกโทษให้ฉัน.
เธอพูดพร้อมกับโค้งคำนับ
เมื่ออีกฝ่ายเห็นแบบนี้ ก็ใจอ่อนลง ดังนั้นจึงเอ่ยพูดว่า “เอาล่ะ เห็นแก่ที่รู้สึกผิดหรอกนะ เรื่องนี้ฉันจะปล่อยไปก็แล้วกัน! ”
เย่ฉางหมิ่นพอใจเป็นอย่างมาก รีบโค้งขอบคุณ จากนั้นก็เอ่ยพูดว่า “ฉันรบกวนฝากบอกอะไรลูกพี่ของนายได้ไหม?”
ช่วงกลางคืน เย่เฉินที่ตัวอยู่โรงแรมน้ำพุร้อนช็องเซลี ก็ได้รับสายโทรศัพท์จากหงห้า
หงห้าพูดกับเขาในปลายสายว่า “อาจารย์เย่ คุณอาของคุณฝากผมโทรมาบอกคุณว่า หลายวันมานี้เธอสำนึกผิดแล้ว เธอฝากผมมา
ขอโทษคุณด้วย หวังว่าคุณจะให้อภัยที่เธอทำตัวไม่สมเป็นผู้ใหญ่”
เย่เฉินพุดอย่างเรียนิ่ง “คนอย่างเธอ ไม่มีทางยอมขอโทษฉันง่ายๆหรอก ต้องมีจุดประสงค์อะไรแน่ๆ”
หงห้าเอ่ยพูดขึ้นมาว่า “เธอบอกว่า อยากให้คุณเห็นแก่ที่เธอยอมสำนึกผิด แล้วปล่อยเธอกลับเมืองเย่นจิงล่วงหน้า”
เย่เฉินแสยะยิ้ม “ไม่มีทาง! ฝากบอกเธอด้วยว่าให้เลิกฝันลมๆแล้งๆชะ เธอต้องอยู่ที่นั่นอีกเจ็ดวัน ห้ามขาดแม้แต่นาทีเดียว”
หงห้าเอ่ยพูดว่า “ครับอาจารย์เย่ ผมจะไปบอกเธอเดี๋ยวนี้”
“อืม” เย่เฉินเอ่ยกำชับว่า “ถ้าครบเจ็ดวันแล้ว ให้เธอออกไปจากเมืองจินหลิงทันที และห้ามให้กลับมาอีกเด็ดขาด! “