บทที่ 1955

ในตอนที่รถตู้ไหลตกลงหน้าผา หัวใจของซ่งหวั่นถึงก็บีบรัดจนถึงขั้นสุด

แต่ว่า ยิ่งอยู่ในสถานการณ์ใกล้ตายแบบนี้ สมองของเธอก็ยิ่งฉายภาพชัด

ในเวลานี้สมองของเธอโลดแล่นอย่างรวดเร็ว ในหัวคิดไปถึงเรื่องราวต่างๆมากมายกายในเวลาสั้นๆ
เพราะว่าทุกความคิดในหัวมันเร็วไปหมด เวลาที่มีจึงช้ลงเรื่อยๆ

ในตอนที่รถตู้ชนกระแทกหินขนาดใหญ่ตรงขอบหน้าผา ซ่งหวั่นถึงก็ รู้สึกว่าทั้งร่างกายถูกบีบอัดจนแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

แต่โชคดี ที่เธอยังนั่งอยู่บนเบาะของรถหรู มาะแบบนี้นุ่มสบายทั้งยังให้ความรู้สึกปลอดภัย สำคัญที่สุดก็คือส่วนที่รองรับร่างกายมีความ
นุ่มเป็นอย่างมาก

ตรงส่วนที่นุ่มของเบาะ สามรถผ่อนปรนแรงอัดมหาศาลที่ร่างกายได้รับ เหมือนนำไข่ไก่วางไว้ในกล่องที่เต็มไปด้วยขนนุ่น ค่า
สัมประสิทธิ์ความปลอดภัยก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น

แต่ถึงจะอย่างนั้น ซ่งหวั่นถึงก็ยังถูกแรงมหาศาลพุ่งชน ฉีกกระชากร่างกายจนแทบหมดสติ แรงนี้ทำให้อวัยวะภายในของเธออัดรวมอยู่
ด้วยกัน ความเจ็บปวดนั้นมันมากเกินกว่าที่จินตนาการเอาไว้!

ในชั่ววินาทีนี้ จู่ๆเธอก็นึกถึงของสิ่งหนึ่ง ของที่เธอพกติดตัวอยู่ตลอด!

ในตอนนี้เอง หลังจากที่ตัวรถกระแทกหินก้อนใหญ่ ก็ลอยเคว้งอยู่กลางอากาศ จากนั้นก็ตกลงไปข้างล่างต่อ ซ่งหวั่นถิงพยายามยื่นมือ
เข้าไปในกระเป๋าเพื่อหยิบของสิ่งนั้นออกมาอย่างสุดชีวิต

ต่อมา เธอก็หยิบตลั่บไม้ม่ใหญ่ไม่เล็กกมาจากกระเป๋ได้ เนื่องจากตัวรถยังพลิกไปพลิกมา เธอจึงทำได้เพียงใช้สองมือกุมตลับไม้
นั้นเอาไว้แน่นๆ ไม่กล้าผ่อนแรงลงแม้แต่วินาที่เดียว เพราะกลัวว่าตลับไม่ในมือจะหลุดออกไป!

เพราะเธอรู้ว่า ของที่อยู่ข้างในตลับไม้นี้ คือสิ่งเดียวที่จะสามารถช่วยชีวิตเธอเอาไว้ได้!

ซ่งหวั่นถิงเปิดตลับไม้ออกด้วยความรวดเร็ว ในตอนที่ตัวรถกำลังจะชนกระแทกอีกครั้ง เธอก็หยิบเม็ดยาที่อยู่ในตลับไม้นั้นยัดใส่ปาก
อย่างไม่ลังเล!

เสียงโครมครามดังสนั่นขึ้น

คราวนี้ ตัวรถชนกระแทกอย่างรุนแรงมากกว่าเดิม!

ตัวรถตู้พุ่งลงไปข้างล่าง ตกกระทบลงบนก้อนหินขนาดใหญ่!

วินาทีนั้นประตูรถที่อยู่ทางซ้ายมือของซ่งหวั่นถิง กระแทกลงบนก้อนหินจนเกิดรอยบุบขนาดใหญ่!

แรงบุบจากประตู กระแทกหัวเข่าข้างซ้ายของซ่งหวั่นถิง จนทำให้หัวเข่าของเธอหัก!

ความเจ็บปวดรุนแรง ทำให้ซ่งหวั่นถิงร้องออกมาอย่างน่าเวทนา ต่อมา รถทั้งคันก็กลิ้งอยู่บนลานหินลาดชั้นหลายตลบ

ในระหว่างที่ตัวรถกำลังกลิ้งอยู่นั้น ตัของเฉินย่านกระแทกไปมาอยู่หลายรอบ จนมีสภาพที่ไม่อาจทนมองได้ และเสียชีวิตไปตั้งนาน
แล้ว

ซ่งหวั่นถิงเห็นร่างกายของเธอกระแทกไปมาภายในรถ ก็อยากที่จะช่วยแต่ติดตรงที่ว่าแม้แต่ตัวเองยังเอาไม่รอด ทำได้เพียงเบิกตามอง
อยู่อย่างนั้น น้ำตาพลันทะลักไหลออกมาราวกับเขื่อนแตก!

ในตอนที่รถลอยเคว้งอยู่ในอากาศอีกครั้ง เนื่องจากตัวรถกลิ้งไปมาอย่างรวดเร็ว กระจกรถจึงได้แตกละเอียดไปแล้ว ดังนั้นร่างกาย
ของเฉินย่านจึงปลิวออกไปนอกหน้าต่าง….

ซ่งหวั่นถิงร้องห้อกมาอย่างแกสลายร่างกายของเธอเองก็ได้รับบาดจ็บอย่างหนัก ทั้งศีรษะ อวัยวะภายน แขนขา ล้วนแล้วแต่ได้
รับบาดเจ็บอย่างหนัก เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเข้าใกล้ความตายเต็มที

แต่ว่า เม็ดยาที่เย่เฉินให้เธอมา เธออมไว้ในปากตลอดไม่ได้กลิ่นลงไป

เธอรู้ว่า เม็ดยาสามารถช่วยเธอได้แค่ครั้งเดียว ถ้าหากตัวเองกลืนลงไปเร็ว หลังจากนั้นพอรถตกลงไปในเหว เธอก็ต้องตายอยู่ดี!

ดังนั้น ในหัวของเธอจึงมีคำพูดหนึ่งผุดขึ้นมาว่า “ฉันต้องอดทนต่อไป! ฉันต้องอดทนให้ถึงที่สุด จากนั้นค่อยมอบชีวิตให้แก่พระเจ้า!”
ต่อมา อีกคำพูดหนึ่งก็แย้งเข้ามาในห้ว “ไม่ใช่สิ! ไม่ใช่มอบชีวิตให้แก่พระเจ้า แต่มอบชีวิตให้เย่เฉินต่างหาก! ”

แรงกระแทกอย่างหนักประดังเข้ามาอีกครั้ง

ซ่งหวั่นถิงรู้สึกว่าตัวเองใกล้จะหมดสติเต็มที่

ในชั่ววินาทีสุดท้าย เธอกัดเม็ดยาให้แตก แล้วกลืนเม็ดยาที่เต็มไปด้วยกลิ่นยาขมๆลงไปในท้องทันที!
วินาทีต่อมา ซ่งหวั่นถึงก็หมดสติไปอย่างสมบูรณ์แบบ ร่างกายถไลกลิ้งไปตามรถ

ในตอนนี้เองฤทธิ์ยาที่ซ่งหวั่นถิงกลืลงไปก็กำลังแตกตัวอยู่ในท้องของเธออย่างรุนแรง

ความร็วในการแตกตัวของยาป็นไปอย่างว่องไว ไหลเวียนไปยังจุดต่างๆภายในร่างกายของเธออย่างรวดเร็ว

ร่างกายของซ่งหวั่นถิงในตอนนี้ แทบจะสูญสิ้นกำลังไปหมดทุกอย่าง แต่ขณะนั้นเอง ฤทธิ์ยาที่ออกฤทธิ์อย่างแข็งแกร่งก็สามารถ
ทำให้ร่างกายของเธอฟื้นคืนสภาพกลับมาได้อย่างฉับพลัน