บทที่ 1958
ทางด้านคุณท่านซ่งกำลังเตรียมเข้านอน
ตั้งแต่ที่รับประทานยาอาวุวัฒนะ ร่างกายของเขาก็ยิ่งแข็งแรง แต่ว่ามันก็ทำให้เขารักสุขภาพมากยิ่งขึ้น ดังนั้นเขาจึงมีแนวคิดเกี่ยวกับ
สุขภาพว่านอนเร็วตื่นเร็ว ในทุกๆวันเขาจึงเข้านอนค่อนข้างเร็ว
เมื่อได้รับสายโทรศัพท์จากเย่เฉินอย่างกะทันห้น เขาจึงรีบกดรับสาย แล้วเอ่ยพูดว่า “ไอหยา อาจารย์เ โทรมาดึกขนาดนี้ มีเรื่อง
อะไรหรือเปล่า?”
เย่เฉินเอ่ยพูดว่า “คุณท่านซ่ง ผมรบกวนถามอะไรหน่อยครับตอนนี้หวั่นถึงทำอะไรอยู่? ทำไมจู่ๆถึงติดต่อเธอไม่ได้เลย?”
“หวั่นถิง?” คุณท่านซ่งพูดขึ้นมาอย่างแปลกใจ “ตอนเย็นๆยังติดต่อกันอยู่เลย ตอนนี้เธออยู่ที่โตเกียว ไปคุยเจรจาเรื่องร่วมงานกับ
บริษัทนิปปอนสตีน่ะ”
เย่เฉินเอ่ยพูดว่า “ไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้หวั่นถิงส่งข้อความเสียงมาหาผม จู่ๆก็พูดเรื่องชาติหน้าอะไรพวกนั้น แล้วหลังจากนั้นผมก็ตอบเธอ
กลับไป แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ผมสงสัยว่าหวั่นถึงอาจจะประสบอุบัติเหตุอยู่ที่โตเกียว”
“ประสบอุบัติเหตุ?! ”
คุณท่านซ่งลุกพรวดขึ้นมาจากเตียงทันที เอ่ยถามออกไปว่า “อาจารย์เ ข้อความเสียงที่เธอส่งไปหาคุณ ได้บอกไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?”
“ไม่มีครับ” เย่เฉินพูดเสี่ยงต่ำว่า “นี่แหละคือสิ่งที่ผมกังวลที่สุด ในข้อความเสียงที่เธอส่งมาไม่ได้บอกรายละเอียดชัด แต่มันทำให้ผม
รู้สึกได้ ว่าเธอกำลังบอกลาผม”
คุณท่านซ่งเอ่ยพูดอย่างเครียดๆว่า “ผมจะลองโทรไปถามผู้ช่วยเธอว่าตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่! ”
“ครับ ได้เรื่องอะไร รบกวนแจ้งผมทันทีเลยนะครับ!”
คุณท่านซ่งวางสายไปแล้ว จากนั้นก็ลองโทรหาซ่งหวั่นถิงก่อนเป็นอันดับแรก
ผลลัพธ์เป็นอย่างที่เย่เฉินพูด โทรหาซ่งหวั่นถึงไม่ติดเลยส้กนิด
หัวใจของคุณท่านซ่งพลันชาวาบ จากนั้นก็รีบโทรไปหาเฉินย่านผู้ช่วยของซ่งหวั่นถึง
เฉินย่านเป็นผู้ช่วยคนสนิทและเป็นมือซ้ายของซ่งหวั่นถึง ถ้าหากว่าซ่งหวั่นถึงเกิดอะไรขึ้นน เธอต้องรู้เรื่องอย่างแน่นอน
แต่เรื่องที่ทำให้คุณท่านซ่งกังวลมากกว่าเดิมก็คือ เบอร์ของเฉินย่านก็โทรไม่ติด
คราวนี้คุณท่านซ่งเริ่มลนลานขึ้นมาจริงๆแล้ว
เขารีบโทรไปหาซ่งหรงวี่ เอ่ยพูดว่า “หรงวี่ มาหาฉันที่ห้องเดี๋ยวนี้! หวั่นถึงเกิดเรื่องแล้ว! ”
หนึ่งนาทีต่อมา ซ่งหรงวี่ก็เข้ามาหาอย่างเร่งรีบ ทันทีที่เปีดประตูก็เอ่ยถามอย่างเครียดๆว่า “คุณปู่ เกิดอะไรขึ้นกับหวั่นถึงครับ?!”
คุณท่านซ่งเอ่ยพูดอย่างกังวลว่า “หวั่นถิงหายตั๋วไป! ฉันโทรไปหาทั้งเธอทั้งเฉินย่าน แต่ก็โทรไปม่ติดสักคน!”
คุณท่านซ่งเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้งว่า “หรงวี่ น้องสาวแกไปญี่ปุ่นคราวนี้ มีคนไปด้วยกี่คน?!”
ซ่งหรงวี่เอ่ยพูดว่า “เหมือนจะพาผู้ช่วยไปสองคน แล้วก็คนขับรถที่ไปเจอที่ญี่ปุ่น”
คุณท่านซ่งรีบเอ่ยถามอย่างร้อนใจว่า “นอกจากเฉินย่านแล้ว อีกคนคือใครแกรู้ไหม?”
ซ่งหรงวี่คิดอยู่สักพัก ก็เอ่ยพูดว่า “เหมือนจะชื่อว่าเสี่ยวฮุ่ยนะครับ”
คุณท่านซ่งรีบออกคำสั่งว่า “เร็วเข้า! หาเบอร์ของเสี่ยวฮุ่ยอะไรนั่นมาให้ได้ แล้วก็ลองโทรหาเธอดูว่าติดต่อได้หรือเปล่า!”
ซ่งหรงวี่พยักหน้า จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ออกมา ติดต่อไปหาหัวหน้าแผนกทรัพยากรบุคคลแล้วเอ่ยพูดว่า “มีเบอร์ติดต่อคนชื่อเสี่ยวฮุ่ยที่
ไปญี่ปุ่นกับซ่งหวั่นถึงไหม?”
อีกฝ่ายตอบกลับมาว่า “มีครับคุณชาย ให้ผมส่งให้เลยไหมครับหรือว่ายังไง?”
ซ่งหรงวี่เอ่ยขึ้นมาว่า “ส่งมาตอนนี้เลย! ”
ไม่นาน อีกฝ่ายก็ส่งช่องทางติดต่อมาให้ซ่งหรงวี่
ซ่งหรงรีบติดต่อไปในทันที แต่รออยู่นาน ปลายสายก็มีแต่สัญญาณตอบกลับมาว่า “ขออภัยค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถ
ติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาฝากหมายเลข…..”
ซ่งหรงวี่มองมาที่คุณท่านซ่งอย่างเครียดๆ แล้วพูดว่า “คุณปู่ครับ….ผู้ช่วยสองคนที่ติดตามหวั่นถึงไปด้วยโทรหาใครไม่ติดสักคนเลย
นี่…นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่…..
คุณท่านซ่งเหงื่อออกท่วมหัว เขาบีบมือตัวเองแน่น พึมพำออกมาว่า “แย่แล้วๆ! ต้องเกิดเรื่องขึ้นกับหวั่นถึงแน่ๆ! ที่นี้ต้องทำยังไงดี…
ซ่งหรงวี่เอ่ยพูดอย่างไม่ลังเลว่า “คุณปู่ ให้ผมนำคนไปญี่ปุ่นตอนนี้เลยไหมครับ! “