บทที่ 1959

เมื่อซ่งหรงวี่ออกตัวขอไปตามหาที่ญี่ปุ่น คุณท่านซ่งจึงรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาบ้าง

เขาพิมพำขึ้นมาในใจว่า “หรงวี่กับหวั่นถึงไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ แต่หรงวี่เป็นห่วงหวั่นถึงขนาดนี้ มันช่างดีเสียจริง…

คิดมาถึงตรงนี้ เขาก็ถอนหายใจเบาๆ แล้วเอ่ยพูดว่า “หรงวี่ แกไปเตรียมต่ำวเครื่องบิน ฉันจะไปกับแกด้วย!”

ซ่งหรงวี่เอ่ยพูดขึ้นมาว่า “คุณปู่ไม่ต้องไปด้วยหรอกครับ คุณปู่แก่แล้ว ที่นั่นมันต่างถิ่นต่างผู้คน คุณปู่อยู่ที่บ้านนี่แหละครับ ผมจะตา
มหาซ่งหวั่นถึงกลับมาให้ได้!

คุณท่านซ่งลั่งเลเล็กน้อยในใจก็รู้ดีว่าถ้าตัวเองไปด้วย ก็คงไม่มีประโยชน์อะไร

อีกอย่าง ถ้าตัวเองไปญี่ปุ่นกับซ่งหรงวี่ ซ่งซื่อกรุ๊ปก็จะไม่มีคนคอยคุม

ถึงยังไงก็เป็นบริษัทที่ใหญ่พอสมควร ถึงแม้จะมีวันหยุด ก็ต้องจัดการปัญหาที่มีมาทุกวัน ถ้าหากไม่มีคนคอยคุมอยู่ที่นี่ ถ้าหากเกิดอะไร
ขึ้นมา ก็คงจะสร้างความเสียหายมหาศาล

ดังนั้น คุณท่านซ่งจึงพยักหน้าเขาๆ แล้วพูดว่า “งั้นก็ได้!ฉันจะรออยู่ที่บ้าน แกรีบพาคนที่มีฝีมือไปด้วย แล้วรีบออกเดินทางเถอะ!”
ซ่งหรงวี่รีบเอ่ยพูดว่า “คุณปู่ไม่ต้องห่วง ผมจะรีบจัดการเดี๋ยวนี้!”

ต่อมา ซ่งหรงวี่ก็โทรไปหาผู้ช่วยให้มารวมตัวกัน พร้อมทั้งบอดี้การ์ดอีกสิบกว่าคน ขณะเดียวกันก็จัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินไปด้วย หนึ่ง
ชั่วโมงต่อมาก็ขึ้นเครื่องบินไปที่ญี่ปุ่นทันที

ด้านคุณท่านช่งก็โทรไปหาเย่เฉินว่า “อาจารย์เม่ ไม่สามารถติดต่อได้ทั้งหวั่นถึงและคนติดตามของเธอ ผมกลัวว่าอาจจะมีอะไรเกิดขึ้น
กับพวกเธอ เลยให้หรงวี่เดินทางไปที่โตเกียวแล้ว!”

เย่เฉินเอ่ยถามปลายสายว่า “ไม่มีเบาะแสอะไรเลยเหรอ?”

คุณท่านซ่งถอนหายใจออกมา “ใช่ ไม่มีเบาะแสอะไรเลย ผมให้คนสอบถามทางโรงแรมแล้ว ทางโรงแรมบอกแค่ว่าไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า
นี้พวกเธอนั่งรถออกไปข้างนอก แต่ไม่รู้ว่าไปที่ไหน”

เย่เฉินเอ่ยถามขึ้นมาอีกว่า “หวั่นถึงไม่ได้บอกพวกคุณก่อนเหรอว่าจะออกไปไหน?”

“ไม่เลย… คุณท่านซ่งเอ่ยพูดอย่างจ็บปวดหัวใจ “ตอนที่หวั่นถึงกลับมาจากบริษันิปปอนสตีเมื่อเย็น ก็แค่พูดกับผมเรื่องความคืบหน้า
ของการเจรจา ยังพูดอีกว่าพรุ่งนี้จะไปคุยกับฝั่นั้นต่อ แต่ว่าเรื่องที่เธอออกไปข้างนอกในคืนนี้ ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย เธอไม่ได้ส่งข้อความมาบ
อกเลยสักคำ”

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ซ่งหรงวี่สร้างสถานการณ์ไว้อย่างเฉียบแหลมในระหว่างที่ซ่งหวั่นถึงกับฮาชิโมโตะ ชินคิจิกำลังเจรจาต่อรองอย่าง
ไม่มีใครยอมใคร เขาก็พูดให้กำลังใจซ่งหวั่นถึง และกระตุ้นให้อีกฝ่ายอยากเอาชนะ

อีกอย่างเมื่อเย็นที่ผ่านมา เขายังจงใจพูดออกมาอีกว่า “พรุ่งนี้อาจจะมีเซอร์ไพรส์ก็ได้” คำพูดนี้ยิ่งเป็นตัวกระตุ้นที่ซึมซับเข้าไปในความ
อยากเอาชนะของซ่งหวั่นถึง

หลังจากที่ซ่งหวั่นถิได้รับสายตอบตกลงเซ็นสัญญกับบริษัทปปอนสตี แน่นอนว่าต้องอยากเซอร์ไพร์ส์คนในครอบครัวอยู่แล้ว ด้ง
นั้นในตอนที่เธอออกมาจากโรงแรม จึงไม่ได้บอกว่าตัวเองกำลังจะไปที่ไหนให้คนในครอบครัวรู้

ซึ่งมันเข้ากับแผนของซ่งหรงวี่พอดี

ณ ขณะนี้ ในใจของเย่เฉินเป็นกังวลอย่างมาก

เมื่อได้ยินว่าซ่งหรงวี่จะไปที่ญี่ปุ่น เขาก็ไม่คิดอะไรมาก และแน่นอนว่าไม่ได้สงสัยอะไรในตัวของซ่งหรงวี่ด้วย

เขาแค่รู้สึกว่า ในมื่อซ่งหวั่นถึงหายตัวไปที่ญี่ปุ่น ตนนี้สิ่งที่ตัวเองควรทำที่สุดก็คือติดต่อหาคนที่ญี่ปุ่นให้ช่วยเข้าไปหาเบาะแสในโรง
แรมที่ซ่งหวั่นถึงเข้าพัก เพื่อตรวจสอบว่าหลังจากที่ซ่งหวั่นถึงออกไปจากโรงแรม แล้วไปที่ไหนต่อกันแน่

ดังนั้น เขาขี้งวางสายจากคุณท่านซ่ง แล้วโทรไปหาอิโตะ นานาโกะ