บทที่ 1966

ซ่งเทียนหมิงถามอีกครั้ง:”ฮาชิโมโตะชินคิจิจัดการเรื่องนั้นเป็นยังไงบ้าง? ทำสำเร็จไหม?”

ซ่งหรงวี่ยิ้มเยาะเย้ยและพูด”น่าจะทำสำเร็จแล้ว ตามคำพูดของเขา รถตู้ตกลงจากหน้าผาหลายร้อยเมตร และเกิดไฟไหม้ลุกโชน คนที่
นั่งอยู่ด้านใน น่าจะโดนเผาเป็นจุณไปแล้ว”

ซ่งเทียนหมิงพูดด้วยความพอใจ: “เป็นเรื่องดี เป็นเรื่องที่ดีมากๆ!”

เมื่อพูดจบ เขาก็ถามอีกครั้ง”ก่อนที่คุณจะมา คุณปูเกิดความสงสัยอะไรหรือเปล่า?”

ซ่งหรงวี่พูด”น่าจะไม่สงสัย แต่ฉันไม่แน่ใจว่าอนาคตเขาจะเกิดความสงสัยหรือเปล่า”

ซ่งเทียนหมิงพูดอย่างเย็นชา:”ไม่ต้องเป็นห่วง เขาไม่มีอนาคตอีกต่อไปแล้ว”

ซ่งหรงรี่ดีใจมากๆและรีบถามทันที!”คุณพ่อ คุณเตรียมที่จะลงมือจัดการคุณปูแล้วใช่ไหม?”

ซ่งเทียนหมิงพูด:”ยัง ยังไม่เร็วขนาดนั้น”

ซ่งหรงวี่พูดด้วยสีหน้ากังวล”คุณพ่อ คุณอย่าลืมนะ ตอนที่ไอ้แก่นั้นยกตำแหน่งผู้นำตระกูลให้หวั่นถึง เขาเคยพูดว่าถ้าหวั่นถึงไม่มีลูก
หลาน ตำแหน่งผู้นำของตระกูลซ่งให้ย่เฉินเป็นผู้สิบทอด ถ้าพวกเราไม่รีบลงมือจัดการไอ้แก่นั้น พวกเราจะยกทุกอย่างในตระกูลให้เย่เฉินเหรอ?!”

ซ่งเทียนหมิงพูด:”ถ้าตอนนี้พวกเราลงมือจัดการไอ้แก่นั้น เรื่องที่เกิดขึ้นก็จะโจ่งแจ้งเกินไป ก่อนหน้านี้มีซ่งหวั่นถึงเสียชีวิตอยู่ต่าง

ประเทศ หลังจากนั้นไอ้แก่ก็ตายที่เมืองจินหลิง ถึงแม้พวกเราจะไม่ทิ้งหลักฐานอะไรไว้ คนข้างนอกก็จะคิดว่าพวกเราเป็นคนทำเรื่องพวกนี้
ทั้งหมด!”

ซ่งหรงวี่ถามอย่างประหม่า:”พวกเราควรทำยังไงดี?! พวกเราต้องรอให้ไอ้แก่เชิญเย่เฉินเข้ามาในตระกูลซ่งเหรอ? ถ้าเป็นอย่างนั้น พวก
เราต้องตายแน่ๆ! พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเย่เฉินแน่นอน!”

ซ่งเทียนหมิงพูด:”เรื่องนี้คุณไม่ต้องกังวล ฉันให้คนไปหายาทางประสาทที่สายลับของอเมริกาชอบใช้ ในระยะแรกของการรับประทาน
ยาชนิดนี้ ทำให้คนที่ทานยาลงไปเชื่อฟังทุกอย่าง ถึงเวลานั้นไม่ว่าพวกเราจะพูดอะไร ไอ้แก่นั้นก็จะทำตามทั้งหมด ถึงเวลานั้นพวกเราก็ให้ไอ้แก่
นั้นยกเลิกข้อตกลงที่เคยพูดด้วยวาจา และประกาศให้พวกเราสืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูล”

ซ่งหรงวี่ถามทันที:”เมื่อสักครู่คุณพูดว่า คนที่ทานยานี้ช่วงแรกๆจะเชื่อฟังทุกอย่าง เล้วถ้าทานยาตัวนี้ไปถึงช่วงกลางและช่วงหลังละ?
ฤทธิ์ยายังมีผลอีกไหม?”

“ยังมีผลอยู่”ซ่งเทียนหมิงยิ้มอย่างเย็นชา:” ยาชนิดนี้ถ้ารับประทานไปช่วงหนึ่งแล้ว มันสามารถทำลายสมองของคนที่ทานยาอย่างถาวร
ไม่เพียงรักษาไม่หายแล้ว และมั่นยังตรวจไม่พบสาเหตุด้วย อากรที่ห็นได้ชัดคล้ายๆกับโรคอัลซเมอร์ เมื่อถึงเวลานั้นพวกเราก็พูดว่าไอ้แก่
เสียใจอย่างหนักเพราะซ่งหวั่นถึงเสียชีวิต ทำให้เขาเป็นโรคอัลไซเมอร์ ในเมื่อฉันเป็นผู้นำตระกูลแล้ว ทำให้เขาเป็นโรคอัลไซเมอร์ มันก็เป็นเรื่อง
ดีสำหรับพวกเรา”

ซ่งหรงวี่ยิ้มอย่างตื่นเต้นดีใจ:”คุณพ่อ! แผนการของคุณยอดเยี่ยมมากๆ! เมื่อถึงเวลานั้น พวกเราก็เลี้ยงไอ้แก่ไว้เหมือนกับตุ๊กตานำโชค
จากนั้นพวกเราก็หาคนใช้ค่อยป้อนน้ำป้อนข้าวให้เขาก็พอแล้ว!”

“อืม!”ซ่งเทียนหมิงยิ้มอย่างโหดเหี้ยมและพูด”เมื่อสักครู่คุณท่านพึ่งโทรศัพท์มาหาฉัน บอกให้ฉันกลับไปเร็วๆ ยาชนิดนั้นฉันได้ให้คนหา
ช่องทางพิเศษนำเข้ามาแล้ว หลังจากจัดงานศพของซ่งหวั่นถึงเสร็จ ก็หาโอกาสให้เขาทานยาชนิดนี้เข้าไป!”

ซ่งหรงวี่คิดอะไรบางอย่างออกและพูด:”คุณพ่อ ไอ้แก่นั้นยังมียาอายุวัฒนะเม็ดหนิ่งอยู่! ในวันเกิดของซ่งหวั่นถิง เย่เฉินให้เธอ และเธอก็
ให้ไอ้แก่นั้น ถ้าเขาทานยาอายุวัฒนะเข้าไป แล้วเขากลับมาเป็นเหมือนเดิม พวกเราควรทำยังไงดี? ถึงเวลานั้นพวกเราคงมีปัญหาใหญ่ๆตามมา
ทีหลั่งอย่างแน่นอน!”

ซ่งเทียนหมิงพูดอย่างเย็นชา:”หรง คุณไม่ต้องกลั่ว! เรื่องนี้ เมื่อทำไปแล้วก็หวนกลับคืนไม่ได้! เพื่อทรัพย์สินสองแสนล้านหยวนของตระ
กูลซ่ง พวกเราต้องเลือกเดินทางนี้และเดินให้ถึงที่สุด ไม่ว่าใครหน้าไหนกล้ามาขัดขวาง พวกเราก็ต้องฆ่าให้หมด!”

เมื่อพูดจบ ซ่งเทียนหมิงก็พูดอีกครั้ง”นอกจากนี้ ถ้ายาอายุวัฒนะสามารถรักษาสมองที่ได้รับความเสียหายของเขาได้ ฉันก็จะหาโอกาส
ให้เขาท่านยานั้นอีกครั้ง ถ้าพวกเราไม่เผยพิธุธว่าพวกเราเป็นคนฆ่าซ่งหวั่นถึง และไม่เผยพิรุธว่าพวกเราวางยาไอ้แก่นั้น ก็คงไม่มีใครสงสัยพวก
เราอย่างแน่นอน”

ผ่านไปสักพัก ซ่งเทียนหมิงยิ้มอย่างเย็นชา:”มีอีกอย่าง ถึงแม้พวกเขาจะสงสัยแล้วจะทำอะไรได้? พวกเราไม่ได้ฆ่าซ่งหวั่นถึงโดยตรง
ไม่มีใครตัดสินโทษของพวกเราได้? เพราะทุกอย่างต้องพูดด้วยหลักฐาน!”

ซ่งหรงวี่พูด:”คุณพูดถูก ถ้าไม่มีหลักฐานยืนยันว่าพวกเราบงการเรื่องนี้อยู่เบื้องหลั่ง ก็ไม่มีใครสามารถทำอะไรพวกเราได้!”

ซ่งเทียนหมิงพุดอย่างเย็นชา!”เรื่องนี้ จะโทษก็ต้องโทษที่ไอ้แก่นั้นลำเอียงเกินไป! ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของตระกูล ยกให้ผู้หญิงมา
สืบทอด เขาคิดว่าซ่งเทียนหมิงอย่างฉันป็นคนโง่หรือไง! ครั้งนี้พวกเราจะยึดทุกอย่างที่เป็นของตระกูลซ่งกลับมา! ฉันเป็นลูกชายคนโตของตระ
กูลซ่ง คุณเป็นหลานชายคนโตของตระกูลซ่ง ทรัพย์สมบัติทั้งหมดควรตกเป็นของพวกเรา!”