บทที่ 1967

ตอนที่เย่เฉินออกจากบ้าน เชียวชูหร้นยังคงแช่น้ำแร่อยู่ในบ่อน้ำพุร้อน

เธอไม่รู้เลยด้วยซ้ำ สามีของเธอเดินออกจากบ่อน้ำพุร้อนด้วยชุดคลุมอาบน้ำ เขาบอกว่าจะไปหยิบเครื่องดื่ม แต่ปรากฎว่าการไปหยิบ
เครื่องดื่มในครั้งนี้ เขากลับขึ้นไปนั่งเฮลิคอปเตอร์ จากนั้นก็ขึ้นเครื่องบินและบินไปที่ญี่ปุ่นเลย

เธอรอตั้งนานแต่ย่เฉินก็ไม่กลับม หลังจากที่เธอออกมาจากน้ำพุร้อน กลับไปที่ห้องนั่งเล่นก็ไม่เห็นหน้าเย่เฉินเลย และเธอก็อดไม่ได้ที่
จะเกิดความสงสัย

เธอหยิบโทรศัพท์และโทรหาเย่เฉิน แต่ปรากฏว่าโทรศัพท์ของเขาปิดเครื่องอยู่

เรื่องนี้ยิ่งทำให้เธองงมากขึ้นไปอีก เมื่อกลับถึงห้องนอน และเธอก็ไม่เห็นหน้าเยเฉิน แต่เห็นเพียงกระดาษใบหนึ่งที่มีข้อความที่เย่เฉินทิ้ง
ไว้ให้ตัวเองบนโต๊ะข้างเตียง

บนกระดาษมีข้อความว่า:”ที่รัก มีเพื่อนคนหนึ่งได้รับอันตรายถึงชีวิต ฉันต้องรีบไปช่วยเขา”

เมื่อเซียวชูหรั่นอ่านข้อความจบ สีหน้าเปลี่ยนไปทันที:”ไปช่วยคน?! เกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นจริงๆเหรอ?!”

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรีบส่งข้อความเสียไปให้ย่เฉินทันที!”ที่รัก คุณไปไหนเหรอ? เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณต้อง
ระวังตัวให้มากๆ!”

โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

นินจาของตระกูลอิโตะนั่งเฮลิคอปเตอร์ รีบไปที่ภูเขาของเขตนิชิทามะโตเกียวโดยใช้เวลาน้อยที่สุด

หลังจากนั้น เฮลิคอปเตอร์ลงจอดห่างจากตื่นเขาประมาณสองสามกิโลเมตร มีนินจาใส่ชุดดำสิบกว่าคนพุ่งลงจากเฮลิอปเตอร์ และพุ่ง
เข้าไปในภูเขาทันที

สาเหตุที่ไม่ให้เฮลิคอปเตอร์บินเข้าไปในภูเขา เพราะอิโตะนานาโกะไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้ตัว

ความคิดของเธอคล้ายกับเย่เฉินมากๆ ซ่งหวั่นถิงมีแนวโน้มถูกคนลอบสั่งหาร ถ้าตอนนี้ตัวเองใช้เฮลิคอปเตอร์ค้นหาอย่างโจ่งแจ้ง ถ้าเกิด
ว่าซ่งหวั่นถิงยังไม่ตาย คนของตัวเองก็ทำให้อีกฝ่ายรู้ตัว อาจจะทำให้เกิดปัญหามากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ภูเขาในเขตนิชิทามะโตเกียวทอดยาวหลายร้อยกิโลมตร แค่ถนนก็มีความคดเคี้ยวยายหลายสิบกิโลเมตร ดังนั้นพวกเขา
จึงจำเป็นต้องค้นหาอย่างลับๆ และค้นหาเบาะแสตามถนนที่คดเคี้ยวเส้นนี้

โชคดีครั้งนี้ที่ตระกูลอิโตะส่งนินจามาจำนวนมาก มีนินจาสิบคนออกไปตามหาและเริ่มคันหาเบาะแสทั้งหมดจากทางขึ้นภูเขา
ขณะที่พวกเขาค้นหาอยู่ อิโตะนานาโกะก็นั่งเฮลิคอปเตอร์จากที่บ้านของตัวเอง เดินทางไปที่สนามบินเฉิงเถียน

เวลาตีสองตามเวลาของโตเกียว

เนื่องจากซ่งหรงวี่ไปแจ้งความที่กรมตำรวจนครบาลโตเกียวด้วยตัวเอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจของกรมตำรวจนครบาลได้รับคำสั่งให้ออก
ไป เพื่อค้นหาเบาะแสของซ่งหวั่นถิง

ข่าวการหายตัวไปของซ่งหวั่นถิงในโตเกียว สำหรับผู้กำกับใหญ่ของกรมตำรวจนครบาลโตเกียว มันเหมือนฝันร้ายของเขาจริงๆ
หลายวันก่อน โตเกียวเกิดเหตุการณ์ครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ มีการลอบสังหาร การฆ่าล้างต่างๆ ทำให้ผู้มีอำนาจและมีอิทธิพลหลายๆ
คนเสียชีวิตติดต่อกันจากเหตุการณ์นี้ และทำให้คนทั้งโลกตกตะลึง

ไม่เพียงทำให้คนทั้งโลกหัวเราะเยาะเรื่องความปลอดของโตเกียวแล้ว แต่ยังทำให้กรมตำรวจนครบาลโตเกียวเสียหน้าต่อชาวโลกอีก
ด้วย

ทุกอย่างพึ่งจะกลับมาเป็นปกติ และความสงบสุขก็พึ่งกลับมา แต่ใครก็ไม่คาดคิด มีนักธุรกิจต่างชาติที่มีชื่อเสียงหายตัวไปที่โตเกียวอีก
ครั้ง!

ซ่งชื่อกรุ๊ปมีมูลค่าทรัพย์สินรวมกันเกือบสองแสนล้านหยวน ซ่งหวั่นถึงในฐานะประธานของซ่งชื่อกรุ๊ป ด้วยฐานะของเธอ ไม่ว่าเธอจะเดิน
ทางไปประเทศไหน เธอก็คือนักธุรกิจชั้นนำ

แต่นักธุรกิจชั้นนำอย่างเธอ กลับขาดการติดต่อที่โตเกี้ยว และจากการแจ้งความของคนในครอบครัวเธอ คาดว่าอาจจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น
กับเธอแล้ว!

ผู้กำกับใหญ่ของกรมตำรวจนครบาลโตเกียวรู้สึกกังวลและกล้วมากๆ ถ้าซ่งหวั่นถึงเสียชีวิตโตเกียวจริงๆ โตเกียวคงจะขายขี้หน้ามากๆ
อย่างแน่นอน

ดังนั้น เขาจึงรีบเดินทางมาที่กรมตำรวจนครบาลเพื่อควบคุมเรื่องนี้ทันที และส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายพันคนออกไปค้นหาเบาะแสของ
ซ่งหวั่นถิงทันที

เช่นเดียวกับคนของตระกูลอิโตะ กรมตำรวจนครบาลโตเกียวใช้กล้องวงจรปิดติดตามหาเบาะแสทั้งหมดของซ่งหวั่นถึงก่อนที่เธอจะ
หายตัวไป

หลายวันก่อน โตเกียวเกิดเหตุการณ์ครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ มีการลอบสังหาร การฆ่าล้างต่างๆ ทำให้ผู้มีอำนาจและมีอิทธิพลหลายๆ
คนเสียชีวิตติดต่อกันจากเหตุการณ์นี้ และทำให้คนทั้งโลกตกตะลึง

ไม่เพียงทำให้คนทั้งโลกหัวเราะเยาะเรื่องความปลอดของโตเกียวแล้ว แต่ยังทำให้กรมตำรวจนครบาลโตเกียวเสียหน้าต่อชาวโลกอีก
ด้วย

ทุกอย่างพึ่งจะกลับมาเป็นปกติ และความสงบสุขก็พึ่งกลับมา แต่ใครก็ไม่คาดคิด มีนักธุรกิจต่างชาติที่มีชื่อเสียงหายตัวไปที่โตเกียวอีก
ครั้ง!

ซ่งชื่อกรุ๊ปมีมูลค่าทรัพย์สินรวมกันเกือบสองแสนล้านหยวน ซ่งหวั่นถึงในฐานะประธานของซ่งชื่อกรุ๊ป ด้วยฐานะของเธอ ไม่ว่าเธอจะเดิน
ทางไปประเทศไหน เธอก็คือนักธุรกิจชั้นนำ

แต่นักธุรกิจชั้นนำอย่างเธอ กลับขาดการติดต่อที่โตเกี้ยว และจากการแจ้งความของคนในครอบครัวเธอ คาดว่าอาจจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น
กับเธอแล้ว!

ผู้กำกับใหญ่ของกรมตำรวจนครบาลโตเกียวรู้สึกกังวลและกล้วมากๆ ถ้าซ่งหวั่นถึงเสียชีวิตโตเกียวจริงๆ โตเกียวคงจะขายขี้หน้ามากๆ
อย่างแน่นอน

ดังนั้น เขาจึงรีบเดินทางมาที่กรมตำรวจนครบาลเพื่อควบคุมเรื่องนี้ทันที และส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายพันคนออกไปค้นหาเบาะแสของ
ซ่งหวั่นถิงทันที

เช่นเดียวกับคนของตระกูลอิโตะ กรมตำรวจนครบาลโตเกียวใช้กล้องวงจรปิดติดตามหาเบาะแสทั้งหมดของซ่งหวั่นถึงก่อนที่เธอจะ
หายตัวไป