แหล่งสถานคุนหลุน
ฟ้าดินกว้างใหญ่ไพศาล ไอขุ่นมัวแน่นขนัดอบอวลอยู่ในความว่างเปล่า ระหว่างภูเขาลำธารใบหญ้าเต็มไปด้วยพลังชีวิตอันแข็งแกร่ง
ที่นี่ราวกับหลับใหลมาหมื่นกาล ร่องรอยผู้คนบางเบา แผ่กลิ่นอายดั้งเดิม รกร้าง
ยืนอยู่ในนี้ประหนึ่งคืนสู่จักรวาลแรกกำเนิด!
เวิ้งฟ้าที่นี่แผ่วลอยสูงไกล เผยสีครามเข้ม มีดวงดาวเคลื่อนย้ายอยู่ภายใน ไอแรกกำเนิดเป็นสายๆ ไหลลู่
บนพื้นดินเทือกเขาเรียงรายเป็นคลื่น กว้างใหญ่ไพศาลไร้จำกัด ยืนอยู่ในนั้นให้ความรู้สึกเล็กจ้อยเป็นพิเศษ
วิ้วๆๆ…
สายพัดผ่านกลางฟ้าดิน เหมือนเสียงเป่าเขาสัตว์ในสมัยโบราณ
ที่นี่ก็เหมือนที่อยู่ของเทพโบราณ พลังระเบียบหนาแน่นและมั่นคงเป็นพิเศษ มีแรงกดข่มมหามรรคที่ปะทะเข้ามา
ทันทีที่เงาร่างของหลินสวินและต้าหวงปรากฏตัวที่นี่ ก็รู้สึกถึงความกดดันสายหนึ่งอย่างที่สุด จำต้องขับเคลื่อนพลังปราณถึงสามารถสลายแรงกดดันนี้ได้
“มีเพียงระดับจักรพรรดิจึงสามารถสลายแรงกดดันเช่นนี้ได้ ดูท่าการเปิดแหล่งสถานคุนหลุนครั้งนี้คงจะเป็นฝีมือของจักรพรรดิสวรรค์ดำรง”
ต้าหวงสายตาวูบไหว
ที่ผ่านมาทุกครั้งที่แหล่งสถานคุนหลุนเปิดล้วนเกิดแรงกดดันมหามรรค แต่ไม่มีครั้งไหนที่พลังกดดันที่เกิดขึ้นจะน่ากลัวขนาดนี้
หลินสวินแผ่จิตรับรู้ สงบใจสัมผัส ไม่นานก็จับกลิ่นอายที่ระดับจักรพรรดิเหล่านั้นหลงเหลือไว้
เห็นได้ชัดว่าก่อนหน้าพวกเขาก็มีระดับจักรพรรดิมากมายมาแล้ว
“ไป”
หลินสวินและต้าหวงไม่ร่ำไร รีบเคลื่อนไหวไล่ตามกลิ่นอายที่หลงเหลือเหล่านั้น
ระหว่างทางเหมือนได้กลับคืนสู่ที่เก่า แดนหลอมสมบัติ ภูเขากลับหัว เขาพญามังกร… ล้วนเป็นที่ที่หลินสวินเคยต่อสู้มาก่อน
หวนคิดถึงตอนนั้น เขากวาดล้างศัตรูที่มาจากทางเดินโบราณฟ้าดารา และสร้างชื่อเสียงเลื่องลือในทางเดินโบราณฟ้าดาราจากที่นี่
แต่ตอนนี้เข้ามาอีกครั้ง สภาวะจิตได้แตกต่างไปแล้ว
กระทั่งตอนที่ผ่านแดนผนึกแท่นสักการะ หลินสวินยังอดอยากเข้าไปอีกครั้งไม่ได้ เพราะตอนนั้นก็เป็นแท่นสักการะนี้ที่ทำให้เขาเจอศิษย์พี่เก้าเก่ออวี้ผู รวมถึงจักรพรรดิอสูรมารตู๋เทียนที่ถูกกำราบอยู่
และบนแท่นสักการะ ทำให้เขาได้รับมรดกที่เจ้าแห่งคีรีดวงกมลทิ้งเอาไว้
“เอ๊ะ นี่คือทิศทางสู่ผาสยบมรรค”
จู่ๆ ต้าหวงก็เอ่ยขึ้น
ผาสยบมรรค แท่นสักการะ และแดนผนึกไร้นาม ถูกเรียกเป็นหนึ่งใน ‘สามแดนผนึก’ ของคุนหลุน
ว่ากันว่าผาสยบมรรคควบรวมกลิ่นอายต้นกำเนิดของหมื่นมรรคทั่วหล้าเอาไว้ อันตรายไม่อาจคาดเดา ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันมีพวกที่อยากก้าวสู่ระดับบรรพจารย์จักรพรรดิมากมายเสี่ยงชีวิตมาเยือน
เหตุผลเพราะ มีเพียงผาสยบมรรคที่สามารถเสาะหากลิ่นอายของต้นกำเนิดมหามรรคได้!
“หรือว่าตอนแรกนายท่านคิดจะยืมพลังของผาสยบมรรคมากำราบจักรพรรดิสวรรค์ดำรง”
ต้าหวงสีหน้าแปรเปลี่ยนไม่สามารถสงบได้
และในเวลาเดียวกันในใจหลินสวินนึกถึงเรื่องในอดีตมากมาย
ตอนนั้นบนเขาพญามังกรซึ่งเป็นหนึ่งใน ‘แดนเก้าลับ’ หลินสวินเคยเห็นพลังเจตจำนงที่หลงเหลือในระฆังมหามรรคไร้กฎ
และเพราะระฆังไร้กฎ ทำให้หลินสวินได้รู้ความลับมากมาย
อย่างเช่นระฆังไร้กฎและเตามารดาหลอมมรรคถือกำเนิดในแหล่งสถานคุนหลุนทั้งคู่ เตามารดาหลอมสมบัติกำเนิดที่แท่นสักการะ ส่วนระฆังไร้กฎกำเนิดที่ผาสยบมรรค!
ระฆังไร้กฎเคยอยู่กับศิษย์พี่หลี่เสวียนเวย อาศัยพลังของไม้เทพชางอู๋เข้าไปฝึกปราณในดินแดนรกร้างโบราณ ดังขึ้นบนเขาพยับครามจึงยังหลงเหลือกลิ่นอายของระฆังไร้กฎ
ตามที่ระฆังไร้กฎบอก ช่วงต้นยุคดึกดำบรรพ์ เคยมีอริยบุคคลกลุ่มหนึ่งเข้าสู่แหล่งสถานคุนหลุน รวบรวมทุกสิ่งทั้งชีวิตของทุกคนบนผาสยบมรรค หมายจะหลอมศาสตราอริยะอันดับหนึ่งของยุคดึดำบรรพ์
แต่สุดท้ายอริยบุคคลเหล่านั้นกลับประสบเคราะห์สิ้นชีพ
ทว่าศาสตราอริยะที่พวกเขายังหลอมไม่สำเร็จ ผ่านการหล่อเลี้ยงของพลังตำกำเนิดมหามรรค กลับให้กำเนิดศาสตราเทพชิ้นหนึ่งอย่างปาฏิหาริย์
ศาสตราเทพชิ้นนี้ ก็คือระฆังมหามรรคไร้กฎ!
นอกจากนี้เทียนเชวียเจ้าของธนูวิญญาณไร้แก่นสารในตอนนั้น ก็เคยเข่นฆ่าศัตรูทั่วทิศในผาสยบมรรค และถูกมหาจักรพรรดิอีกาทองลอบโจมตียามออกจากผาสยบมรรคนั่น…
จากทุกอย่างที่กล่าวมา ก็สามารถดูออกว่าผาสยบมรรคซึ่งเป็นหนึ่งในแดนสามผนึกของคุนหลุนนี้อันตรายและลึกลับเพียงใด ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันเคยเกิดเรื่องใหญ่ที่น้อยคนนักจะรู้มาไม่รู้เท่าไหร่
และตอนนี้ มีความเป็นไปได้สูงมากว่าเจ้าหอวิหคทองแดงและจักรพรรดิสวรรค์ดำรงจะต่อสู้กันในผาสยบมรรค!
คิดถึงตรงนี้ในใจหลินสวินบีบรัด ไม่กล้าชะล่าใจ เร่งเดินทางกับต้าหวงเต็มกำลัง
……
ผาสยบมรรคเป็นพื้นที่แดนผนึกแห่งหนึ่ง
ในฟ้าดินผืนนี้เต็มไปด้วยพลังระเบียบแตกทลายที่แปลกประหลาดน่ากลัว ม้วนตัวเหมือนฝุ่นควัน พลุ่งพล่านกลางฟ้าดินอย่างเผด็จการ
ผู้แข็งแกร่งทั่วไปอย่าว่าแต่เข้าไป แค่เข้าใกล้ก้าวเดียวก็จะถูกสังหาร กลายเป็นเถ้าธุลีในชั่วพริบตา
แม้เป็นระดับจักรพรรดิ ยามไปผาสยบมรรคก็จำต้องระมัดระวัง เตรียมพร้อมเต็มที่ ไม่เช่นนั้นจะต้องประสบมหันตภัยแน่นอน!
ลองคิดดูว่าเศษเสี้ยวระเบียบที่แตกสลายราวกับทรายจำนวนนับไม่ถ้วนเปลี่ยนเป็นลมพายุโหมคลั่ง พลังระดับนี้น่ากลัวเพียงใด
“รีบเรียกเตากระบี่ออกมา”
ยามมาถึงพื้นที่แห่งนี้ สีหน้าของต้าหวงก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม
จากข่าวลือ ผาสยบมรรคกำราบพลังต้นกำเนิดหมื่นมรรคทั่วหล้าเอาไว้ มองดูภาพน่ากลัวเหล่านี้ ข่าวลือนี้ไม่เกินจริงเลยสักนิด
วู้ม…
เตากระบี่ทะยานออกมา ปลดปล่อยแสงมรรคมากมาย แสงประกายโปร่งแสงไหลหลั่งออกจากเพลิงหงส์ระเบียบสีม่วง พวยพุ่งหนาแน่น
ครืน… แทบจะในเวลาเดียวกัน พายุเศษเสี้ยวระเบียบม้วนพัดเข้ามา เห็นอยู่ว่าใกล้จะกลบร่างของหลินสวินและต้าหวงแล้ว
ก็เห็นเตากระบี่ส่องแสง แผ่ขยายม่านแสงแถบหนึ่งสกัดพายุระเบียบเหล่านั้นไว้ด้านนอก แม้ยังคงมีแรงปะทะรุนแรง แต่ก็สามารถถูกหลินสวินสลายไปได้
“พลังระเบียบนี้เป็นของดีจริงๆ” ต้าหวงทอดถอนใจ มันอิจฉาและน้ำลายไหล อยากได้เพลิงหงส์ระเบียบในเตากระบี่นี้ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว
น่าเสียดายที่สมบัติชั้นเลิศเช่นนี้มีน้อยมากๆ!
“ต้าหวง เจ้ามานำทาง” หลินสวินควบคุมเตากระบี่มุ่งไปข้างหน้า หลังจากไปถึงผาสยบมรรค กลิ่นอายระดับจักรพรรดิที่ตามมาตลอดทางก็หายไปไร้ร่องรอย จิตรับรู้ก็ถูกขัดขวางอย่างหนัก
ความรู้สึกแบบนั้นเหมือนคนธรรมดาพบเจอพายุทรายกลางทะเลทราย ถึงขั้นไม่สามารถแยกแยะทิศทางได้
นี่ทำให้สีหน้าของหลินสวินเคร่งขรึมขึ้นมาเช่นกัน
โชคดีที่พวกเขามีเตากระบี่
ระดับจักรพรรดิทั่วไป เดินอยู่ในสถานที่แห่งมหันตภัยเช่นนี้ย่อมยากลำบากทุกฝีก้าว ความเร็วในการเดินทางถูกขัดขวางขีดสุด หากผิดพลาดขึ้นมาก็จะประสบเคราะห์
ต้าหวงนำทาง ยังต้องเดินทางอย่างระมัดระวัง
สิ่งที่เห็นระหว่างทาง เศษเสี้ยวของพลังระเบียบต่างๆ พลิกม้วน ราวกับกระแสที่โหมคลั่งเผด็จการ พลิกม้วนฟ้าดิน อานุภาพระดับนี้สามารถทำให้ระดับจักรพรรดิทุกคนหวาดหวั่น
“สหายยุทธ์ ช่วยด้วย…!” จู่ๆ ห่างไปไม่ไกลนักมีเสียงร้องดังขึ้นระลอกหนึ่ง
ก็เห็นรุ้งศักดิ์สิทธิ์สองสามสายพุ่งออกจากกระแสระเบียบแถบหนึ่งอย่างยากลำบาก หมายมุ่งเข้ามาหาพวกหลินสวิน
และด้านหลังพวกเขา เศษเสี้ยวระเบียบพลุ่งพล่านเหมือนทะเลคลั่งกำลังจะท่วมเงาร่างของพวกเขา
“พวกเจ้าเป็นคนสำนักไหน” ต้าหวงตะโกน
“พวกข้ามาจากเรือนมรรคดึกดำบรรพ์”
มีคนร้องคตอบจากไกลๆ “ครั้งนี้ล้วนมาตามคำสั่ง ช่วยจักรพรรดิสวรรค์ดำรงสังหารศัตรูด้วยกัน ขอสหายยุทธ์โปรดช่วยเหลือ”
เห็นชัดว่าเพราะจิตรับรู้ถูกขัดขวางอย่างหนัก ระดับจักรพรรดิที่มาจากเรือนมรรคดึกดำบรรพ์เหล่านี้จึงไม่รู้สักนิดว่าฐานะของหลินสวินและต้าหวงผิดปกติ
“เช่นนั้นพวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้จักรพรรดิสวรรค์ดำรงอยู่ที่ไหน” ต้าหวงถามอีกครั้ง
“จากตรงนี้ไม่เกินพันลี้ก็จะเห็นผาสยบมรรค จักรพรรดิสวรรค์ดำรงรออยู่ที่นั่น…”
พูดถึงตรงนี้คนผู้นั้นเหมือนตระหนักอะไรได้ กล่าวอย่างประหลาดใจ “ก่อนสหายยุทธ์จะมาไม่ได้รับการชี้แนะหรือ”
ขณะพูดคุยกัน ระดับจักรพรรดิเรือนมรรคดึกดำบรรพ์เหล่านั้นได้เข้ามาใกล้แล้ว และในที่สุดก็เห็นรูปลักษณ์ของหลินสวินและต้าหวงชัดแล้ว
พวกเขาตะลึง สีหน้าเปลี่ยนไปทันที “พวกเจ้าคือ…”
ต้าหวงแยกเขี้ยวยิงฟัน “คือปู่ของพวกเจ้า!”
ยามพูดมันชูกรงเล็บแล้วตบออกไปอย่างรุนแรง
ตูม!
แสงมรรคที่น่ากลัวม้วนตัว ระดับจักรพรรดิเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ดำเนินการต้านทานในทันที แต่จะรับอานุภาพแห่งบรรพจารย์จักรพรรดิได้อย่างไร
ชั่วพริบตาร่างของพวกเขาถูกโจมตีจนกระเด็นออกไป ยังไม่ทันทรงตัวได้ก็ถูกกระแสระเบียบที่ม้วนตัวมากลืนกิน
“ไม่…!”
“น่าชังนัก ข้าตายไปก็จะไม่ปล่อยพวกเจ้าไว้!”
เสียงโหยหวนน่าอนาถเพิ่งดังขึ้นก็หยุดไปกะทันหัน ร่างกายของพวกเขาถูกเศษเสี้ยวพลังระเบียบบดขยี้ละเอียดทันตา กลายเป็นฝุ่นผงในชั่วพริบตา!
“กระแสระเบียบนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว…” ต้าหวงสูดหายใจสะท้าน
พลังระเบียบที่เอ่อล้นอยู่ในฟ้าดินล้วนแตกละเอียกราวกับทราย ไม่ได้สมบูรณ์ เห็นได้ชัดว่าควบรวมจากพลังระเบียบที่แตกต่างกัน พวกมันพวยพุ่งบ้าระห่ำ เหมือนกับพลังมรรคสวรรค์ที่ทรุดตัวม้วนกลืนโลก
หลินสวินสูดหายใจลึก เดินทางต่อโดยไม่ได้พูดอะไรมาก
พื้นที่พันลี้ หากเป็นปกติเคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศพริบตาเดียวก็ไปถึง แต่ตอนนี้ก้าวย่างอยู่ในฟ้าดินอันตรายนี้ กลับใช้เวลาถึงสองชั่วยามเต็ม!
นี่ยังมีเตากระบี่และเพลิงหงส์ระเบียบต้านทานและคุ้มครอง ไม่เช่นนั้นเวลาที่เสียไปจะต้องมากกว่านี้แน่
ห่างออกไปไกลภูเขาเทพที่สูงตระหง่านตั้งตรงราวกับกระบี่ปรากฏกลางฟ้าดิน ความสูงของภูเขานี้แทงเข้าไปในส่วนลึกของชั้นเมฆ ไม่สามารถประเมินได้
กระแสลมที่แปลงมาจากพายุระเบียบแต่ละสายเหมือนมังกรร้ายมากมาย พุ่งทะยานอยู่รอบๆ ภูเขาเทพอย่างน่าตกใจ
“หืม?”
ทันใดนั้นในใจหลินสวินสัมผัสบางอย่างได้ เงยหน้าขึ้นมองโดยพลัน ก็เห็นว่าด้านบนสุดของภูเขาเทพมีพลังระเบียบคล้ายดอกบัวที่งดงามเจิดจ้า เป็นพลังระเบียบของแดนปรินิพพาน!
“อยู่ตรงนั้น!”
หลินสวินเดาออกทันที ศิษย์พี่รองจ้งชิวจะต้องอยู่บนยอดภูเขาเทพนั่น
“ระวัง”
แต่ในเวลาเดียวกันต้าหวงก็เอ่ยเตือน เมื่อมองไปตามสายตาของมัน ก็เห็นว่าใกล้ๆ ภูเขาเทพมีแสงมรรคพร่างพราวเป็นสายๆ พริบไหว มีมากถึงหลายสิบสาย
เมื่อมองอย่างละเอียด แสงมรรคที่งดงามเหล่านั้นถึงกับเป็นผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิทั้งหมด!
ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าคนพวกนี้จะต้องเป็นระดับจักรพรรดิที่ได้รับคำสั่งให้มาช่วยจักรพรรดิสวรรค์ดำรง มีคนจากหกเรือนมรรคใหญ่ และมีสัตว์ประหลาดเฒ่าที่มาจากสิบเผ่านักรบใหญ่และเผ่าจักรพรรดิดึกดำบรรพ์
คนเหล่านี้กระจายอยู่ในพื้นที่ที่แตกต่างกัน เหมือนกำลังรออะไร
ไม่นานจู่ๆ เสียงเย็นชาที่เต็มไปด้วยความน่าเกรงขามอย่างที่สุดดังมาจากจุดสูงสุดของภูเขาเทพ
“ทำต่อ!”
ก็เห็นว่าระดับจักรพรรดิหลายสิบคนนั้นลงมือพร้อมกันอย่างไม่ลังเล บ้างเรียกศาสตราจักรพรรดิ บ้างสำแดงวิชามรรค โจมตีใส่ภูเขาเทพที่สูงเสียดฟ้านั่นอย่างรุนแรง
คล้ายจะทำลายภูเขานี้!
——