ต้าหวงเพิ่งหมายจะตอบโต้ หลินสวินก็ห้ามด้วยสายตาไว้ก่อน

ยามทั้งสองสะกดรอยตาม ได้ใช้วิชาปกปิดร่องรอย ด้วยพลังของต้าหวง ระดับจักรพรรดิทั่วไปไม่สามารถสังเกตเห็นพวกเขาได้

ดังคาด ก็เห็นว่าหลังจากกลุ่มรุ้งศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นมาถึงเส้นทางโบราณนภสินธุ์ ก็โฉบพุ่งไปไกลๆ อย่างเร่งรีบ

ในเวลาเดียวกันจักรพรรดิสงครามเจวี๋ยสิง จักรพรรดิสงครามฮุ่นทง และจักรพรรดิกระบี่หงหนีซึ่งอยู่ห่างออกไปชะงักเท้า หันมาโดยพร้อมเพรียง

“ที่แท้ก็เป็นสหายยุทธ์จากเรือนมรรคยุทธจักร”

จักรพรรดิสงครามเจวี๋ยสิงรู้ที่มาของคนทั้งกลุ่มตั้งแต่แวบแรก สีหน้าผ่อนคลายลงทันที เผยรอยยิ้มทักทายอีกฝ่าย

ไม่นานคนของสองเรือนมรรคก็รวมตัวกัน เดินทางด้วยกัน

เห็นภาพเหล่านี้ในมุมมืด หลินสวินและต้าหวงสบตากัน ต่างผ่อนคลายขึ้นมาและตามไปอีกครั้ง

เส้นทางโบราณนภสินธุ์ทอดยาวคดเคี้ยว ทั้งยังไม่สามารถเคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศได้ สามชั่วยามเต็มหลังจากนั้น น้ำวนเมฆดาราที่ใหญ่โตหาใดเปรียบปรากฏในห้วงอากาศว่างเปล่า ประหนึ่งแอ่งเลือดที่เปิดออกกลางจักรวาลอย่างไรอย่างนั้น

พวกจักรพรรดิสงครามเจวี๋ยสิงและระดับจักรพรรดิของเรือนมรรคยุทธจักรต่างทยอยเข้าไป

“ไป”

ต้าหวงนำทางอยู่ข้างหน้า พุ่งเข้าไปด้วยกันกับหลินสวิน

ปลายทางของน้ำวนเมฆดาราก็คือโลกลึกลับที่แม่น้ำเซียนเหินตั้งอยู่ ถึงตอนนั้นแค่เลาะไปตามแม่น้ำเซียนเหินก็จะสามารถเข้าสู่แหล่งสถานคุนหลุนได้

วู้ม!

หลังจากเข้าสู่น้ำวนเมฆดารา เมื่อหมู่ดาวโคจร หลินสวินและต้าหวงก็มาถึงโลกแห่งหนึ่ง ไอคลุมเครือแผ่กระจาย แสงประกายพวยพุ่ง ฟ้าดินกว้างใหญ่ไพศาล

เสียงกระแสน้ำที่เหมือนอสนีสะเทือนเก้าสวรรค์ดังขึ้นจากไกลๆ ก็เห็นตรงขอบฟ้าไร้สิ้นสุดมีธารสวรรค์สายหนึ่งแขวนกลับหัวอยู่

สายน้ำที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรเหมือนไหลมาจากฟ้า งดงามอย่างมาก

เพียงแต่ทันทีที่ต้าหวงและหลินสวินปรากฏตัว ต่างล้วนอึ้งไป

ก็เห็นทั่วทุกทิศถูกเงาร่างมากมายปิดล้อมนานแล้ว ปิดผนึกพื้นที่แห่งนี้ราวกับเฝ้ารอเหยื่อ

เงาร่างเหล่านี้ก็คือพวกจักรพรรดิสงครามเจวี๋ยสิงและกลุ่มของเรือนมรรคยุทธจักรนั่นเอง!

โดนจับได้แล้ว!

หลินสวินและต้าหวงตระหนักได้ถึงสถานการณ์ของตนทันที อดประหลาดใจไม่ได้ จากนั้นก็คืนสู่ความสงบทันที สลายวิชาลับที่ปกปิดกลิ่นอาย ปรากฏตัวออกมา

พอเห็นรูปลักษณ์ของพวกเขาชัดแล้ว พวกจักรพรรดิสงครามเจวี๋ยสิงต่างเผยสีหน้ายากจะเชื่อ “ที่แท้คนที่สะกดรอยตามมาดันเป็นพวกเจ้า!”

ชั่วขณะหนึ่งแววตาของพวกเขาเปลี่ยนเป็นวาววาบเรืองรอง ที่แท้วาสนาใหญ่เทียมฟ้าที่พวกเขาคิดว่าพลาดไปแล้ว กลับส่งตัวเองมาหาถึงที่อย่างไม่คิดไม่ฝัน!

“ทุกท่านรู้จักหนึ่งคนหนึ่งสุนัขนี่หรือ”

ฝั่งเรือนมรรคยุทธจักรมีระดับจักรพรรดิห้าคน ผู้นำคือเฒ่าชราชุดดำผมดำคนหนึ่ง ท่าทางเคร่งขรึม รอบตัวเต็มไปด้วยสายฟ้าสีเงินน่ากลัว

ในมือเขากำคันฉ่องทองแดงที่สลักลายมรรคลึกลับ

จักรพรรดิสงครามจิ้งหยา

หนึ่งในเฒ่าดึกดำบรรพ์เรือนมรรคยุทธจักร มีพลังปราณระดับจักรพรรดิขั้นแปด

ก่อนหน้านี้ก็เพราะคันฉ่องทองแดงในมือเขา ถึงมองทะลุการสะกดรอยตามพวกจักรพรรดิสงครามเจวี๋ยสิงของหลินสวินและต้าหวงได้

ทว่าตอนนั้นกังวลว่าจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น จักรพรรดิสงครามจิ้งหยาจึงแสร้งทำเป็นไม่รู้ จนกระทั่งหลังจากรวมตัวกับพวกจักรพรรดิสงครามเจวี๋ยสิงแล้วจึงสื่อจิตบอกเรื่องนี้

ดังนั้นพวกเขาทั้งกลุ่มจึงตัดสินใจซุ่มโจมตีตรงทางเข้าโลกลับ จับคนสะกดรอยตามให้ได้ในคราเดียว

“แน่นอนว่ารู้จัก หากข้าเดาไม่ผิด เจ้าหมอนี่ก็คือคนที่ชื่อเสียงเลื่องลือในฟ้าดาราก่อนหน้านี้นานแล้ว… จักรพรรดิเต้ายวน หรือจะบอกว่าเป็นเศษเดนคีรีดวงกมล!”

จักรพรรดิสงครามเจวี๋ยสิงไม่ได้ปกปิด สายตาจับจ้องหลินสวินราวกับสายฟ้า

จักรพรรดิเต้ายวน!

พวกจักรพรรดิสงครามจิ้งหยาฮือฮา ล้วนเผยสีหน้าประหลาดใจ สายตาที่มองไปยังหลินสวินก็เปลี่ยนไป คิดไม่ถึงว่าการเฝ้ารอเหยื่อในครั้งนี้ กลับจับปลาตัวใหญ่เช่นนี้ได้

จู่ๆ ต้าหวงก็ส่งเสียงขึ้นจมูกอย่างเย็นเยียบ เขาจักรพรรดิสงครามคำรนอยู่ตรงหน้า แต่ทุกสายตากลับรวมอยู่ที่หลินสวิน มองข้ามเขาไป

ได้ยินเสียงขึ้นจมูกนี้ พวกระดับจักรพรรดิเรือนมรรคยุทธจักรเหมือนนึกอะไรได้ พลันพูดอย่างตกใจ “สุนัขตัวนี้… เหมือนจะเป็นจักรพรรดิสงครามคำรนที่ต่อสู้ข้างกายเจ้าหอวิหคทองแดงมาหลายปี!?”

ทั้งที่นั้นล้วนหันมองมา บางคนหน้าเปลี่ยนสีไปอย่างควบคุมไม่อยู่

จักรพรรดิสงครามคำรน!

แม่ทัพที่เหี้ยมหาญที่สุดของเจ้าหอวิหคทองแดง ใครจะไม่รู้จัก

เพียงแต่ก่อนหน้านี้ใครจะคิด ว่าหมาบ้านขนเหลืองตัวนี้จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับจักรพรรดิสงครามคำรน

เหนือความคาดหมายเกินไปแล้ว

“ดูท่าหากคิดจะจับจักรพรรดิเต้ายวน จะต้องฆ่าหมาเฒ่าตัวนี้ก่อน”

จักรพรรดิสงครามจิ้งหยาสายตาเย็นยะเยือก

ในความทรงจำของเขา จักรพรรดิสงครามคำรนไม่ถึงกับน่ากลัว อย่างมากก็แค่หมาที่ซื่อสัตย์ตัวหนึ่งของเจ้าหอวิหคทองแดง แม้จะเคยทิ้งชื่อเสียงความดุดันในฟ้าดาราเมื่อนานมาแล้ว แต่ส่วนใหญ่ล้วนเพราะเจ้าของคือเจ้าหอวิหคทองแดงก็เท่านั้น

“ฮะ ฮ่าๆๆ…” ต้าหวงโกรธจนหัวเราะออกมา เจ้าเฒ่าพวกนี้ ช่าง… มีตาหามีแววไม่!

“หากเจ้าสำแดงพลังปราณที่แท้จริงของเจ้าออกมา พวกเขาจะกล้าดูถูกเจ้าอีกได้อย่างไร” หลินสวินยังอดขำไม่ได้

เจ้าเฒ่าพวกนี้ เกรงว่าคงยังไม่รู้ว่าต้าหวงในตอนนี้แข็งแกร่งแค่ไหน

“เจ้าโง่พวกนี้มีคุณสมบัติอะไรให้ข้าเผยอานุภาพ” ต้าหวงดูถูกมาก และยโสมากเช่นกัน ใบหน้าสุนัขเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง

บทสนทนาระหว่างทั้งสองผ่อนคลายมาก สีหน้าใจเย็น ไม่สำนึกตัวว่าเป็นเหยื่อเลยสักนิด ทำเอาพวกจักรพรรดิสงครามเจวี๋ยสิง จักรพรรดิสงครามจิ้งหยาอดอึ้งไม่ได้

ตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวังเช่นนี้ หนึ่งคนหนึ่งสุนัขนี่ยังกล้าอวดดีเช่นนี้อีกหรือ

“ดูออกว่าพวกเขามีที่พึ่ง ทุกคนอย่างประมาท อีกเดี๋ยวลงมือจะต้องสู้สุดกำลัง”

จักรพรรดิสงครามเจวี๋ยสิงเตือน

ทุกคนต่างพยักหน้า ในฐานะระดับจักรพรรดิ พวกเขาย่อมไม่ชะล่าใจ

ต้าหวงแสร้างยิ้มกล่าว “เหตุใดต้องรออีกเดี๋ยวค่อยลงมือ ข้าจะให้พวกเจ้าตายอย่างมีศักดิ์ศรี จบชีวิตตัวเองตอนนี้ ข้ารับรองว่าจะฝังศพพวกเจ้า ตั้งป้ายศิลาให้คนรุ่นหลังจดจำว่าพวกเจ้าตายอย่างไร”

“หมาเฒ่า เจ้าของเจ้าจะตายอยู่แล้ว เจ้ายังกล้าอวดดี ไม่กลัวโดนเชือดหรือ”

จักรพรรดิสงครามฮุ่นทงที่รูปร่างสูงใหญ่ตวาด

“เชือดไปยิ่งดี สามารถตุ๋นเนื้อกินได้”

ระดับจักรพรรดิอีกคนยิ้มตาหยีพูด

ดูเหมือนกำลังท้าทาย ความจริงตอนนี้บรรยากาศกดดันและอันตรายอย่างที่สุดแล้ว ยามต่อปากต่อคำกันล้วนเป็นการหยั่งเชิงและปะทะอ้อมๆ อย่างหนึ่ง

“เช่นนั้นหรือ”

ต้าหวงแววตานิ่งสงบ “เช่นนั้นข้าอยากดูสักหน่อย ว่าพวกเจ้ามีความสามารถขนาดนั้นหรือไม่!”

ฟุ่บ!

เงาร่างของมันหายไปกลางอากาศ ครู่ต่อมาก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าจักรพรรดิสงครามฮุ่นทง

“ไสหัวไป!”

จักรพรรดิสงครามฮุ่นทงตะโกน เกราะสีดำทั้งตัวส่องแสง ปรากฏอานุภาพยิ่งใหญ่ที่สะเทือนฟ้าดิน มือขวาทำมุทรา กระแทกออกไปอย่างแรง

ตูม!

ละอองแสงแผ่อวล ห้วงอากาศโดยรอบทรุดทลาย

อานุภาพของหมัดนี้เหี้ยมหาญดุดันนัก

ก็เห็นต้าหวงแค่นเสียงขึ้นจมูกอย่างเย็นเยียบ ตวัดกรงเล็บกดลงโดยพลัน ฟ้าดินแบนั้นทรุดทลาย เกิดกระแสทำลายล้างไร้สิ้นสุด

ส่วนเงาร่างสูงใหญ่ของจักรพรรดิสงครามฮุ่นทงก็ถูกกรงเล็บตบเละ ร่างกายระเบิดกระเด็น จิตวิญญาณกลายเป็นฝุ่นผง ตายคาที่

ภาพนองเลือดนี้สั่นคลอนทั้งที่นั้น

“พวกประหนึ่งแมลงวันก็กล้าอวดดี ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วสินะ” ต้าหวงถุยน้ำลาย ใบหน้าเต็มไปด้วยความดูถูก

“รีบลงมือ!”

พวกจักรพรรดิสงครามเจวี๋ยสิง จักรพรรดิสงครามจิ้งหยาสีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด ในใจสั่นไหว ยังจะกล้าลังเลเสียที่ไหน ล้วนลงมือในทันที

“ฆ่า!”

แสงสมบัติแผ่พุ่ง เสียงมรรคสั่นสะเทือน ระดับจักรพรรดิเจ็ดคนที่มาจากสองเรือนมรรคใหญ่อย่างเหล่ามารและยุทธจักร ต่างเรียกสมบัติและสำแดงวิชาลับออกมา โจมตีไปยังต้าหวง

ใครต่างก็ดูออกว่าภัยคุกคามจากต้าหวงใหญ่ที่สุด!

ชั่วพริบตาฟ้าดินผืนนี้ก็ตกอยู่ในความปั่นป่วน การต่อสู้แห่งระดับจักรพรรดิไม่เคยเป็นเรื่องเล็ก ไม่ทันไรก็เด็ดดวงดาวคว้าจันทรา ทำลายฟ้าทลายดิน อานุภาพน่าตกตะลึง

และในการปิดล้อมโจมตีระดับนี้ ก็เห็นขนต้าหวงส่องแสง ในที่สุดก็เผยอานุภาพน่าสะพรึงของระดับบรรพจารย์จักรพรรดิแล้ว

เป็นสุนัขตัวหนึ่งแท้ๆ ตอนนี้กลับเหมือนนายเหนือหัวที่ควบคุมมหามรรคสายหนึ่ง เพียงแค่อานุภาพที่ปลดปล่อยออกมาก็สยบทั้งที่นั้นได้ในคราเดียว กดข่มจนคู่ต่อสู้เหล่านั้นหายใจไม่ออก หน้าเปลี่ยนสีไปทันใด

“สมควรตาย! หมาตัวนี้บรรลุระดับบรรพจารย์แล้ว!”

“พวกเราติดกับแล้ว หนีเร็ว!”

เสียงอุทานด้วยความตกใจดังขึ้นไม่ขาดสาย อย่าว่าแต่หมาบ้านๆ ตัวหนึ่ง ต่อให้เป็นแค่มดตัวหนึ่ง เมื่อมีพลังแห่งระดับบรรพจารย์ก็สามารถทำให้ระดับจักรพรรดิทุกคนรู้สึกสิ้นหวัง!

“คิดหนีหรือ ข้าอนุญาตหรือยัง”

ต้าหวงแค่นเสียงขึ้นจมูกอย่างเย็นเยียบ ชูกรงเล็บโจมตี แสงมรรคปกคลุมฟ้าดิน อานุภาพชั้นเลิศของระดับบรรพจารย์ตัดสลับ ดูเผด็จการถึงขีดสุด

ตูม โครม!

ก็เห็นในที่นั้นระดับจักรพรรดิคนแล้วคนเล่าถูกตบตายราวกับกระดาษเปื่อย ร่างกายกระจัดกระจาย ระเหยหายไปในแสงมรรคไพศาล

เพียงพริบตาเท่านั้น

พวกจักรพรรดิสงครามเจวี๋ยสิง จักรพรรดิสงครามจิ้งหยาล้วนถูกสังหารภายใต้ความกลัวอย่างไม่มีข้อยกเว้น

ตั้งแต่ต้นจนจบไม่มีที่ว่างให้หลินสวินสอดมือ ตอนที่เขาคิดจะให้ต้าหวงเหลือไว้สักคนก็สายไปแล้ว

ฝุ่นควันคละคลุ้ง ต้าหวงเหมือนยังไม่สะใจ ถุยน้ำลายอย่างรุนแรงทีหนึ่ง “กระตุกหางเสือ ก็หมายถึงคนโง่เขลาอย่างพวกเจ้านี่แหละ!”

เป็นถึงระดับมหาจักรพรรดิ ที่ผ่านมาโดดเด่นสะดุดตาเพียงใด ประหนึ่งตัวตนสูงสุด ทำให้สรรพชีวิตนับไม่ถ้วนเคารพนับถือ อานุภาพไร้จำกัด

ทว่าในสายตาของบรรพจารย์จักรพรรดิอย่างต้าหวง กลับดูอ่อนแอขนาดนั้น!

เป็นพวกเขาแข็งแกร่งไม่พอหรือ

ไม่ใช่

เป็นต้าหวงแข็งแกร่งกว่าพวกเขาต่างหาก!

“ไปเถอะ”

หลินสวินไม่ได้รู้สึกทอดถอนใจอะไร หมุนตัวจากไป มุ่งหน้าไปทางแม่น้ำเซียนเหิน

ต้าหวงสะบัดกรงเล็บ เก็บทรัพย์หลังศึกที่อยู่ในที่นั้นแล้วทะยานตามไป

ในที่นั้นเหลือเพียงแค่ซากศพและคาวเลือดเต็มพื้น

แม่น้ำเซียนเหินกว้างใหญ่ไพศาล ไหลลงจากมาท้องฟ้า เหมือนดั่งธารดาราไหลร่วงจากเก้าสวรรค์ สายน้ำขาวบาดตา ประกายศักดิ์สิทธิ์พริบไหว

ลือกันว่าต้นกำเนิดของแม่น้ำเซียนเหินมาจาก ‘น้ำพุศักดิ์สิทธิ์’ แห่งหนึ่งของแหล่งสถานคุนหลุน สายน้ำผสานขุ่นใส จึงสามารถไหลไปในห้วงอากาศว่างเปล่าได้

อยากเข้าไปในแหล่งสถานคุนหลุนก็ต้องข้ามแม่น้ำนี้ เลาะไปตามเส้นทางการไหล ย้อนไปถึงแหล่งที่มา ก็จะสามารถเข้าไปได้

เห็นแม่น้ำเซียนเหินอันคุ้นเคย หลินสวินอดนึกถึงครั้งแรกที่มาไม่ได้

ตอนนั้นเขามีพลังปราณเพียงระดับมกุฎอริยะเท่านั้น ข้างกายมีพวกอาหู เจ้าคางคก อาหลู่ เสี่ยวอิ๋นเคียงข้าง

หลายปีผ่านไป ครั้งที่สองที่มาที่นี่เขาเป็นมกุฎมหาจักรพรรดิแล้ว เพียงแต่ขาดพวกอาหูไป

‘ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหนแล้ว…’

หลินสวินแววตาล่องลอย จากนั้นพลันส่ายหน้า ก้าวไปบนห้วงอากาศพร้อมกับต้าหวง พุ่งไปยังพื้นที่ว่างเปล่าที่แม่น้ำเซียนเหินไหลลงไป