บทที่ 1995

เมื่อเห็นว่าเฮลิคอปเตอร์สี่ลำนขึ้นมาจริงๆ ขบวนเฮลิคอปเตอร์ก็ขยายอย่างรวดเร็วมีทั้งหมดเกือบยี่สิบลำ ซ่งหรงวี่ไม่รู้จะทำตัวยั่งไง
เลย!

เขาไม่เข้าใจจริงๆ และคิดอยู่ในใจ:”แม่งเอ๊ย เขาต้องการอะไรกันแน่ ระยะทางแค่สิบกว่ากิโลเมตร ส่งเฮลิคอปเตอร์ยี่สิบลำมารับส่ง มัน
เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อเกินไปหรือเปล่า?”

“แล้วเพื่อนของเย่เฉินที่อยู่โตเกียวคนนั้นเป็นใครกันแน่?! เช่าเฮลิคอปเตอร์ยี่สิบลำต้องใช้เงินมหาศาล มีเงินเยอะก้ไม่ควรใช้ฟุ่มเฟือย
แบบนี้?!”

ในเวลานี้ ประชาชนทั่วไปในโตเกียวต่างตกใจกับขบวนเฮลิคอปเตอร์ที่บินผ่าน ทุกคนหยุดและงยหน้าขึ้นมอง พวกเขาคิดว่ามีเรื่องใหญ่
เกิดขึ้น หรือไม่ก็คงมีคนตำแหน่งระดับสูงมาที่นี่

ซ่งหรงวี่เดาไม่ออกว่าเย่เฉินต้องการอะไรกันแน่ ทำให้เขายิ่งรู้สึกกังวลมากขึ้น

ถึงแม้เขาจะไม่ค่อยสนิกับเเฉิน และไม่ได้เป็นเพื่อนกับเขา แต่อย่างน้อยก็เป็นคนรู้จัก การเจอหน้ากันของคนรู้จัก มันควรนัดเวลาและ
สถานที่เจอกันและต่งคนต่างไปไม่ใช่เหรอ? จู่ๆเย่เฉินทำแบบนี้ เขาต้องการอะไรกันแน่?

ในเวลานี้ บนดาดฟ้าของตึกทั้งสองฝั่ง ก็มีเฮลิคอปเตอร์ลำใหม่บินขึ้นมาและเข้ามาอยู่ในขบวนอย่างต่อเนื่อง
ในไม่ช้า ในขบวนก็มีเฮลิคอปเตอร์เกินสามสิบลำแล้ว

ซ่งหรงวี่ไม่เคยเจอประสบการณ์แบบนิ้มาก่อน ทำให้เขาตกตะลึงมากๆ!

ยิ่งไปกว่านั้น ในใจของเขาไม่กล้าดูถูกเหยียบหยามเหมือนตอนแรกแล้ว

จิตใต้สำนึกบอกเขาว่าเย่เฉินดูเหมือนจะร้ายกาจกว่าที่เขาคิดไว้ รวมถึงเพื่อนชาวญี่ปุ่นที่ตัวเองไม่เคยเจอหน้ามาก่อน
บางที อีกฝ่ายอาจจะเป็นนักธุรกิจท้องถิ่นรายใหญ่ของโตเกียว!

เฮลิคอปเตอร์มากกว่าสามสิบลำมินวนอยู่ในเมืองโตเกียวหนึ่งรอบ หลังจากนั้นก็จอดอยู่เหนือคฤหาสน์ส่วนตัวแห่งหนึ่ง
ในเวลานี้ ซ่งหรงวี่พบว่าเฮลิคอปเตอร์สามสิบกว่าลำบินเรียงเป็นวงกลม และล้อมเฮลิคอปเตอร์ที่ตัวเองนั่งอยู่ไว้ตรงกลาง
และเฮลิคอปเตอร์ที่ตัวเองนั่งมา ในเวลานี้ค่อยๆลงจอดอย่างช้าๆ

ซ่งหรงวี่ก้มหน้าและองลงไปด้านล่างและเห็นลานหน้าบ้านที่กว้างมากๆ เขาถามสาวสวยด้วยความประหลาดใจ:”ขอถามหน่อย ที่นี่คือ
สาวสวยพูด:”คุณซ่ง ที่นี่คือที่พักอาศัยของคุณหนูใหญ่ของพวกเรา”

ซ่งหรงวี่ไม่รู้ว่าคฤหาสน์ของตระกูลอิโตะอยู่ที่ไหน ดังนั้นเขาก็เลยไม่รู้ว่าคฤหาสน์สุดหรูนี้เป็นของใคร

อย่างไรก็ตาม เมื่อดูจากสถานที่ตั้ง พื้นที่ทั้งหมด และรูปแบบสถาปัตยกรรม ก็รู้ได้ทันทีว่าไม่ใช่คฤหาสน์ธรรมดาทั่วไปอย่างแนนอน
ขณะที่เฮลิคอปเตอร์ค่อยๆลงจอด หัวใจของซ่งหรงวี่เต้นเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ

เขารู้สึกประหม่าและคิดในใจ:”เพื่อนของเย่เฉินที่อยู่โตเกียว ตระกูลของเขาใหญ่ขนาดนี้ ตระกูลของพวกเขาต้องแข็งแกร่งอย่างแน่นอน
ถ้าเย่เฉินให้พวกเขาช่วยสืบสวนเรื่องของซ่งหวั่นถึง บางที่ตัวเองอาจจะถูกเปีดเผยก็ได้!”

ก่อนหน้านี้ ซ่งหรงวี่ยังรู้สึกว่า ถึงแม้เยเฉินจะมาญี่ปุ่นก็ไม่มีประโยชน์อะไร เขาไม่รู้จักใครเลยในญี่ปุ่น ทำเรื่องอะไรก็คงมืดไปแปดด้าน
ที่ไหน?”

เพราะเขาไม่มีคนรู้จักและไม่มีคนคอยช่วยเหลือ มันยากมากๆที่จะหาตัวซ่งหวั่นถึงเจอหรือหาสาเหตุการเสียชีวิตของเธอ
คนส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบบนี้

ความสามารถของแต่ละคน มีข้อจำกัดด้านสถานที่

ตัวอย่างเช่น หงห้าเขาอยู่เมืองจินหลิงก็คือราชาใต้ดิน ไม่มีใครกล้าล่วงเกินผิดใจกับเขา แต่ถ้าเขาออกจากเมืองจินหลิง และไปที่เมืองซู
หาง อำนาจและอิทธิพลของเขาก็จะลดลงอย่างมาก

ถ้าให้เขามาที่โตเกียว ด้วยอิทธิพลที่เขามีอันน้อยนิดที่เมืองจินหลิง แค่สมาคมไฮกิงบุงเกี่ยวก็กล้าตบหน้าเขา

นี่เป็นเพราะอำนาจและอิทธิพลของเขาทั้งหมด อยู่ที่เมืองจินหลิงถึงจะสามารถใช้ได้ ถ้าเขายิ่งออกจากเมืองจินหลิงไกลมากขึ้นเท่าไหร่
อำนาจและอิทธิพลของเขาก็จะยิ่งน้อยลงเรื่อยๆ

เดิมที่ซ่งหรงวี่คิดว่า เย่เฉินก็คงเหมือนกันอย่างแน่นอน

เย่เฉินเจ่งมากๆเมื่ออยู่ที่เมืองจินหลิง นั้นเพราะที่จินหลิงมีผู้มีอำนาจในท้องถิ่นจำนวนมากรู้จักเขา

แต่ถ้าเขาออกจากเมืองจินหลิง อิทธิพลของเขาก็จะลดลงเรื่อยๆ

หากเขามาสืบสวนเรื่องของซ่งหวั่นถึงที่ญี่ปุ่นจริงๆ เขาอาจจะหาผู้ช่วยสามสี่คนยังไม่ได้เลย

แต่ว่าตอนนี้ ซ่งหรงวี่พึ่งตระหนักได้ว่าความคิดของตัวเองโง่เขลามากแค่ไหน
แจ้งรายงาน