บทที่ 2001
เมื่อซ่งเทียนหมิงรู้ว่า ตอนที่ตระกูลอิโตะจะช่ยเย่เฉินตามหาที่อยู่ของซ่งหวั่นถึงอย่างเต็มที่และช่วยตรวจสอบเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบ
เขาที่อยู่ห่างออกไปสองพันกิโลเมตร ก็ตกใจจนเหงื่อแตก
บนโลกใบนี้ เดิมที่ก็ไม่มีอาชญากรรมที่สมบูรณ์แบบ ตอนนั้นวางแผนที่จะฆ่าซ่งหวั่นถึง พวกเขาเพียงต้องการเก็บร่องรอยการฆาตกรรม
เอาไว้ในประเทศญี่ปุ่น ทำให้ทุกคนคิดว่าซ่งหวั่นถึงถูกฆาตกรรมที่ประเทศญี่ปุ่น ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขา แบบนี้ก็เพียงพอแล้ว
แต่ทว่า เกิดให้คนรู้ว่าการเสียชีวิตของซ่งหวั่นถึง เกี่ยวข้องกับพวกเขา ถึงขนาดที่ว่าพวกเขาเป็นคนบงการทั้งหมดอยู่เบื้องหลัง แบบนั้น
ปัญหาก็จะใหญ่มากขึ้น
ไม่ต้องพูดถึงว่าคุณท่านจะโกรธ กรมบังคั่บคดีภายในประเทศก็ไม่มีทางปล่อยพวกเขา แม้ว่าพวกเขาจะก่ออาชญากรรมอยู่ในต่าง
ประเทศ แต่สืบสาวราวเรื่องจนถึงแก่นแท้แล้ว ฆาตกรก็ยังเป็นประชาชนของในประเทศ ก็บังคับใช้กฎหมายประเทศของตัวเอง
ยิ่งไปกว่านั้น เกิดโลกภายนอกรู้ว่าพวกเขาสองคนพ่อลูกเป็นคนฆ่าซ่งหวั่นถึงตาย ถ้าอย่างนั้นชื่อเสียงของพวกเขารวมทั้งตระกูลซ่ง
ทั้งหมดก็ต้องตกต่ำอย่างรุนแรงรวดเร็ว
ถึงเวลานั้น ต่อให้พวกเขาสองคนพ่อลูกจะโชคดีหนีพ้นจากการต้องโทษของกฎหมาย ก็จะถูกถือว่าเป็นคนเลวที่ทุกคนเกลียดชังตลอด
ทั้งวัน!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ซ่งเทียนหมิงก็ตัดสินใจในทันที และอ้าปากพูดว่า: “รงวี่ ถ้าหากตอนนี้แกกลับมาในทันที นี่เป็นการบอกให้เย่เฉินว่าแก
มีปัญหาอย่างไม่ต้องสงสัย ถึงเวลานั้นเย่เฉินโทรศัพท์หาปู่ของแก ด้วยความฉลาดของปูแก ก็สามารถที่จะเดาเชื่อมต่อเรื่องราวทั้งหมดได้ ถึง
เวลานั้น แกก็จะลำบากมากขึ้น!”
ซ่งหรงวี่สะอึกสะขึ้นด้วยความวิตกกังวลเล็กน้อย: “พ่องั้นพ่อว่าตอนนี้ผมควรจะทำยังไงดี…อำนาจของตระกูลอิโตะแข็งแกร่งมาก ด้วย
ความช่วยเหลือของพวกเขา เรื่องนี้ใช้เวลาไม่กี่วันความจริงก็จะปรากฏขึ้นมา ถึงเวลานั้น ผมก็จบเห่แน่!”
ซ่งเทียนหมิงพูดปลอบใจในทันทีว่า: “หร่งวี่ แกสงจิตสงบใจรอฟังข่าวคราวจากฉัน หลังจากที่ฉันกลับไป ก็จะหาโอกาสเอายาให้ปู่ของ
แกกิน!”
พูดแล้ว ซ่งเทียนหมิงแสยะยิ้ม: “ตราบใดที่เปลี่ยนไอ้แก่ให้กลายเป็นผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ ฉันก็จะเรียกแกรีบกลับมาจากประเทศญี่ปุ่น
ด้วยเหตุผลว่าเขาเจ็บป่วยกะท้นห้น ด้วยแบบนั้น เฉินก็ไม่ทางสงสัยในตัวแก ถึงเวลานั้นพวกเราอยู่ในประเทศขายทรัพย์สินทั้งหมดของตระ
กูลซ่งเป็นเงินสดโดยเร็วที่สุด ต่อจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นดอลลาร์สหรัฐ ก่อนหน้าที่ความจริงของเรื่องนี้จะปรากฎขึ้นมาทั้งหมด นำทรัพย์สินนับ
หมื่นล้านดอลลาร์อพยพไปสหรัฐอเมริกาหรือว่าแคนาดา”
ซ่งหรงรี่รีบถามว่า: “พ่อ ยานั้นของพ่อ หลังจากที่ไอ้แก่ทานลงไปนานแค่ไหนถึงจะมีผลเหรอ?”
ซ่งเทียนหมิงพูดว่า: “ถ้าฉันเพิ่มขนาดยาเพียงเล็กน้อย คาดการณ์ว่าอย่างมากก็ไม่กี่ชั่วโมง คาดการณ์ว่าในคืนนี้ เขาก็จะกลายเป็นผู้ป่วย
โรคอัลไซเมอร์คนหนึ่ง”
ซ่งหรงวี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเล็กน้อย และพูดว่า: “ถ้าเป็นอย่างนั้น พรุ่งนี้เช้าผมก็สามารถที่จะบินกลับไปได้แล้วใช่มั้ย?”
ซ่งเทียนหมิงอือคำหนึ่ง และพูดว่า: “ถ้าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี พรุ่งนี้เช้าทุกคนก็จะพบว่าคุณปู่ของแกเป็นโรคอัลไซเมอร์อย่างกะทันหัน
ถึงเวลานั้นฉันก็จะแจ้งให้แกรีบกลับมา ต่อจากนั้นมีฉันมาสืบทอดต่ำแหน่งผู้นำตระกูลของตระกูลซ่ง จากนั้นก็สามารถที่จะรีบเอาทรัพย์สิน
ทั้งหมดออกไปได้แล้ว”
ซ่งหรงวี่ก็ถามว่า: “งั้นอาหลายคนของผมจะทำยังไง? พวกเขาก็จ้องแต่จะเอามรดกอยู่ ไม่มีทางที่จะปล่อยให้พวกเราจัดการ….
ซ่งเทียนหมิงพูดอย่างเหยียดหยามว่า : “างใจเถอะ พวกเขาตั้งหน้าตั้งตารอที่จะแยกบ้านมานานแล้ว ก่อนหน้านี้ไอ้แก่ควบคุมอำนาจ
ของตระกูลซ่งมโดยตลอด พวกเขาอยากจะแยกบ้านก็แยกไม่สำเร็จ ต่อมาไอ้แก่ให้ซ่งหวั่นถิงเป็นผู้นำตระกูล แม้ว่าพวกเขาจะไม่พูดอะไร แต่
ในใจก็หงุดหงิดมาก”