บทที่ 2104 หุบปาก

The king of War

The king of War บทที่ 2104 หุบปาก

หยางเฉินขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายกำลังตั้งคำถาม

หญิงสาววัยรุ่นไม่ได้สนใจอีกฝ่าย เป็นเพราะเธอได้พบกับหยางเฉินที่นี่ดังนั้นจึงพูดอย่างตื่นเต้นว่า “หยางเฉิน เป็นคุณจริงๆ!”

หยางเฉินแสดงรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าและมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นแล้วพูดว่า “เซี่ยเหอไม่เจอกันนาน!”

ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นเซี่ยเหอ

เมื่อ หยางเฉิน ยังอยู่ใน เจียงโจว เสี้ยวเสี้ยวลูกสาวของหยางเฉินเคยถูกกักบริเวณในบ้านและเซี่ยเหอเองก็ถูกกักบริเวณกับเธอด้วย

เซี่ยเหอยอมเสียสละความบริสุทธิ์ของตนเองเพื่อเสี้ยวเสี้ยวที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเธอเลยสักนิด ดังนั้นตั้งแต่นั้นมาหยางเฉินก็จดจำน้ำใจของเซี่ยเหอได้

ต่อมา หยางเฉินได้ออกหน้ามาช่วยแม่ของเซี่ยเหอซึ่งป่วยหนักและช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลเพื่อให้แม่ของเซี่ยเหอได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

ต่อมา เซี่ยเหอก็กลายเป็นดาราดัง

เมื่อเจอเพื่อนเก่า ในใจของหยางเฉินก็เต็มไปด้วยอารมณ์เมื่อคิดถึงอดีต

“เหออี้เขาเป็นใคร?”

ในขณะนี้ หญิงสาวข้าๆ เซี่ยเหอก็ถามด้วยความโกรธ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้หยางเฉินรู้สึกสับสนเล็กน้อยก็คือ อีกฝ่ายเรียกเซี่ยเหอว่าเหออี้

เซี่ยเหอเหลือบมองผู้หญิงคนนั้นเรียบๆ แล้วพูดว่า: “เขาเป็นเพื่อนของฉัน พี่สาว คุณกลับไปก่อนเถอะ! ฉันจะคุยกับเพื่อนของฉันเรื่องอดีต”

ที่แท้เป็นลูกพี่ลูกน้องของเซี่ยเหอ เมื่อได้ยินคำพูดของเซี่ยเหอ ใบหน้าของลูกพี่ลูกน้องสาวก็อึมครึมขึ้นมา เธอมองไปที่หยางเฉินและพูดว่า “เจ้าหนุ่ม ฉันไม่สนใจหรอกว่านายมีความสัมพันธ์ยังไงกับเหออี้ มันเป็นเรื่องในอดีต”

“ตอนนี้ เธอเป็นคนของตระกูลเหอที่ร่ำรวยที่สุดในจงโจว ไม่ใช่หมาแมวที่ไหนก็จะมามีคุณสมบัติเป็นเพื่อนกับเธอได้ ไสหัวไปให้พ้นซะ ฉันเหอชานจะทำเป็นไม่รู้อะไร ไม่อย่างนั้นก็อย่าโทษฉันที่หยาบคายกับนาย!”

ใบหน้าของเหอชาน เต็มไปด้วยการคุกคามที่รุนแรง และน้ำเสียงก็เต็มไปด้วยการข่มขู่

หยางเฉินรู้ตัวตนของอีกฝ่ายแล้ว ที่แท้ก็เป็นคนของตระกูลเหอที่ร่ำรวยที่สุดในจงโจว

แต่เซี่ยเหอเปลี่ยนชื่อเป็นเหออี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

หยางเฉินพลันนึกถึงบางสิ่ง เมื่อตอนที่เขาได้พบกับเซี่ยเหอ เขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับพ่อของเธอ

ในชื่อของเซี่ยเหอ มีคำว่า “เหอ” หรือว่าคำนี้จะเป็นตัวแทน “เหอ” ของตระกูลเหอ หรือไม่?

หยางเฉินไม่ได้ใส่ใจอะไรกับคำขู่ของ เหอชาน ด้วยสถานะปัจจุบันของเขา เขาไม่จำเป็นต้องโต้เถียงกับคนอย่างเหอชาน

หลังจากที่เซี่ยเหอได้ยินสิ่งที่ เหอชาน พูด ใบหน้าของเธอก็คล้ำลงอย่างสมบูรณ์ ดวงตาของเธอฉายแสงเยียบเย็นและจ้องมอง เหอชาน อย่างเย็นชาและพูดว่า “เหอชาน หยางเฉินเป็นเพื่อนที่สำคัญมากของฉัน และคุณก็ห้ามคุกคามเขา!”

เหอชานตะลึงอึ้งไปอย่างมาก เธอมองไปที่เซี่ยเหออย่างไม่คาดคิดและพูดว่า “เธอ เธอกล้าแย้งฉันเพราะเรื่องผู้ชายคนหนึ่งเหรอ?”

เซี่ยเหอไม่เปลี่ยนสีหน้าและพูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันเรียกคุณว่าพี่สาวก็เพราะเห็นแก่คุณปู่ ไม่ได้หมายความว่าฉันจะนับถือคุณในฐานะลูกพี่ลูกน้องสาวของฉัน”

หลังจากพูดอย่างนั้น เธอมองไปที่หยางเฉินอย่างขอโทษและพูดว่า “หยางเฉิน ฉันขอโทษ!”

หยางเฉินยิ้มน้อยๆ และส่ายหัว เขามีความสุขมากที่ได้เห็นเซี่ยเหอ ในจงโจว

เซี่ยเหอยิ้มและพูดว่า “พวกเราไม่ได้เจอกันนาน ฉันเลี้ยงอาหารค่ำคุณดีไหม?”

หยางเฉินกล่าวว่า “ดี!”

พวกเขาไม่สนใจเหอชานและเดินจากไป

เหอชานแทบจะเป็นบ้า เมื่อเห็นว่าหยางเฉินและเซี่ยเหอเดินทิ้งระยะห่างออกไปพร้อมทั้งพูดคุยและหัวเราะกัน หลังจากได้สติ เธอก็คำรามด้วยความโกรธทันที “เหออี้หยุดเดี๋ยวนี้!”

เธอพุ่งตรงไปข้างหน้าและเผชิญหน้ากับเซี่ยเหอที่เพิ่งหันกลับมา จากนั้นก็ยกมือขึ้นแล้วตบหน้าเซี่ยเหออย่างแรง

“เพี๊ยะ!”

เสียงตบดังขึ้นและรอยตบที่ชัดเจนปรากฏขึ้นบนใบหน้าขาวๆ ของเซี่ยเหอทันที

“เธอมันผู้หญิงชั้นต่ำ คุณปู่ต้องลงแรงไปเท่าไหร่เพื่อที่จะให้เธอได้รู้จักกับผู้อาวุโสสี่ของสมาคมผู้อาวุโส? แต่เธอกลับไปเดทกับคนไร้หัวนอนปลายเท้า ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เจอหน้าผู้อาวุโสสี่ด้วยซ้ำงั้นเหรอ?”

เหอชานพูดด้วยความโกรธ “เหออี้ ฉันจะบอกเธอให้ ตอนนี้เธอไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อตระกูลเหอ ทั้งหมด!”

“เธอรู้ไหมทำไมคุณปู่ถึงจัดให้ฉันคอยอยู่กับเธอ? ก็เพราะต้องการสอดส่องไม่ให้เธอไปยุ่งกับผู้ชายคนอื่นไง ถ้าเธอกล้าไปกับผู้ชายคนนี้ คุณปู่จะไม่มีวันปล่อยเธอไปแน่”

“ยิ่งไปกว่านั้น เธอคิดหรือไงว่าคุณปู่พาเธอกลับมาที่ตระกูลเหอ ก็เพื่อชดเชยสิ่งที่ติดค้างให้ตระกูลเธอจริงๆ? ฉันจะบอกให้ ว่ามันไม่ใช่เลยสักนิด! ถ้าไม่ใช่เพราะเธอหน้าตาดีอยู่บ้าง คุณปู่จะพาเธอกลับมาที่ตระกูลเหอทำไม?”

“นั่นเป็นเพราะการพัฒนาของตระกูลเหอ มาถึงช่วงคอขวดแล้ว หากตระกูลเหอ ต้องการก้าวไปข้างหน้าก็ต้องสร้างโอกาสใหม่ หากผู้อาวุโสสี่ไม่มาที่จงโจว คุณปู่ก็จะให้เธอแต่งงานกับตระกูลเศรษฐีคนอื่นๆ!”

ทันใดนั้นดวงตาของเซี่ยเหอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงและจ้องมองที่ เหอชาน ด้วยความโกรธ

ในที่สุด หยางเฉินก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น

ไม่น่าแปลกใจที่เซี่ยเหอจะมีชื่อใหม่ในจงโจว ปรากฎว่าเป็นตระกูลเหอ ที่ต้องการใช้เซี่ยเหอ เพื่อสร้างโอกาสให้กับตระกูลเหอ

คำพูดของเหอชานเหมือนมีดคมๆ แทงเข้าไปในหัวใจของเซี่ยเหออย่างแน่นหนา

เซี่ยเหอพูดด้วยสายตาแดงก่ำว่า “เป็นไปไม่ได้! คุณปู่ไม่ใช่คนแบบนั้น! คุณปู่ไม่ต้องการให้ฉันเป็นของเล่นของตระกูลบู๊โบราณ ดังนั้นเขาจึงคิดหาทางช่วยให้ฉันรู้จักคนที่ยิ่งใหญ่”

เหอชานเย้ยหยัน “คำพูดแบบนั้น เธอเชื่อหรือไง?”

พูดจบ เธอก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและกดโทรออก ในเวลาเดียวกันก็พูดกับเซี่ยเหอว่า “ตอนนี้ฉันจะบอกเธอให้ ว่าความจริงคืออะไร!”

ทันใดนั้น เหอชานก็กดโทรศัพท์และกดปุ่มแฮนด์ฟรี จากนั้นเสียงชราก็ดังมาจากโทรศัพท์ “ชานชาน เกิดอะไรขึ้น?”

เหอชานมองเซี่ยเหอแล้วพูดว่า “คุณปู่ เซี่ยเหอพบเพื่อนชายที่เคยออกเดทรู้จัก ตอนนี้กำลังออกเดทไป หนูห้ามเธอ แต่เธอไม่ฟัง”

หลังจากเงียบไปเล็กน้อย เหอหยวนหงก็พูดว่า “ให้เธอมารับสาย!”

“ค่ะ!”

เหอชานมองเซี่ยเหออย่างได้ใจ

เซี่ยเหอรับโทรศัพท์และพูดด้วยดวงตาแดงก่ำว่า “คุณปู่ มันไม่ใช่อย่างที่ลูกพี่ลูกน้องสาวพูด หนูแค่ได้พบกับเพื่อนที่เคยมีน้ำใจกับหนู และไม่ได้กำลังจะไปเดทกับเขา หนูแค่อยากจะชวนเขากินมื้อค่ำ กินมื้อค่ำเสร็จก็จะกลับบ้าน”

เหอหยวนหงถอนหายใจและพูดว่า “เสี่ยวอี้เอ๋ย! ไม่ใช่ว่าปู่ไม่อยากให้เธอมีเพื่อนต่างเพศ แต่ว่า ตอนนี้ผู้อาวุโสสี่เพิ่งมาถึงจงโจว ฉันยังไม่ได้ให้เธอไปพบเขา ถ้คราวนี้เธอกับเพื่อนต่างเพศทานอาหารค่ำด้วยกันแล้วมีคนเห็นเข้า รอให้ฉันพยายามแนะนำเธอให้รู้จักกับผู้อาวุโสสี่ เกรงว่าจะมีคนเอาเรื่องนี้มาขัดขวาง!”

“ฟังปู่ อย่าไปกินข้าวกับเพื่อนต่างเพศ กลับบ้านกับลูกพี่ลูกน้อง”

ดวงตาของเซี่ยเหอกลายเป็นสีแดง น้ำตาของเธอแวววาวเป็นกระบอกตา

“คุณปู่ หนูเคยบอกคุณไปนานแล้วว่าหนูมีผู้ชายในดวงใจอยู่แล้วและไม่มีวันลืมได้ในชีวิตนี้”

ทันใดนั้นเซี่ยเหอมองหยางเฉินอย่างลึกซึ้งแล้วพูดต่อ “แม้ว่าผู้อาวุโสสี่จะยอดเยี่ยมอย่างมาก แต่หนูก็ไม่ชอบเขา! คุณปู่อย่าเปลืองแรงให้หนูได้พบกับผู้อาวุโสสี่เลย”

ใครจะรู้ว่า ทันทีที่เสียงของเซี่ยเหอจบลง เสียงที่โกรธเกรี้ยวของเหอหยวนหง ก็ดังมาจากโทรศัพท์: “หุบปาก!”