บทที่ 2012

ทันใดนั้น คนรับใช้หลายคนก็วิ่งเข้ามา และถามว่า: “คุณชาย เกิดอะไรขึ้น?!”

ซ่งเทียนหมิงพูดว่า: “ฉันกดกรั่งประตูของคุณท่านไม่มีเสียงตอบรับ กลัวว่าคนจะเป็นอะไรไป พวกนายรีบช่วยฉันกระแทกประตูออก
เดี่ยวนี้!”

เมื่อคนรับใช้หลายคนได้ยิน ก็วิตกกังวลขึ้นมา หนึ่งในนั้นพูดเองว่า: “ผมเอง!”

อีกคนรีบพูดว่า: “ฉันไปพร้อมกับนาย!”

ในเวลานี้ ลุงวีก็รีบมาตามข่าวที่ได้ยิน และถามอย่างวิตกกังวลว่า: “คุณชาย คุณท่านเขาเป็นอะไรเหรอ?!”

ซ่งเทียนหมิงมองเขา และรีบพูดว่า: “ลุงวีลุงมได้พอดี พ่อของผมอยู่ในห้อง กดกริ่งหลายครั้งไม่มีการตอบรับอะไรเลย ผมกลั่วว่าเขาจะ
เป็นอะไรไป!”

ในใจของลุงวิตึงเครียด ก็ตระหนักในทันทีว่า ซ่งเทียนหมิงน่จะวางยาให้คุณท่านแล้ว ในใจก็โกรธในทันที และก็มีความรู้สึกทุกข์ระทม
รวมทั้งเป็นห่วง

เขาก็ไม่รู้ว่า วิธีของเยเฉิน สามารถที่จะทำให้คุณท่านรอดพันจากอันตรายได้มั้ย

แต่ทว่า เขาก็ไม่กล้ำแสดงความลังเลอะไรก็ตามออกมา และพูดอย่างเร่งรีบว่า: “งั้นก็รีบกระแทกประตูออกเดี๋ยวนี้ เข้าไปดู!”

คนรับใช้หลายคนเริ่มใช้เรี่ยวแรงกันแล้ว วิ่งตรงไปกระแทกประตู หลังจากที่กระทกหลายครั้ง ประตูก็ถูกกระแทกเปิดออกดั่งปัง

ต่อจากนั้น ซ่งเทียนหมิงก็ดึงคนทางซ้ายและขวาออกไป ใบหน้ต็มไปด้วยความวิตกและรีบพุ่งเข้าไปก่อนคนแรก ทันทีที่เข้าไปก็ตรงไป
ที่ห้องนอน ขณะที่วิ่งไปด้วย ก็ยังตะโกนไปด้วยว่า: “พ่อ! พ่อครับพ่อไม่เป็นไรใช่มั้ยพ่อ!”

จากนั้น ก็ผลักประตูห้องออกในทันที!

ทันทีที่ซ่งเทียนหมิงเข้ามาที่ประตู ก็ตกตะลึงกับภาพตรงหน้าในทัน!

และลุงวีเป็นคนที่พุ่งเข้าทีหลัง และคนรับใช้หลายคน ก็ถูกตกใจกับสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า!

ในระหว่างนี้คุณท่านซ่ง กำลังยืนอยู่ข้างเตียงด้วยสีหน้างุนงง

ทั้งร่างกายของเขาใส่เพียงกางเกงน็อกเซอร์ตัวเดียว โคนต้นขามีน้ำเหลวสีเหลืองหลายสายไหลไปตามขาทั้งสองข้างอย่างไม่หยุด
หย่อน พรมขนสัตว์ราคาแพงที่ทำด้วยงานฝืมือ เต็มไปด้วยสั่งสกปรกที่ปนกับอุจจาระและปัสสาวะ ทั้งห้องก็เต็มไปด้วยกลิ่นคละคลุ้ง
เมื่อคุณท่านซ่งเห็นผู้คนมากมายขนาดนี้พุ่งเข้ามาอย่างกะทันห้น ก็ตกใจจนร้องไห้เสียงดังในทันที คนทั้งคนก็วิ่งล้มลุกคลุกคลานไปทาง
ระเบียง ร้องไห้ตะโกนว่า : “พวก…พวกนายเป็นใคร…พวกนายจะทำอะไร…”.

เมื่อซ่งเทียนหมิงเห็นลักษณะนี้ของคุณท่าน ในใจก็มีความสุขเป็นอย่างมาก!

“ไอ้แก่เป็นโรคอัลไซเมอร์จริงๆ! ขนาดปัสสาวะอุจจาระก็กลั้นไว้ไม่อยู่ด้วยซ้ำ! คราวนี้มั่นคงจริงๆ!”

แม้ว่าในใจจะคิดแบบนี้ แต่สีหน้าท่าทางของเข้าวิตกกั๋งงลเป็นอย่างมาก ก้าวเดินผ่านไป ไม่ว่าทั่วร่างกายของคุณท่านซ่งจะสกปรกแค่
ไหน ก็กอดเขาไว้แน่น และร้องไห้แล้วพูดว่า: “พ่อ ฟอเป็นอะไรไปนะฟอ? พ่อจำผมไม่ได้เหรอ? ผมคือเทียนหมิง!”

ในเวลานี้แม้ว่าในใจของคุณท่านซ่งจะโกรธ แต่ก็ยั่งชื่นชมลูกชายคนนี้ของตัวเองเป็นอย่างมาก

“ไอ้เตรัจฉานตัวนี้ สามารถเอาตัวรอดปรับตัวเข้าได้กับทุกสถานการณ์จริงๆ ทั่วร่างกายของกูสกปรกกลายเป็นแบบนี้ เขาสามารถกอด
ฉันต่อหน้าผู้คนมากมายได้โดยไม่ลังเล ยิ่งไปกว่านั้นยังแสดงได้จริงขนาดนี้ ดูเหมือนจะเป็นตัวละครอันตับหนึ่ง!”

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ นใจของคุณท่านซ่งก็อดหัวเราะเยาะตัวเองไม่ได้: “ฉันก็ทำเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? เพื่อให้เขาเชื่ออย่างหมดจด ขนาด
เรื่องของปัสสาวะอุจจาระก็กลั่นไว้ไม่อยู่แบบนี้สามารถแสดงออกมาด้ เทียบกับไอ้เตรัจฉานตัวนี้ ถือได้ว่าสามารถเอาตัวเองรอดไปได้…
แม้ว่าในใจของคุณท่านซ่งจะมิความรู้สึกประเดประดั่งเข้ามาพร้อมกันหมด แต่ยังต้องเล่นละคต่อไป ดังนั้นเขาจึงพยายามอยางยิ่งที่จะ
สลัดหลุดพันจากซ่งเทียนหมิง และร้องห้เสียงดั่งว่า: “ฆ่าคน ฆ่าคนแล้ว…”

ซ่งเทียนหมิงร้องให้เสียงดังและพูดว่า: “ลุง! รีบเตรียมรถ! พาฟอของผมไปที่โรงพยาบาล! เร็ว!”