บทที่ 2013

ขณะที่ซ่งเทียนหมิงพาคุณท่านซ่งไปที่โรงพยาบาลไปด้วย ก็รีบกลับเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่สะอาดในห้องของตัวเองไปด้วย
ในระหว่างที่เปลี่ยนเสื้อผ้า เขาก็โทรศัพท์หาซ่งหรงวี่แล้ว บอกให้ซ่งหรงวี่อย่างเป็นทางการว่าให้เขารีบกลับไปที่เมืองจินหลิงในทันที
ซ่งหรงวี่กำลังรอขาวนี้อยู่ตลอด ดั่นั้นแทบจะเริ่มจัดเตรียมเครื่องบินส่วนตัวเตรียมพร้อมที่จะออกบิน และมีกำหนดการจะออกจาก
โตเกี่ยวในช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้

เพื่อให้เย่เฉินไม่สงสัย ซ่งหรงวิ่ยังตั้งใจโทรไปหาเย่เฉิน ในโทรศัพท์ พูดอย่างเคารพนับถือเป็นอย่างยิ่งว่า: “อาจารย์เย่ เมื่อกี้นี้พ่อของผม
โทรหาผม ร่างกายของปูดูเหมือนจะมีปัญหาเล็กน้อย ให้ผมกลับไปโดยเร็วที่สุด ดังนั้นพรุ่งนี้ผมอาจจะออกจากโตเกียวแต่เช้าตรูรู่…”.
เย่เฉินแกล้งทำเป็นถามด้วยความแปลกใจว่า: “หรงวี่ ปู่ของนายเป็นอะไร? ไม่ได้เป็นอะไรมากใช่มั้ย?”
ซ่งหรงรีบพูดว่า: “อาจารย์ คุณสบายใจด้ พ่อของผมบอกว่าไม่ไต้เป็นอะไรมาก แต่ดูเหมือนว่าสมองจะเบลอเล็กน้อย ดั่งนั้นจังผมรีบ
ไปดู”

พูดแล้ว เขาก็พูดพร้อมกับวิงวอนว่า: “อาจารย์เย ผมจำเป็นต้องออกจากโตเกี่ยวชั่วคราว เรื่องตามหาหวั่นถึงก็ทำได้เพียงไหว้วานคุณ
แล้ว คุณด้โปรดพยายามตามหาหวั่นถิงอย่างเต็มที่ด้วยแล้วพาเธอกลับไปที่เมืองจินหลิง ผมเป็นต้วแทนของพวกเราทั้งตระกูล ขอบคุณคุณ!”
เย่ฉินอ๋อหนึ่งคำ และพูดว่า: “นายวางใจเถอะ ฉันจะทำให้ดีที่สุด สถานการณ์ที่ดีที่สุดก็คือใช้เวลาไม่กี่วัน ฉันก็สามารถที่จะพาหวั่นถึงก
ลับไปที่เมืองจินหลิงได้แล้ว”

เมื่อซ่งหรงวี่ที่อยู่ปลายสายได้ยินคำพูดนี้ ในใจก็แสยะยิ้ม: “ไสกุลเ แกแมร่งยังไม่ตื่นเหรอ? ซ่งหวั่นถึงหายตัวไปนานกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมง

แล้ว ต่อให้เธอจะไม่เสียชีวิตจากอุบัติหตุทางรถยนต์ในตอนนั้น อยู่ในภูเขาปาสึกนั้นนานมากขนาดนี้คาดว่าไม่มีทางรอดชีวิตแล้ว!”
“ยิ่งไปกว่านั้น ภูเขาป่าลึกของเขตนิชิทามะโตเกียวทั้งเปลี่ยวไร้คน สัตว์ป่มากมาย ไม่แน่ตอนนี้แม้แต่ศพของเธอก็ถูกนกและสัตว์ป่ากิน
จนเหลือกระดูกแล้ว แกยังอยากจะพาเธอกลับไปที่เมืองจินหลิง?! แกฝันไปเถอะ!”

แต่ทว่า แม้ว่าในจะคิดแบบนั้น แต่ปากของซ่งหรงวี่ก็ยังพูดด้วยความเคารพอย่างจริงจังว่า: “อาจารย์เย่ งั้นก็ขอบคุณคุณมากๆ!”
เย่เฉินพูดอย่างราบเรียบ: “ไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้น เวลาก็ไม่เช้าแล้ว นายพักผ่อนอย่างเต็มที่ พรุ่งนี้เช้าก็รีบกลับไปเถอะ ถือโอกาสช่วย
ฉันฝากสวัสตีคุณท่านซ่งด้วย”

หลังจากวางสาย เยเฉินก็มีรอยยิ้มเยาะเข้ยมุมปากเล็กน้อย

ซ่งเทียนหมิงและซ่งหรงวิ่สองคนฟอลูก ตอนนี้คงจะได้ใจเป็นอย่างมาก

พวกเขาคงจะคิดว่าซ่งหวั่นถึงมีความป็นไปด้สูงที่จะเสียชีวิต ละตัวของคุณท่านซ่งเองก็กลายเป็นโรคอัลไซเมอร์ ตอนนี้ทั้งตระกูลซ่
งก้กลายเป็นของในกำมือของพวกเขา

ก็ดี ก็ให้พวกเขาได้ใจไปก่อนเถอะ

รอหลังจากที่ซ่งหรงรี่จากไป ตัวเองก็แอบพาซ่งหวั่นถิงสักลอบออกเมือง และกลับไปที่เมืองจินหลิงอย่างเงียบๆ และทำให้พวกเขารับมือ
ไม่ทัน!

ถึงเวลานั้น พวกเขาคิดว่าคุณท่านซ่งกลายป็นโรคอัลซเมอร์แล้ว ก็จะเผยธาตุแท้ออกมา ก็จะด้านนอกด้านในตีขนาบประสานกันกับตัว
เอง และก็ให้ไม้ตายกับพวกเขา!

เมื่อกำลังคิด อิโตะ นานาโกะวิ่งเข้ามา เคาะประตูบานเสื่อนที่เปิดอยู่ครึ่งหนึ่งของเยเฉิน และยื่นห้วเข้ามายิ้มหวานๆ และพูดว่า: “เยเฉินซัง
คุณซ่งตื่นแล้ว”

เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “เธอนอนไปทั้งวัน ในที่สุดก็ตื่นแล้ว”

อิโตะ นานาโกะพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “เมื่อคืนนี้เธอรู้สึกกลัว แล้วก็เดินคนเดียวอยู่ในปาลึกนานขนาดนั้น คงจะเหนื่อยสายตัวแทบขาด เป็น
ธรรมดาที่จะนอนนาน.สักพัก”

พูดแล้ว เธอก็พูดว่า: “ใช่แล้วเเฉินซัง ฉันได้เตรียมกรให้คุณซ่งไปแช่น้ำพุร้อนเพื่อบรรเทาความเหนื่อยล้า ท่านพ่อหาคนส่งปลาทูน่า
ครีบน้ำเงินเหนือที่เพิ่งถูกจับมาให้หนึ่งตั๋ว ยังให้คนรับใช้ในบ้านเตรียมยามาซากิ ริสกี้ ปี50สองขวด คืนนี้เชิญคุณและคุณซ่งทานซาซิมิและซูซิ
กัน”

ปลาทูน่ครีบน้ำเงินเหนือเป็นปลาที่แพงที่สุด คุณภาพที่ดีกว่า หนึ่งตัวมูลค่าสิบล้ำน แล่นออกมาหนึ่งกิโลกรัมราคาเกินหนึ่งหมื่นดอลลาร์
สหรัฐ

ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ใช่ราคาขายปลีกหน้าร้น นี่เป็นราคาประมูลแพ็กปลาทั้งตัว