บทที่ 2137 เซี่ยเหอผู้แข็งกร้าว

The king of War

The king of War บทที่ 2137 เซี่ยเหอผู้แข็งกร้าว

เซี่ยเหอพูดจบก็เดินจากไปทันที

ซ่งจั่วกับซ่งโย่วมองดูแผ่นหลังที่จากไปของเซี่ยเหอ ต่างพากันทำหน้าเคร่งขรึม

ซ่งโย่วพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “คุณเซี่ยคงไม่ทำอะไรโง่ๆ หรอกมั้ง?”

ซ่งจั่วส่ายหน้า “ฉันเองก็ไม่รู้ แต่รู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกๆ เรารายงานเรื่องนี้กับคุณหยาง แล้วดูว่าคุณหยางจะทำยังไงก่อนดีกว่า!”

พูดจบ ซ่งจั่วก็โทรหาหยางเฉิน แล้วเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นไปรอบหนึ่ง

หยางเฉินที่กำลังปรุงยาพอได้ฟังเรื่องที่เกิดขึ้น สีหน้าก็เคร่งขรึมอย่างถึงที่สุด ไฟแห่งโทสะลุกโชนอยู่ในตา

“ตระกูลเหอนี่เดินบนเส้นทางที่รนหาที่ตายไกลๆ เรื่อยๆ แล้ว เมื่อเป็นแบบนั้น หลังจากคืนพรุ่งนี้จงโจวจะไม่มีตระกูลเหออีกต่อไป!”

บนตัวหยางเฉิน ได้มีรังสีอำมหิตถูกปล่อยออกมา

ซ่งจั่วที่อยู่บ้านตระกูลเหอ ยังเหมือนรับรู้ได้ถึงจิตสังหารของหยางเฉินเลย จึงรีบพูดไปว่า “คุณหยางครับ แล้วตอนนี้เราควรทำยังไงดี? จะให้บังคับคุณเซี่ยกลับไปมั้ยครับ?”

“จื่อเฉินตอบไปว่า “ในเมื่อเซี่ยเหอไม่ต้องการ งั้นก็ให้เธออยู่ต่อไป รบกวนผู้อาวุโสทั้งสองช่วยดูหน่อย อย่าให้เธอทำเรื่องอะไรโง่ๆ ก็พอ”

“ครับ!”

หลังวางสาย ซ่งจั่วก็หันไปพูดกับซ่โย่วว่า “ตระกูลเหอได้ทำให้คุณหยางโมโหเข้าแล้ว เราสองคนแค่ปกป้องคุณเซี่ยอย่างลับๆ ก็พอ”

ตระกูลเหอ ในสวนของวิลล่าตระกูลเหอ

เซี่ยเหอเข้าไปหาเหอหยวนหงด้วยตนเอง เหอหยวนหงในตอนนี้ กำลังนั่งอยู่ข้างลำธารที่คนสร้างขึ้น ในมือถือเบ็ดไว้คันหนึ่งกำลังนั่งตกปลา

เหอหยวนหงถามโดยที่ไม่หันหน้า “แกคิดได้แล้วใช่มั้ย?”

เซี่ยเหอแสดงสายตาที่อำมหิตออกมา แต่ก็ยังพูดพร้อมพยักหน้าว่า “ฉันยอมไปเป็นเมียเก็บของเฉินหยางก็ได้ แต่ว่า ฉันมีเรื่องอย่างขอเรื่องหนึ่ง ขอแค่คูรยอมรับปาก ฉันก็จะยอมเป็นเมียเก็บของเฉินหยาง ไ่อย่างนั้น ต่อให้ต้องตาย ฉันก็ไม่ยอม”

เหอหยวนหงขมวดคิ้ว วางคันเบ็ดลง แล้วพูดกับเซี่ยเหอกับสายตาที่ไม่ชอบใจว่า “นี่แกกำลังข่มขู่ฉันเหรอ?”

เซี่ยเหอทำหน้าไม่กลัว แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉินว่า “คุณจะปฏิเสธก็ได้”

“หึ!”

เหอหยวนหงทำเสียงฮึดฮัด แล้วพูดด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมว่า “ว่ามา แกอยากให้ฉันรับปากเรื่องอะไร?”

เซี่ยเหอตอบไปว่า “ให้ลุงเหอสงขึ้นเป็นผู้สืบทอดของตระกูลเหอ”

“ว่ายังไงนะ?”

เหอหยวนหงโมโหขึ้นมาทันที สองตาจ้องเขม็งไปที่เซี่ยเหอ “แกคิดจะเข้ามาก้าวก่ายตำแหน่งผู้สืบทอดของตระกูลเหอ อย่างแกเนี่ยนะ มีสิทธิ์อะไร?”

ถึงจะไม่ได้ยืนยันตัวผู้สืบทอดสักที แต่ว่า ในใจของเขาได้เลือกผู้สืบทอดเอาไว้นานแล้ว นั่นก็คือเหอจื้อ

เหอจื้อเป็นลูกชายคนโตของเขา การทำงานก็คล้ายๆ กับเขา ส่วนเหอสงบางครั้งก็ตัดสินใจไม่เด็ดขาด เทียบเหอจื้อไม่ได้

การที่อยากเป็นผู้นำตระกูลในอนาคต ก็จำเป็นต้องลงมืออย่างเด็ดขาด แต่เห็นได้ชัดว่า เหอสงไม่ใช่คนแบบนั้น

และในตอนนี้ เซี่ยเหอกลับเสนอว่าอยากให้เหอสงขึ้นเป็นผู้สืบทอด

เผชิญหน้ากับเหอหยวนหงที่โมโหสุดขีด เซี่ยเหอสงบอย่างถึงที่สุด และพูดด้วยน้ำเสียงที่เฉยชาว่า “ถ้าฉันตกลงที่จะเป็นเมียเก็บของ เฉินหยางตระกูลเหอก็จะได้ในสิ่งที่คุณต้องการ แต่ถ้าฉันปฏิเสธ ถ้าอย่างนั้นตระกูลบู๊โบราณเฉินก็ต้องเคียดแค้นแน่นอน คุณคิดว่าถึงตอนนั้น ตระกูลเหอยังจะมีอนาคตหลงเหลือมั้ย?”

“ในเมื่อคุณอยากใช้ฉันเป็นเครื่องแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ให้กับตระกูลเหออยู่แล้ว มันก็ควรละทิ้งบางอย่างบ้าง ยกตัวอย่างเช่น รับปากฉัน ว่าจะให้ลุงสองขึ้นเป็นผู้สืบทอด”

“ถ้าคุณไม่เห็นด้วย ถึงฉันตาย ก็ไม่มีทางเป็นเมียเก็บของเฉินหยางเด็ดขาด!”

เซี่ยเหอดูหนักแน่นมาก ตอนแรกเธอไม่อยากอยู่ต่อแล้ว การตายของแม่ สร้างผลกระทบต่อจิตใจของเธออย่างมาก แต่ว่าตอนนี้ เธอคิดได้แล้ว ถ้าตัวเองต้องตายไปทั้งอย่างนี้ ไม่เท่ากับแม่ตายไปฟรีๆ อย่างนั้นเหรอ?

ถึงแม่จะกระแทกหินฆ่าตัวตายเอง แต่ในความจริงนั้น เพราะไม่อยากเป็นตัวถ่วงของเธอ ถึงเลือดที่จะทำแบบนั้น

ส่วนตระกูลเหอ ก็มีความรับผิดชอบที่ไม่อาจปฏิเสธได้

คนบางคน จำเป็นต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้

เหอหยวนหงไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่สายตาที่มองไปยังเซี่ยเหอ มีแต่ความอาฆาต

“เยี่ยม! เยี่ยมมาก! ในจงโจว คนที่กล้าข่มขู่ฉันแบบนี้ ก็แกนี่แหละที่เป็นคนแรก!”

ผ่านไปพักใหญ่ เหอหยวนหงถึงได้พูดด้วยสีหน้าที่โกรธเกรี้ยว

เขาจ้องเขม็งไปที่เซี่ยเหอแล้วพูดขึ้นว่า “ฉันรับปาก! หลังจากที่แกกลายเป็นผู้หญิงของเฉินหยางแล้วฉันจะประกาศเรื่องที่เหอสงเป็นผู้สืบทอดออกไป”

ใครจะไปคิด ว่าเซี่ยเหอจะส่ายหน้า แล้วพูดด้วยสีหน้าที่จริงจังว่า “เมื่อไหร่ที่ลุงรองได้ขึ้นเป็นผู้สืบทอด ฉันก็จะยอมเป็นเมียเก็บของเฉินหยางเมื่อนั้น”

“ปั้ง!”

เหอหยวนหงโมโหอย่างสมบูรณ์แล้ว ใช้มือตบไปที่โต๊ะน้ำชา ทำเอาโต๊ะชาแตกเป็นเสี่ยงๆ

เขาจ้องมองเซี่ยเหอด้วยสีหน้าที่โกรธเกรี้ยวแล้วพูดไปว่า “แกได้ทำให้ฉันโกรธเข้าจริงๆ แล้วอย่ามาทำตัวไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงนะ!”

เซี่ยเหอขำอย่างไม่ให้เกียรติ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ชอบใจว่า “แม้แต่ความตายฉันยังไม่กลัวแล้วคิดว่าจะกลัวคำขู่ของคุณรึ?”

จู่ๆ เหอหยวนหงก็รู้สึกเหมือนชกเข้าไปในนุ่น

เขารับปากเฉินไห่โจวไปแล้วว่าพรุ่งนี้จะทำให้เซี่ยเหอยอมเป็นเมียเก็บของเฉินหยาง และตอนนี้เซี่ยเหอกำลังบีบเขาให้แต่งตั้งเหอสงเป็นผู้สืบทอด ถึงยอมรับปากว่าจะเป็นเมียเก็บของเฉินหยาง เขาไม่สามารถเลือกอะไรได้เลย

หลังจ้องมองเซี่ยเหอไปพักใหญ่ จู่ๆ เหอหยวนหงก็ยิ้มออกมา เพียงแต่รอยยิ้มที่แสดงออกมาตอนนี้ มันช่างชวนให้ขนลุกเหลือกัน

เหอหยวนหงพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “สั่งการลงไป อีกสองชั่วโมง เปิดประชุมประจำตระกูล!”

“ครับ!”

พ่อบ้านรีบตอบรับแล้วลุกขึ้นทันที ส่วนเซี่ยเหอกลับไม่ได้หันมองเหอหยวนหงด้วยซ้ำ ก็ได้หมุนตัวแล้วเดินจากไป

ไม่นาน ภายในห้องประชุมประจำตระกูล ทุกคนก็ได้มากันครบแล้ว

“ดึงขนาดนี้แล้ว ทำไมอยู่ดีๆ เจ้าบ้านถึงเรียกประชุมแบบนี้ มีเรื่องด่วนอะไรจะแจ้งรึเปล่า?”

“ผมได้ยินมาว่า เจ้าบ้านจะประกาศผู้สืบทอดต่อหน้าทุกคน”

“ทำไมถึงกะทันหันแบบนี้?”

……

คนของตระกูลเหอ ต่างพากันวิจารณ์ ตอนที่พวกเขารู้ว่าจะเป็นการประกาศผู้สืบทอด ต่างก็ตะลึงไปตามๆ กัน

เหอจื้อนั่งทำหน้ายิ้มแย้มอยู่ข้างที่นั่งของเจ้าบ้าน ใบหน้ามีแต่ความมั่นใจ

ถึงเหอหยวนหงจะยังไม่ได้แต่งตั้งผู้สืบทอด แต่ในความเป็นจริง คนตระกูลเหอต่างรู้ดีว่า เหอหยวนหงอยากแต่งตั้งเหอจื้อเป็นผู้สืบทอดตั้งนานแล้ว

ส่วนเหอสงก็นั่งทำหน้ากังวล มองไปทางเซี่ยเหอแวบหนึ่ง จากนั้นก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ

เหอจื้อยังไม่ทันได้ขึ้นเป็นผู้สืบทอดก็วางแผนที่จะใช้เวี่ยเหอมาแลกผลประโยชน์ให้ตระกูลเหอแล้ว ถ้าเหอจื้อได้ขึ้นเป็นผู้สืบทอดเมื่อไหร่ เซี่ยเหอก็จะหนีจะภัยในครั้งนี้ยากขึ้นไปอีก

“ดูท่า เซี่ยเหอคงสูญเสียความทรงจำไปนานแล้ว เธอคงรับปากพ่อว่าจะเป็นเมียเก็บของเฉินหยางแล้ว ด้วยเหตุนี้พ่อจึงได้ตั้งฉันเป็นผู้สืบทอดอย่างกะทันหันแบบนี้”

เหอจื้อหันไปพูดกับฉินหวยที่อยู่ข้างๆ ด้วยรอยยิ้ม

ฉินหวยก็มองไปทางเซี่ยเหอที่ท่าทางค่อนข้างเหม่อลอย จากนั้นก็พยักหน้าเบา “เธอกินยาที่ทำให้สูญเสียความทรงจำเข้าไปแล้วจะต้องความจำเสื่อมไปแล้วแน่นๆ ตอนนี้ พวกเราแค่รอข่าวดีที่เจ้าบ้านประกาศว่าคุณเป็นผู้สืบทอดก็พอครับ”

ทันใดนั้นเอง เหอหยวนหงที่ผมขาวโพลน เดินเข้ามาพร้อมท่าทางที่โมโห และนั่งลงบนที่นั่งประธาน

“ที่เรียกทุกท่านมาประชุมดึกขนาดนี้ เพียงเพราะเรื่องเดียวเท่านั้น นั่นก็คือผมได้ตัดสินใจเลือกผู้สืบทอดเสร็จแล้ว”

เหอหยวนหงกวาดตามองไปรอบๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์

พอได้ยินอย่างนั้น เหอจื้อที่นั่งอยู่ข้างเขาก็ยิ้มหนักกว่าเดิม ที่แท้ก็จะแต่งตั้งผู้สืบทอดจริงๆ ด้วย