บทที่ 2058
ซูรั่วหลีเองก็รู้ดี ถ้ปีนแผลปกติเธอจัดการเองได้ไม่มีปัญหา แต่ถ้าลามถึงเส้นชีพจร หากต้องจัดการเองจึงค่อนข้างยุ่งยาก
อีกอย่าง ถ้าแผลลามไปถึงเส้นประสาท ต้องมีอาการเจ็บป่วยตามมาภายหลังอย่างแน่นอน ถ้าเป็นอย่างนั้น ความสามารถในการต่อสู้ก็
จะได้รับผลกระทบ
คิดมาถึงตรงนี้ ในใจของซูรั่วหลีก็เกิดความลังล ไม่รู้ว่าควรให้เย่เฉินช่วยดีหรือไม่
ถึงอย่างไรเย่เฉินก็เป็นถึงยอดฝีมือที่มีความเก่งกาจห่างไกลจากตัวเอง ถ้าให้ขามาทำแผลให้ ต้องน่าเชื่อถือกว่าแน่นอน
เมื่อเย่เฉินเห็นสีหน้าทุรนทุรายของเธอ ก็พูดออกมาอย่างเด็ดขาดว่า “เอาล่ะ หยุดลีลาได้แล้ว ชีวิตสำคัญกว่าทุกอย่าง อีกอย่างฉันเชื่อ
ว่าเธอก็คงไม่อยากให้ขาตัวเองพิกรหรอก ไม่อย่างนั้นลองคิดภาพสาวน้อยเดินขาเป้ก็คงตลกน่าดู”
พูดจบ เขาก็ยื่นมือออกไปทางซูรั่วหลี เอ่ยพูดขึ้นมาได้ “มา ฉันจะพาเธอไปนั่งเก้าอี้!”
เมื่อซูรั่วหลีเห็นท่าทางเอาจริงของเย่เฉิน จู่ๆในใจก็เกิดความรู้สึกเขินอาย รีบพูดเสียงเบาว่า “ฉันทำเองได้”
พูดจบ เธอก็ใช้สองมือยันตัวเพื่อลุกขึ้น แต่กลับพบว่า แขนทั้งสองข้างของตั๋วเองไม่มีแรงเลยสักนิด
เมื่อเย่เฉินเห็นเธอทำอะไรสิ้นคิด ก็พูดออกมนิ่งๆว่า “อย่าพยายามเลย เส้นลมปราณของเธอถูกฉันปิดเอาไว้หมดแล้ว ร่างกายออกแรง
ไม่ได้หรอก”
ในใจของชูรั่วหลีเริ่มตระหนกขึ้นมา เธอทำได้เพียงยื่นมือออกไปตรงหน้าของเย่เฉินแต่โดยดี เอ่ยพูดเสียงเบาว่า “งั้นรบกวนนายด้วย
แล้วกัน….”
เย่เฉินยื่นมือออกไปจับมือเย็นๆของเธอเอาไว้ จากนั้นก็พยุงเธอขึ้นมา
ซูรั่วหลีเพิ่งเคยถูกผู้ชายจับมือไว้แบบนี้ครั้งแรก ชั่ขณะหัวใจจึงเต้นแรงอย่างประหม่า
เธอโตมากับแม่ แต่ไหนแต่ไรก็สนใจแต่การต่อสู้ อย่าว่าแต่มีความรักเลย แม้แต่โอกาสได้รู้จักกับผู้ชายก็ยังไม่มี
ตอนนี้จู่ๆก็ถูกผู้ชายจับมืออย่างใกล้ชิด ในใจจึงว้าวุ่นขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้
เย่เฉินพยุงเธอมาถึงเก้าอี้ จากนั้นก็ให้เธอเอนลงบนเก้าอี้ช้ๆ ล็อกเก้าอี้ให้อยู่นิ่ง แล้วพูดกับเธอว่า “ฉันต้องตัดกางเกงเธอออกก่อน”
เมื่อซูรั่หลีได้ยินคำพูดนี้ ใบหน้าก็แดงซ่านขึ้นมาชั่ขณะ เอ่ยพูดในใจอย่างสิ้นหวังว่า “ต้องตัดกางเกงออกจริงๆเหรอ? ถ้าเป็นอย่างนั้น
ต้นขาก็จะไม่เผยออกมาต่อหน้าเขาหมดเหรอ?”
ในตอนที่ซูรั่วหลียังไม่ค่อยอยากตอบรับการตัดสินใจของเเฉิน เย่เฉินก็หยิบกรรไกรขึ้นมา กะระยะห่างจากบริเวณที่มีลูกดอกหน้าไม่
เสียบอยู่ไว้ประมาณสองสามส่วน จากนั้นถึงได้ลงมือตัดกางเกงของซูรั่วหลืออก
ทันใดนั้นซูรั่วหลีก็รู้สึกเย็นวาบที่ขาด้านซ้าย เมื่อกัมมอง ก็พบว่าขาเรียวยาวของตัวเองถูกเปิดเผยออกมาหมดแล้ว เธอจึงกุมหน้าเอาไว้
ด้วยความอาย
เย่เฉินคิดไม่ถึง ว่าขาของซูรั่วหลีจะเรียวสวยได้ขนาดนี้ ถึงขนาดที่ว่าสวยกว่าขาผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยรู้จัก
น่าจะมาจากการที่ซูรั่วหลีฝึกต่อสู้มาตั้งแต่เด็กๆ
ขาของเธอไม่เพียงแค่เรียวยาว แต่ยังเหยดตรงอีกด้วย ซ้ำยังแอบมีกล้ามนิดๆ เทียบกับพวกนางแบบแล้วก็ไม่ได้ถือว่าด้อยไปกว่า
เท่าไหร่ เหมือนจะดีกว่าเสียด้วยซ้ำ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในคนที่มีขาที่สวยสมบูรณ์แบบเลยก็ว่าได้
เมื่อซูรั่วหลีเห็นเย่เฉินจ้องมองขาของตัวเองนิ่งๆ นอกจากจะรู้สึกอายแล้ว ก็ยังรู้สึกหงุดหงิด เธอรู้สึกว่า ถึงแม้ผู้ชายคนนี้จะเก่งกาจ
มากแค่ไหน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ต่างอะไรกับพวกผู้ชายแพรวพราวพวกนั้น
ดังนั้น เธอจึงเอ่ยถามขึ้นมาอย่างมีน้ำโหเล็กน้อยว่า “นายมองอะไร?”
เย่เฉินเงยหน้าขึ้นมา ยิ้มนิ่งๆแล้วพูดอย่างหน้าตายว่า “มองขาเธอไง ขาเธอสวยดี”