บทที่ 2076
ดั่งนั้น แม้ว่าตอนนี้เขาจะอยู่ที่เมืองจินหลิง ก็ยังคงได้รับโทรศัพท์ที่ซ่งเทียนหมิงโทรมา
พอดีกับ ที่ในเวลานี้เครื่องบินได้ลงจอดใกล้เคียงกับซ่งซื่อกรุ๊ป
เมื่อเย่เฉินได้ยินเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ในกระเป๋าของฮาชิโมโตะ ชินคิจิ ยื่นมือหยิบออกมาดู ก็เห็นตัวอักษรซ่งเทียนหมิงสามคำใหญ่
เขียนอยู่บนนั้น
เมื่อคนประเทศญี่ปุ่นตั้งชื่อคน แทบจะใช้อักษรจีนกันทั้งหมด ดังนั้นตอนที่พวกเขาบันทึกชื่อของคนจีน ก็ใช้อักษรจีนเหมือนกัน
เมื่อเย่เฉินเห็นสายที่ซ่งเทียนหมิงโทรมา ก็เอ่ยปากพูดกับฮาชิโมโตะ ชินคิจิว่า: “อยากมีชีวิตอยู่ก็เชื่อฟังดีๆ ไม่อย่างนั้นวันนี้ก็จะส่งแกตรง
ไปที่คอกเลี้ยงสุนัข สับละเอียดให้อาหารสุนัข เข้าใจมั้ย?”
ฮาชิโมโตะ ซินคิจิพยักหน้าอย่างต่อเนื่อง และพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยการวิงวอนว่า: “ตราบใดที่คุณสามารถไว้ชีวิตสุนัขอย่างผมได้
ไม่ว่าคุณจะให้ผมทำอะไร ผมก็จะทำตามอย่างว่าง่าย…
เย่เฉินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า: “รับสายของซ่งเทียนหมิง ถ้าเขาถามสถานการณ์ช่วงนี้ของแก แกก็ต้องบอกเขาว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี
มาก ยิ่งไปกว่านั้นจะต้องทำให้เขารู้ว่า แกยังอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น”
ฮาชิโมโตะ ชินคิจิพยักหน้ารัวๆในทันที
เมื่อเย่เฉินเห็นท่าทางนี้ของเขา ก็รู้ว่าเขาไม่มีความกล้า หลอกลวงตัวเอง ดังนั้นก็ยื่นโทรศัพท์ให้เขา และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า: “รับ
สายเดี๋ยวนี้!”
ฮาชิมโตะ ชินคิจิไม่กล้าชักซ้ำา หลั่งจากที่รับโทรศัพท์มาก็กดรับสายในทันที
ทันทีที่รับสาย ทางด้นซ่งเทียนหมิงนั้นสามารถได้ยินเสียงปลายสายอย่างชั่ดเจนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาพูดด้วยความทอด
ถอนหายใจว่า: “โธ่เอ๊ย…คุณฮาชิโมโตะ คุณกำลังทำอะไรอยู่? ทำไมนานขนาดก็ยังไม่รับสาย?”
ฮาชิโมโตะ ชินคิจิรีบทำตามคำสั่งการของเย่เฉิน และเอ่ยปากพูดว่า: “ผมกำลังประชุมอยู่ ตอนนี้ออกจากห้องประชุมมารับสายของนาย
คุณมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
ซ่งเทียนหมิงหัวเราะแล้วพูดว่า: “ผมน่ะ อันที่จริงแล้วก็ไม่ได้มีเรื่องอะไร ก็แค่อยากถามคุณดูว่าสถานการณ์ทางด้านประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็น
ยังไงบ้าง? ซ่งหวั่นถึงมีข่าวคราวอะไรบ้างมั้ย? กรมตำรวจนครบาลประเทศญี่ปุ่นยังคงตามหาที่อยู่ของเธออยู่มั้ย?”
ฮาชิโมโตะ ชินคิจิเอ่ยปากพูดว่า: “ตอนนี้ซ่งหวั่นถิงยังไม่มีข่าวคราวอะไรทั้งนั้น แต่ว่าผมคิดว่า ตอนนั้นพวกเราใช้ความพยายามมาก
ขนาดนั้นฆาตกรรมซ่งหวั่นถิง ตอนนี้เธอมีความเป็นได้สุงมากที่จะเสียชีวิตแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นกรมตำรวจนครบาลประเทศญี่ปุ่นก็เริ่มค่อยๆถอน
กำลังตำรวจแล้ว ผมว่าเรื่องนี้มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะจบโดยที่ไม่มีบทสรุป ดังนั้นคุณก็ไม่ต้องกังวล”
เมื่อซ่งเทียนหมิงได้ยินคำพูดนี้ ก็สบายใจมากขึ้นจริงๆ และพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “โธ่เอ๊ย! คุณฮาชิโมโตะจัดการเรื่องได้น่าเชื่อถือจริงๆ!
ตราบใดที่ซ่งหวั่นถึงตายแล้ว พวกเราก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงเป็นกังวลแล้วจริงๆ!”
หลังจากนั้น เขาก็พูดอย่างเร่งรีบว่า: “สำหรับคุณฮาชิโมโตะ ทางผมนี้ก็จะจัดงานแถลงข่าวเร็วๆนี้แล้ว กำลังประกาศอย่างเป็นทางการว่า
มีผมเข้ารับช่วงตำแหน่งหน้าที่ประธานของซ่งซื่อกรุ๊ป ถ้าเกิดหลังจากที่ผมได้เป็นประธานอย่างเป็นทางการแล้ว การร่วมทุนของพวกเราก็
สามารถเร่งความคืบหน้าได้!”
ฮาชิโมโตะ ชินคิจิก็พูดว่า: “งั้นก็ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้ว ทางผมได้บอกกล่าวกับคณะกรรมกรของพวกเราแล้ว รอทางของคุณอยู่น่ะ
หลังจากที่เข้ารับตำแหน่งเป็นประธานอย่างเป็นทางการ พวกเราทั้งสองฝ่ายต้องพบเจอกัน และพูดคุยปัญหาของการลงทุนภายหลังกันดีๆ”
ซ่งเทียนหมิงพูดอย่างตื่นเต้นว่า: “ได้ครับคุณฮาชิโมโตะ!”
จากนั้น ซ่งเทียนหมิงก็พูดว่า: “ขอโทษด้วยคุณฮาชิโมโตะ ใกล้ถึงเวลางานแถลงข่าวแล้ว ผมไม่คุยกับคุณแล้ว พวกเรารอวันเซ็นสัญญา
วันนั้น ค่อยขอบคุณคุณด้วยตัวเอง!”
ฮาชิโมโตะ ชินคิจิก็พูดไปตามสถานการณ์ว่า: “คุณซ่งก็ไม่ต้องเกรงใจขนาดนี้ คุณไปทำธุระก่อนเถอะ ที่เหลือเจอกันค่อยว่ากัน!”
“ได้!”
ที่นี่ ซ่งเทียนหมิงวางสาย ก็มองไปทางซ่งหรงวี่ด้วยความตื่นเต้นยากที่จะซ่อนเร้น และพูดด้วยความตื่นเต้นว่า: “ฮาชิโมโตะบอกว่า ทาง
ด้านกรมตำรวจนครบาลประเทศญี่ปุ่นนั้นกำลังจะถนกำลังตำรวจแล้ว ดูเหมือนว่าหาเบาะแสอะไรไม่ได้สักที”
ซ่งหรงรี่พูดด้วยความตื่นเต้นว่า: “งั้นก็ดีมากจริงๆ! ตราบใดที่พวกเขาล้มเลิกการค้นหา งั้นเรื่องนี้ก็ถือได้ว่าก็เป็นเรื่องที่ไม่สามารถเปลี่ยน
ได้!”
ซ่งเทียนหมิงหัวเราะ ลุกขึ้นมา และพูดฮึกห้าวเหิมหาญอย่างเด็ดขาดว่า : “ไป ลงไปงานแถลงข่าวกัน! ทันทีที่มีงานแถลงข่าวขึ้นมา ฉันก็
จะเป็นประธานของซ่งซื่อกรุ๊ปแล้ว!”