บทที่ 2075

ซ่งหวั่นถึงหายตัวไปนานเท่าไหร่ ในใจของซ่งเทียนหมิงก็ยิ่งผ่อนคลายมากขึ้นเท่านั้น

เขาคิดว่า ตามกาลเวลาที่ผ่านพันไป โอกาสรอดชีวิตของซ่งหวั่นถึงความเป็นไปได้ยิ่งน้อยลงเรื่อยๆ

ซ่งหรงวี่กลับไม่ได้มีความใจกว้างเหมือนพ่อของเขา ยืนอยู่ข้างๆถามด้วยน้ำเสียงค่อนข้างต่ำด้วยความประหม่าว่า: “พ่อ เย่เฉินยังค่อน
ข้างมีเล่ห์เหลี่ยม พวกเราต้องระวังตัวด้วย อย่าได้ถูกเขาจับพิรุธได้”

ซ่งเทียนหมิงพยักหน้า: “นี่ก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว สิ่งที่พวกเราสองคนต้องทำก็คือเล่นละครให้ดี”

ซ่งหรงวี่ก็พูดอีกว่า: “ใช่แล้วพ่อ สองวันนี้ในใจของผมยังรู้สึกไม่มั่นใจเล็กน้อย พ่อว่าซ่งหวั่นถึงไปที่ไหนกันแน่? ทำไมมีชีวิตอยู่แต่ไม่พบ
คนตายไม่พบศพล่ะ?”

ซ่งเทียนหมิงแสยะยิ้มพูดว่า: “ฉันคิดว่าซ่งหวั่นถึงน่จะตายแล้ว เพียงแต่ว่ายังไม่พบศพเท่านั้นเอง”

ซ่งหรงวี่รีบถามว่า: “ทำไมพ่อมั่นใจขนาดนั้น?”

ซ่งเทียนหมิงพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า: “ทุกเรื่องให้ความพิถีพิถันกับอัตราการรอดชีวิต ก็เหมือนคนคนหนึ่งหายไปอย่างกะทันหัน เวลาที่เป็น
ไปได้มากที่สุดที่หาเขาได้ คือก่อนการหายตัวไปสิบสองชั่วโมง ”

“ถ้าหากก่อนการหายตัวไปสิบสองชั่โมงหาตัวเขาไม่พบ งั้นโอกาสที่จะตามหาตัวเขาพบทีหลังก็ยิ่งลดลงมากขึ้นเรื่อยๆ”

“ถ้าหากเกินยี่สิบชั่วโมง ความเป็นไปได้ที่จะตามหาเขาพบ อย่างน้อยก็ลดลงครึ่งหนึ่ง,”

“ถ้าหากเกินสี่สิบแปดชั่วโมง ความน่าจะเป็นไปได้ที่จะตามหาเขาพบ คงจะไม่ถึงยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์…”.

“ยิ่งไปกว่านั้นตามกาลเวลาที่ผ่านพันไป ไม่เพียงแค่โอกาสที่ตามหาเขาพบเท่านั้น ที่จะยิ่งลดลงขึ้นเรื่อยๆ ที่สำคัญอัตราการรอดชีวิต
ของเขาก็จะยิ่งน้อยลงขึ้นเรื่อยๆ ”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ซ่งเทียนหมิงก็พูดอีกว่า: “ใช่แล้ว แกน่าจะเห็นการค้นหายอดนิยมเกี่ยวกับคนหายในเวยป้อบ่อยๆ บางคนออกไปวิ่งออก
กำลังกาย ก็หายตัวไปอย่างกะทันหัน; และก็มีบางคนขึ้นรถไปที่ใดที่หนึ่ง ต่อมาก็หายตัวไป”

ซ่งหรงวี่พยักหน้า: “การค้นหายยอดนิยมแบบนี้มีมากจริงๆ ผ่านไปช่วงหนึ่งก็จะมีหนึ่งคน”

ซ่งเทียนหมิงพูดต่อไปว่า: “โดยทั่วไปแล้ว สถานการณ์แบบนี้ ถ้าหากไม่สามารถที่จะตามหาตัวคนได้อย่างรวดเร็ว งั้นผลสุดท้ายก็รอด
กลับมายาก”

“มีชาวเน็ตจำนวนมากที่กระตือรือร้นในอินเทอร์เน็ต ต่างก็ช่วยค้นหาผู้คน แต่หลังจากที่ผ่านไปช่วงหนึ่งกลับมีข่าวร้ายของการพบศพ”
“ดังนั้นฉันคิดว่า ซ่งหวั่นถิงหายไปนานขนาดนี้ มีความเป็นไปได้สูงที่น่าจะตายไปแล้ว”

“ยิ่งไปกว่านั้น ตราบใดที่คนตายสิ่งที่สามารถทำได้ คนตายไม่สามารถให้การได้อย่างแน่นอน”

“ยิ่งไปกว่านั้นพวกเราไม่ได้เป็นคนลงมือฆ่า ฮาชิโมโตะ ชินคิจิเองที่จ้างคนไปฆ่ ดังนั้นก็ยิ่งยากที่จะสืบสาวมาถึงพวกเราได้ ฟ้าถล่มลง
มา แต่ยังมีฮาชิโมโตะ ชินคิจิเป็นเกราะกำบังแทนพวกเราไม่ใช่เหรอ? ตราบใดที่เขาไม่เป็นอะไร พวกเราก็สามารถที่จะไม่มีเรื่องทุกข์ร้อนได้ ถ้า
เกิดอะไรขึ้นกับเขาจริงๆ พวกเราก็รีบหนีไปก็ได้แล้ว”

ซ่งหรงวี่ถึงได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก และพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นต่อไปพวกเรายังต้องติดต่อกับฮาชิโมโตะ ชินคิจิ
ให้มากขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเราสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวทุกวันของเขาได้”

ซ่งเทียนหมิงพยักหน้า: “แกพูดถูก ฮาชิโมโตะ ชินคิจิสำหรับพวกเรา ก็คือสัญญาณควัน เมื่อไหร่ที่แกเห็นฮาชิโมโตะ ชินคิจิไฟไหมัพ่น
ควัน ก็แสดงว่าพวกเราตกอยู่ในอันตรายแล้ว ถ้าหากฮาชิโมโตะ ชินคิจิไม่มีไฟ งั้นพวกเราก็สามารถที่จะไม่มีเรื่องทุกข์ร้อนต่อไปได้”
จากนั้น ซ่งเทียนหมิงหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาฮาชิโมโตะ ชินคิจิ

โทรศัพท์โทรติดอย่างรวดเร็ว

ฮาชิโมโตะ ชินคิจิเพราะมักจะเจรจาธุรกิจทั่วโลก ดังนั้นโทรศัพท์จึงเปิดบริการที่คล้ายกับGSM ไม่ว่าจะอยู่ประเทศใด ก็สามารถที่จะ
เข้าถึงการสื่อสารผ่านเครือข่ายมือถือในพื้นที่ได้