บทที่ 2089

ในเวลานี้ในใจของซ่งหวั่นถึงก็เต็มไปด้วยความสับสน

เธอก็ย่อมเกลียดซ่งเทียนหมิงกับซ่งหรงวี่สองคนพ่อลูกเข้ากระดูกดำ

แต่ทว่า จะให้ตัวเองมาตัดสินใจความเป็นความตายของพวกเขาจริงๆ ตัวเองไม่ต้องการทำให้พวกเขาตายจริงๆ
ประการหนึ่งเป็นเพราะว่าล้วนเป็นญาติกันทั้งนั้น มีสายสัมพันธ์ของสายเลือด;

อีกประการหนึ่ง ก็กังวลใจว่าจะทำเรื่องเกินเหตุจะทำให้คุณท่านซ่งเสียใจ

ซ่งหวั่นถึงเข้าใจคุณปู่ของตัวเองเป็นอย่างมาก เธอรู้ว่าคุณปู่เข้มงวดอย่างแน่นอน ในเวลานี้ก็เกลียดชังลุงใหญ่และลูกพี่ลูกน้องของตัว
เองเป็นอย่างมาก

แต่ทว่า เธอก็รู้ว่า อยู่ในใจของคุณปู่ เลือดขันกว่าน้ำอยู่สมอ เธอไม่ได้หวังจะลงโทษลุงใหญ่กับลูกพี่ลูกน้องพวกเขาทั้งสองคนด้วยความ
ตายจริงๆ

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอมองไปทางเย่เฉิน และพูดด้วยความจริงใจว่า: “อาจารย์เย่ แม้ว่าพวกเขาจะทำผิดมามากมาย แต่เนื่องจากว่าเป็นคน
ของตระกูลซ่ง และก็เป็นญาติทางสายเลือดของฉัน ฉันยังหวังว่าคุณจะสามารถไว้ชีวิตพวกเขาด้วย…”.

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา คนทั้งสามในที่เกิดเหตุก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

นอกจากซ่งเทียนหมิงกับซ่งหรงรี่ ยังมีซ่งจี่โม่คุณท่านซ่ง

แม้ว่าซ่งเทียนหมิงกับซ่งหรงรี่จะไม่พูดอะไรมาก สำหรับพวกเขาแล้ว คำพูดของซ่งหวั่นถึง ก็เทียบเท่ากับว่าไว้ชีวิตสุนัขของพวกเขา
แต่สำหรับคุณท่านซ่ง เขายังกลัวว่าซ่งหวั่นถึงเพราะความแค้น และจะฆ่าฟอลูกคู่

แต่ว่าตรงหน้าของเย่เฉิน เขาก็ไม่กล้พูดออกมาอย่างชัดเจนว่าจะปกป้องชีวิตพ่อลูกคู่นี้ ดังนั้น ความเป็นความตายของพ่อลูกคู่นี้
ทั้งหมดตกอยู่ในมือของซ่งหวั่นถิง

ตอนนี้ เมื่อได้ยินซ่งหวั่นถิงพูดขนาดนี้ เขาก็ย่อมรู้สึกผ่อนคลายเป็นธรรมดา

ซ่งเทียนหมิงตื่นเต้นจนคุกเขากัมกราบคำนับให้กับซ่งหวั่นถึงอย่างไม่หยุดหย่อน และพูดด้วยความสะอึกสะอื้น: “หวั่นถึง…บุญคุณที่เธอ
ไม่ฆ่าลุง ลุงใหญ่จะจดจำไว้เสมอ…”

ซ่งหรงรี่ก็ร้องให้พูดว่า: “หวั่นถึง ขอบคุณสำหรับความเมตตาของเธอ….

เย่เฉินก็คาดเดาผลลัพธ์ได้มานานแล้ว มองไปทางซ่งเทียนหมิงกับซ่งหรงวี่ที่เต็มไปด้วยความรอดชีวิตจากหายนะ และพูดอย่างเฉยเมย:
“ในเมื่อหวั่นถึงบอกว่าจะว้ชีวิตสุนัขอย่างพวกแก งั้นผมก็ย่อมต้องเคารพต่อเจตนารมณ์ของเธอ”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เย่เฉินพูดอย่างเคร่งขรึมว่า: “แต่คำพังเพยพูดได้ดินะ โทษมาปยากที่หลีกเยงได้ โทษตายยากที่จะรอดได้ แม้ว่าชีวิต
สุนัขของพวกแกสองคนจะสามารถรักษาไว้ได้ แต่ยังต้องยอมรับการลงโทษที่เพียงพอ!”

ซ่งเทียนหมิงรีบพูดว่า: “อจารย์ย! ผมและหรงวี่นยอมที่จะไปมอบตัที่สถนีตำรวจเดี๋ยวนี้ ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ
ตัดสินของกฎหมาย!”

ซ่งหรงรี่ก็พยักหน้ารัวๆ: “ใช่ครับอาจารย์เย่ ผมกับพ่อของผมก็จะไปมอบตัวเดี๋ยวนี้! ไปเดี๋ยวนี้!”

เย่เฉินแสยะยิ้มพูดว่า: “พวกแกสองคนคิดได้สวยงามมากนะ ให้พวกแกสองไปมอบตัว ยั่งจะให้สิทธิ์พวกแกได้พยายามมอบตัว แบบนี้
ตอนที่ตัดสินก้ย่อมจะกว้างขวางมากขึ้นเป็นธรรมดา”

ซ่งเทียนหมิงรีบพูดว่า: “อจารย์ยคุณเป็นคนใหญ่โตใจกว้าง ต่อให้พวกเรามีสิทธิ์ในการมอบตัว ก็ต้องถูกต้ดสินจำคุกอย่างน้อยหลาย
สิบปี”

เย่เฉินโบกมือ: “ซ่างเหอะ ไม่ต้องไปมอบตัวแล้ว และก็ไม่มีความจำเป็นจัดการผ่านช่องทางทางกฎหมายแล้ว”

เมื่อคุณท่านซ่งได้ยินคำพูดนี้ และเอ่ยปากถามว่า: “อาจารย์เย คุณหมายความว่ายังไง?”

เย่เฉินเอ่ยปากพูดว่า: “ผมไม่เชื่อฟอลูกคู่นี้ ต่อให้ส่งตัวพวกเขาเข้าคุก ไม่แน่ในอนาคตพวกเขาอาจจะคุกคามชีวิตของหวั่นถึง ดังนั้นผม
คิตวิธีอื่นที่จัดการไว้แล้ว ที่สามารถรักษาชีวิตพวกเขาไว้ได้ แล้วก็สามารถยุติการคุกคามของพวกเขาที่มีต่อหวั่นถึงได้”