นางเหมือนแม่นางน้อยอายุสิบสามสิบสี่ปี อ่อนเยาว์แรกรุ่น สง่างามเรียบง่าย แต่งกายชุดขาวทั้งชุด ดูไปแล้วอ่อนหวานน่าดึงดูด
ถ้าไม่ใช่ว่าถูกขังอยู่ในโซ่เทพระเบียบ คงทำให้คนอื่นเข้าใจผิดไปว่านี้เป็นแม่นางน้อยในห้องหอที่เพรียบพร้อมคนหนึ่ง แผ่กลิ่นอายบริสุทธิ์ผุดผ่องออกมา
‘นี่ก็คือ ‘นาง’ ที่อยู่มาตั้งแต่ยุคก่อนคนนั้นหรือ คนน่ากลัวที่ทำให้ระดับอมตะไม่รู้เท่าไรคับแค้นใจตายที่นี่คนนั้นหรือ’
หลินสวินนัยน์ตาไหววูบ ใจไหวหวั่น
เดิมเขานึกว่าอีกฝ่ายจะเป็นสิ่งชั่วร้ายยิ่ง แต่ตอนนี้ดูท่าจะต่างจากในจินตนาการของเขาโดยสิ้นเชิง
ฮูม…
ระเบียบนิพพานยังสำแดงอานุภาพ เปล่งปลั่งส่องประกาย พลังที่ปลดปล่อยออกมาเหมือนแส้เทพสายแล้วสายเล่าฟาดลงไปบนตัวเด็กสาวคนนั้นจนนางตัวสั่น ใบหน้าเล็กผุดผาดเกลี้ยงเกลาซีดขาว หลับตาแน่น ร่างกายแบบบางคุดคู้อยู่ตรงนั้น
ริมฝีปากนางซีดขาวไร้สีเลือด เม้มเอาไว้แน่น ตั้งแต่เริ่มจนจบไม่ส่งเสียงสักแอะ
ภาพนี้เกรงว่าจะทำให้คนไม่รู้เท่าไรเจ็บปวดใจและทนไม่ได้
แต่ไม่ว่าจะเป็นหลินสวินหรือเสี่ยวอู่ สีหน้าต่างสงบนิ่งนัก
ถ้าใครเชื่อว่าเด็กสาวคนนี้เป็นแกะน้อยน่าสงสาร เช่นนั้นก็ตาบอดเข้าจริงๆ ไม่ต่างอะไรกับรนหาที่ตาย
หลินสวินยังสงสัยว่าบนร่างเด็กสาวชุดขาวคนนี้มีกลิ่นอายเช่นไรกันแน่ ถึงได้ล่อให้ระเบียบนิพพานลงมือโจมตีเอง
เรื่องนี้คาดไม่ถึงนัก
หลังจากผ่านไปหนึ่งถ้วยชาเต็มๆ เด็กสาวชุดขาวก็ถูกตีจนละอองแสงสาดกระเซ็นไปทั้งร่าง แม้ไม่ได้เนื้อตัวแตกยับ ทั้งยังไม่มีเลือดออก แต่ร่างกายกลับให้ความรู้สึกเป็นมายา เหมือนกำลังจะพังทลาย
ก็ในตอนนี้เองจู่ๆ นกกระจอกเขียวก็เอ่ยขึ้นว่า “แม้ว่าข้าแทบอยากให้เจ้าฆ่าแม่หนูนี่ซะ แต่ข้าก็ต้องเตือนเจ้า เป็นไปได้สูงยิ่งที่ว่านาง… อาจจะเป็นวิญญาณระเบียบดวงหนึ่ง!”
เสียงซับซ้อนและแผ่วจางนัก
หลินสวินนัยน์ตาหดรัดเล็กน้อย ในใจสั่นสะท้านยกใหญ่
เขาเคยได้ยินมานานแล้วว่าในโลกยอดนิรันดร์ มีเพียงระเบียบระดับสวรรค์ขั้นเก้าที่หายากที่สุดเท่านั้นจึงจะให้กำเนิดวิญญาณระเบียบได้
นี่เป็นร่างวิญญาณอันลึกลับชนิดหนึ่ง ก็เหมือนกับวิญญาณอาวุธของศาสตราจักรพรรดิ วิญญาณกระบวนของกระบวนค่ายกล
เพียงแต่วิญญาณระเบียบถือกำเนิดในพลังระเบียบ ยิ่งไปกว่านั้นระเบียบระดับสวรรค์ขั้นเก้าทั่วไปก็ไม่อาจให้กำเนิดได้ ต้องเป็นระเบียบเคราะห์สวรรค์ขั้นเก้าที่หาได้ยากยิ่งถึงจะได้!
วิญญาณระเบียบไม่ได้มีสติปัญญาอย่างแท้จริง แต่สามารถควบคุมและโคจรพลังระเบียบ ใช้อานุภาพของพลังระเบียบถึงขีดสุดอย่างไม่มีมาก่อนได้
ที่ลึกลับที่สุดคือ หากครอบครองวิญญาณระเบียบ ก็จะทำให้พลังระเบียบแปรสภาพไม่หยุดได้!
ก่อนหน้านี้หลินสวินมองว่าเรื่องพวกนี้เป็นเพียงข่าวลือที่ถือเป็นจริงเป็นจังไม่ได้ ถึงอย่างไรจนตอนนี้เขายังไม่เคยเห็นพลังระเบียบระดับสวรรค์มาก่อน
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงจะไปรู้จักระเบียบระดับสวรรค์ขั้นเก้าที่หายากหาใดเทียบนั้นเลย
ส่วนวิญญาณระเบียบ…
ก็ยิ่งดูเลื่อนลอยและไม่มีจริง
แต่หลินสวินกลับคิดไม่ถึงว่าเด็กสาวชุดขาวที่ถูกระเบียบนิพพานกักขังอยู่ตรงหน้า กลับเป็นไปได้สูงยิ่งว่าจะเป็นวิญญาณระเบียบตนหนึ่ง!
ก็ไม่แปลกที่เสียงนกกระจอกเขียวจะซับซ้อนและแผ่วหวิวนัก
เกรงว่าขนาดมันยังคิดไม่ถึงว่าจะจับพลัดจับผลู ถึงกับให้หลินสวินจับศุภโชคที่ทำให้เผ่าจักรพรรดิอมตะพวกนั้นยังคลั่งได้เช่นนี้
ครู่หนึ่งนกกระจอกเขียวก็เอ่ยว่า “นอกจากนี้ยังเป็นวิญญาณระเบียบที่ดำรงอยู่ตั้งแต่ในการล่มสลายของยุคก่อนด้วย… เจ้าคงรู้ชัดว่าถ้าแบกรับพลังดับทำลายแห่งยุคสมัยได้ วิญญาณระเบียบตนนี้จะพิเศษปานไหน…”
หลินสวินย่อมรู้ดี ถ้าสยบวิญญาณระเบียบได้ ก็เท่ากับครอบครองพลังระเบียบที่สมบูรณ์ชนิดหนึ่ง มิหนำซ้ำยังเป็นระเบียบระดับสวรรค์ขั้นเก้าที่หายากถึงที่สุดด้วย!
มูลค่าเช่นนั้น เกรงว่าสามารถทำให้เผ่าจักรพรรดิอมตะตระกูลใดก็ตามต้องคิดหาวิธีแย่งมาครองให้ได้ จะดึงดูดพายุฝนคาวเลือดที่ยากจินตนาการ ถึงกับก่อนให้เกิดหายนะใหญ่ครั้งหนึ่ง
และตอนนี้ ดูจากสถานการณ์แล้ว เห็นได้ชัดว่าระเบียบนิพพานคิดจะกำจัดเด็กสาวคนนี้ นี่ก็เป็นสาเหตุที่นกกระจอกเขียวไม่อาจสงบใจและเอ่ยปากเตือนขึ้นมา
แต่ที่น่าอักอ่วนก็คือ…
หลินสวินไม่อาจควบคุมระเบียบนิพพานได้สักนิด ต่อให้ตอนนี้ระเบียบนิพพานจะถูกเขาสยบมานานแล้ว แต่ด้วยมรรควิถีของเขา อย่าว่าแต่ควบคุมระเบียบนิพพานเลย ขนาดเพลิงหงส์ระเบียบก็ยังควบคุมไม่ได้
ยังดีที่ไม่นานนักเด็กสาวชุดขาวคนนั้นก็เหมือนรับไม่ไหวแล้ว ตกอยู่ในสภาวะหลับใหลอย่างประหลาด แม้แต่สีหน้าเจ็บปวดนั้นยังสงบนิ่งผ่อนคลายขึ้นมา
จากนั้นเมื่อละอองแสงปลิวว่อน ระเบียบนิพพานก็เก็บเด็กสาวเข้าไปในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งอีกครั้ง
นี่ทำให้หลินสวินถอนหายใจยาวๆ อย่างโล่งอก ไม่ได้ฆ่าให้ตายก็ดี
นกกระจอกเขียวเอ่ยด้วยน้ำเสียงค่อนแคะว่า “รอดจากเคราะห์ใหญ่ ย่อมมีโชครออยู่ เพียงแต่โชคนี้ของเจ้าจะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว ถ้าให้ขุมอำนาจใหญ่ในโลกยอดนิรันดร์พวกนั้นรู้เข้า ต้องสับเจ้าเป็นชิ้นๆ แน่”
หลินสวินยิ้ม ยิ่งนกกระจอกเขียวพูดแบบนี้ก็ยิ่งยืนยันความพิเศษของวิญญาณระเบียบตนนี้ สำหรับเขาแล้ว นี่ย่อมเป็นเรื่องดีเท่าฟ้า
ต่อมาหลินสวินก็ใช้จิตรับรู้เข้าไปสำรวจในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง
ก็พบว่าในระเบียบนิพพาน เด็กสาวชุดขาวหลับใหลอยู่ในนั้น ทั้งร่างโอบล้อมด้วยละอองแสงของพลังระเบียบนิพพานเป็นริ้วๆ
เมื่อหลินสวินสัมผัส การหยั่งรู้ดุจกระแสน้ำก็ผุดเข้าไปในใจหลินสวินทันที
อู๋ซวง
วิญญาณแดนต้นกำเนิด
ถือกำเนิดขึ้นในยุคก่อน ถูกเรียกขานว่า ‘วิญญาณระเบียบมรรคสวรรค์แดนต้นกำเนิด’
ในตอนที่ยุคก่อนล่มสลาย มรรคสวรรค์แดนต้นกำเนิดพังทลาย ล่มสลายลงไปด้วย
ด้วยมีฐานะเป็นวิญญาณระเบียบแดนต้นกำเนิด อู๋ซวงโชคดีอย่างไม่คาดฝัน ผ่านห้าพิบัติมรรคเสื่อมโทรม รักษาวิญญาณเอาไว้ได้ จึงดำรงอยู่ตั้งแต่ยุคก่อนล่มสลายจนถึงตอนนี้…
การหยั่งรู้นี้คลุมเครือนัก กระจัดกระจายไปหมด ทำให้หลินสวินได้รับข้อมูลอย่างจำกัด แต่หลังจากได้รู้เรื่องพวกนี้ก็ยังทำให้หลินสวินจิตใจปั่นป่วนไปครู่หนึ่ง
อู๋ซวง! (เป็นหนึ่งไม่มีสอง)
เป็นชื่อเรียกที่อหังการถึงที่สุด
ที่น่าทึ่งยิ่งกว่าก็คือ เด็กสาวชุดขาวที่ถูกเรียกขานว่าอู๋ซวงผู้นี้ไม่ได้เป็นพลังระเบียบโลกทั่วๆ ไป แต่เกิดในระเบียบมรรคสวรรค์ของโลกที่ชื่อว่า ‘ต้นกำเนิด’!
พูดอีกอย่างก็คือ ในยุคก่อน อู๋ซวงก็คือสวรรค์ในสายตาของผู้ฝึกปราณแดนต้นกำเนิด เป็นร่างจำแลงของมรรคสวรรค์!
เรื่องนี้น่าเหลือเชื่ออย่างไม่ต้องสงสัย แทบจะพลิกความรู้ความเข้าใจของหลินสวิน
ในสายตาเขา พลังระเบียบที่ตระกูลลั่วควบคุม แม้จะปกคลุมอยู่บนทางเดินโบราณฟ้าดารา การครอบครองพลังเช่นนี้ก็เหมือนนายเหนือหัวแห่งโลกหล้า
แต่ถึงอย่างไรพลังระเบียบนั้นก็ไม่มีวิญญาณระเบียบ
แต่อู๋ซวงกลับเป็นร่างวิญญาณที่ถือกำเนิดจากระเบียบมรรคสวรรค์ที่แท้จริง!
เทียบกันเช่นนี้ก็รู้ว่าที่มาที่ไปของอู๋ซวงน่ากลัวปานไหน
แต่หลินสวินก็สังเกตเห็นว่าหลังจากผ่านพิบัติยุคล่มสลาย ระเบียบมรรคสวรรค์แดนต้นกำเนิดที่อู๋ซวงครอบครองสูญสิ้นไปนานแล้ว ไม่ได้ฟื้นกลับมาใหม่
มีเพียงอู๋ซวงที่ได้พลังชีวิตสายหนึ่ง ผ่าน ‘ห้าพิบัติมรรคเสื่อมโทรม’ มาได้ครั้งหนึ่งถึงโชคดีดำรงมาตั้งแต่ยุคก่อนล่มสลายจนถึงตอนนี้
นี่ก็พูดได้ว่าแม้อู๋ซวงในตอนนี้เป็นวิญญาณระเบียบ แต่เสียต้นกำเนิดไปนานแล้ว อ่อนแอถึงที่สุด
‘ไม่แน่ว่าในอนาคต พลังของระเบียบนิพพานอาจจะช่วยให้นางฟื้นตัวขึ้นมาได้’
หลินสวินมีความคิดแล่นขึ้นมาในหัว
ถึงอย่างไรตอนนี้ระเบียบแดนนรกของยุคก่อนก็กำลังเกิดใหม่ในระเบียบนิพพาน…
“เป็นอย่างไร” นกกระจอกเขียวเอ่ยถามอย่างร้อนรน “วิญญาณระเบียบนั่นพิเศษปานไหน”
หลินสวินคิดๆ แล้วเอ่ยว่า “ต้นกำเนิดหายไปแล้ว เกรงว่าจะฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้งได้ยาก”
นกกระจอกเขียวหัวเราะหยันออกมา “ขอเพียงร่างวิญญาณไม่สิ้นไป ขอเพียงรวบรวมพลังระเบียบอย่างไม่ขาดสายแล้วให้นางหลอม ไม่ช้าก็เร็วยังสามารถสร้างต้นกำเนิดได้อีกครั้ง ฟื้นคืนอานุภาพเมื่อแรกเริ่ม ถ้าเจ้าไม่ต้องการก็มอบให้ข้าเป็นไง ข้ารับรองว่าจะตอบแทนเจ้าอย่างงามจนคาดไม่ถึงเลย!”
มันตาลุกวาว ดูตั้งตาคอย
หลินสวินคล้ายขบคิด “เจ้าหมายถึง ขอเพียงรวบรวมพลังระเบียบมากพอ ก็จะช่วยฟื้นฟูต้นกำเนิดของนางได้ใช่ไหม”
นกกระจอกเขียวอึ้งไป จู่ๆ ก็อยากจะตบหน้าตัวเองแรงๆ ทำไมถึงแพร่งพรายเรื่องพรรค์นี้ออกไปได้ ดีล่ะทีนี้ เจ้าหมอนี่ต้องไม่ปล่อยวิญญาณระเบียบมาดีๆ แน่!
“หึ! พลังระเบียบไม่ได้รวบรวมได้ง่ายดายปานนั้น โดยเฉพาะถ้าอยากให้วิญญาณระเบียบอย่างนางสร้างต้นกำเนิดใหม่ ไม่รู้ว่าต้องรวบรวมพลังระเบียบเท่าไรถึงทำได้ แค่พลังของเจ้าคนเดียว…”
นกกระจอกเขียวเผยสีหน้าเวทนา “เกรงว่าไม่รู้ว่าชาติไหนถึงจะช่วยให้นางรวบรวมพลังระเบียบได้พอ”
หลินสวินร้องอ้อ เอ่ยว่า “เรื่องนี้ไม่เป็นไร ข้าไม่ได้รีบ”
นกกระจอกเขียวงโมโหไปครู่หนื่ง ทั้งยังจนใจ จู่ๆ ก็พูดขึ้นมาว่า “เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะเอาเรื่องนี้ไปบอกคนอื่นหรือ”
“แล้วเจ้าไม่กลัวว่าต้องจ่ายค่าตอบแทนเพราะเหตุนี้หรือ” หลินสวินเอ่ย
นกกระจอกเขียวแค่นหัวเราะออกมา ท่าทางคร้านจะพูดอีก
หลินสวินก็ยิ้มแล้ว ภัยคุกคามที่มาจากเด็กสาวชุดขาวอู๋ซวงถูกขจัดแล้ว ทำให้เขาผ่อนคลายลงโดยสิ้นเชิง
สำหรับเขาแล้ว เขตที่เก้านี้กลับกายเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด
“เหลือเวลาอีกสองวันการเคี่ยวกรำก็จะจบลง ก็ได้เวลาทะลวงขั้นแล้ว…”
หลินสวินพูดกับตัวเอง แววตาเปล่งประกาย
เดิมทีเขาคิดจะทะลวงขั้นหลังเข้าไปในเมืองตั้งต้น แต่ใครจะคิดว่าในเมืองก็มีคลื่นลมแปรปรวน คลื่นใต้น้ำพัดโหม เต็มไปด้วยอันตรายและภัยคุกคาม ถึงกับทำให้แผนทะลวงขั้นของเขาล่าช้า
แต่ตอนนี้แตกต่างไปโดยสิ้นเชิงแล้ว
สวบ!
ครู่ต่อมาหลินสวินทะยานสูงขึ้นไปบนฟ้า เริ่มเดินไปตามฟ้าดาราจักรวาลอันเงียบสงบแห่งนี้
กระทั่งจิตวิญญาณแจ่มกระจ่าง สงบนิ่งโดยสมบูรณ์ เงาร่างหลินสวินก็หยุดอยู่กลางฟ้าดาราอันกว้างใหญ่ไพศาล
เขาบิดขี้เกียจ ปล่อยจิตใจ แหงนหน้ามองดูอวกาศ ยืนอยู่กลางฟ้าดาราเพียงลำพัง เริ่มทะลวงด่านเตรียมรับเคราะห์สวรรค์ของตัวเอง
แสงมรรคเป็นริ้วๆ ไหลออกมาจากภายในร่างของเขา แสงเทพเป็นสายๆ ปะทุออกมา เขาเจิดจ้าไปทั้งตัว ท่ามกลางความคลุมเครือ ราวกับแปลงเป็นหุบเหวลึกพาดตัวลงกลางฟ้าดารา
ใหญ่เหลือประมาณ ลึกเหมือนไร้สิ้นสุด!
ตูม!
ไม่นานนัก
เคราะห์สวรรค์มาเยือน สายฟ้าฉาดใหญ่ระเบิดคลั่งจนไม่อาจเชื่อได้ เจิดจ้าเปล่งประกายเกินไป ราวกับทะเลดารานับไม่ถ้วนตกลงมากลบที่นี่ไว้
หลินสวินหายลับไปทันที ถูกทะเลอสนีอันบ้าคลั่งไพศาลกลืนกิน ฟ้าดาราแถบนี้ต่างถูกแสงอสนีอันพร่างพราวตระการตากลบมิด
นกกระจอกเขียวตาเบิกกว้างอยู่ไกลลิบ ถ้ากล่าวว่าเคราะห์สวรรค์มกุฎมหาจักรพรรดิเหนือกว่าระดับจักรพรรดิทั่วไป ราวกับธารดาราสายแล้วสายเล่าเทลงมาจนรวมเป็นมหาสมุทร
เช่นนั้นเคราะห์สวรรค์ของหลินสวิน ก็คือมหาสมุทรพายุอสนีลูกแล้วลูกเล่าซัดลงมา! ภาพอันไม่อาจเทียบได้ชั่วกาลเช่นนั้นทำเอานกกระจอกเขียวยังตกตะลึงอ้าปากค้างอย่างห้ามไม่อยู่
นี่ยังใช่เคราะห์สวรรค์อยู่หรือ
ฟ้าดาราจักรวาลแถบหนึ่งถูกกลบมิด นี่เป็นสิ่งที่มกุฎมหาจักรพรรดิคนหนึ่งจะต้านได้หรือ
ยังดีที่อยู่ห่างพอ มิเช่นนั้นนกกระจอกเขียวจะต้องถูกลูกหลงด้วยแน่!
ระหว่างที่สายฟ้าน่าพรั่นพรึงพลิกม้วนปั่นป่วน มีดาวดวงแล้วดวงเล่าระเบิดกระจุยไม่ว่างเว้น แปรเปลี่ยนเป็นแสงแสบตาแผ่กระจายสาดกระเซ็น แต่ในเคราะห์สวรรค์กลับดูไม่สะดุดตานัก เหมือนดั่งฟองคลื่นสองสามสาย ไม่อาจชักนำให้เกิดคลื่นอะไรได้
ทั้งหมดนี้ล้วนทำให้เคราะห์สวรรค์ที่หลินสวินเผชิญหน้าครั้งนี้ดูน่าสะพรึงและน่าครั่นคร้ามเป็นพิเศษ!
——