บทที่ 2233 ดาบนี้ขอประทานอภัย

The king of War

The king of War บทที่ 2233 ดาบนี้ขอประทานอภัย

เมื่อพูดจบลง กระบี่โอรสสวรรค์ที่เขาชูขึ้นสูงก็ถูกฟันลงทันทีเช่นกัน

ทันใดนั้น ก็เกิดเงาใหญ่ยักษ์สีทองก็แสดงออกมาพร้อมกับกระบี่โอรสสวรรค์ในมือของหยางเฉิน

“ครืน!”

เสียงดังสนั่นหวั่นไหวในอากาศว่างเปล่า

จอมคนของสำนักเทียนไห่ต่างก็พากันตาโต ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

เพราะว่าพลังมหาศาลเมื่อครู่ของตู้อวี้ซานนั้นได้หายไปจนหมดในตอนนี้ เรียกง่ายๆคือ เกราะที่ตู้อวี้ซานได้สร้างไว้ถูกทำลายด้วยกระบวนท่าเมื่อครู่ของหยางเฉิน

ไม่ใช่แค่จอมคนของสำนักเทียนไห่ กองยุทธการจงโจวกับทีมนักบูโดก็สัมผัสได้ถึงพลังนี้เช่นกัน พวกเขาต่างสามารถหายใจได้อย่างสะดวก

ความตกใจปรากฏขึ้นในดวงตาของตู้อวี้ซาน เขาอุทานว่า “เป็นไปได้ยังไง?”

เขาเป็นถึงนักรบยิ่งใหญ่ในสมัยโบราณ เข้ามาด้วยค่ายกล วิชาค่ายใหญ่ผนึกสวรรค์คือสิ่งที่ทำให้เขามีชื่อเสียง

แม้ว่าตอนนี้เขาจะเป็นเพียงสภาพจิตวิญญาณที่ควบคุมร่างกายที่อยู่ในแดนนภาขั้นสี่ขั้นต้น แต่เขาก็เคยยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกนี้ สามารถทำลายเกราะได้ด้วยเพียงดาบเดียวมันจะเป็นไปได้ยังไง?

แต่ท้ายที่สุดเกราะก็โดนทำลายด้วยดาบเดียวของหยางเฉิน

“ทุกคน ถอยห่างออกไปให้ไกลกว่าหนึ่งพันเมตรเดี๋ยวนี้!”

อยู่ๆ หลิวชิ่งที่เป็นผู้แข็งแกร่งของสำนักเทียนไห่ร้องบอก

ด้วยคำสั่งของเขา นักบูโดของสำนักเทียนไห่กว่ายี่สิบคนก็ถอยกลับไปอย่างรวดเร็ว

“นักบูโดของกองยุทธการจงโจวทุกคน ถอยออกไปให้มากกว่าหนึ่งกิโลเมตร!”

“นักบูโดของทีมนักบูโด ถอยออกไปให้มากกว่าหนึ่งกิโลเมตร!”

ทันทีหลังจากนั้น เย่จางกั๋วและเมิ่งชิงหลันก็ออกคําสั่งตาม

ทุกคนถอยหลังไปภายในไม่กี่นาที

เมื่อครู่ วิญญาณต้าเหนิงในสมัยโบราณใช้ร่างของตู้อวี้ซาน เมื่อเขายกดาบขึ้นมาเกราะกักกันก็ถูกสร้างขึ้น เพราะพยายามที่จะฆ่าทุกคน

ตอนนี้หยางเฉินได้ทลายค่ายกลลงแล้ว พวกเขาต้องหาวิธีหนีออกไปหลายพันเมตรถึงจะรักษาชีวิตไว้ได้

ตู้อวี้ซานไม่สนใจการล่าถอยของทุกคน แต่จ้องมองไปที่หยางเฉินอย่างเคร่งขรึม ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรง

นักบูโดธรรมดาคนหนึ่งในโลกมนุษย์กลับสามารถทําลายเกราะของตนเองได้ สําหรับเขาแล้ว มันคือความอัปยศ

“ฉันจะฆ่านาย!”

ตู้อวี้ซานตะคอกออกมาเสียงดัง

ทันทีหลังจากนั้น พลังของของเขาก็เริ่มแผ่ซ่านออกมาและในไม่ช้า ร่างกายของตู้อวี้ซานก็เต็มไปด้วยเลือด

เห็นได้ชัดว่าร่างกายของตู้อวี้ซานมาถึงจุดสูงสุดเท่าที่จะทนได้แล้ว

อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าวิญญาณต้าเหนิงจากโบราณนั้นไม่มีความตั้งใจที่จะหยุด และพลังที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างกายของเขายังคงเพิ่มขึ้น

ร่างกายของตู้อวี้ซานเต็มไปด้วยรอยแตกที่น่าตกใจ ราวกับว่าพวกมันกำลังจะระเบิดได้ทุกเมื่อ

เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลจากคู่ต่อสู้ สีหน้าของหยางเฉินกลับดูสงบ และเขายกกระบี่โอรสสวรรค์ในมือขึ้นอีกครั้ง และทันใดนั้น พลังกระบี่โอรสสวรรค์ที่น่าสะพรึงกลัวก็ปะทุออกมา

ที่แห่งนี้คล้ายถูกปกคลุมไปด้วยพลังอันน่ากลัวของกระบี่

“กระบี่เก้าสวรรค์กระบวนท่าที่สอง ทำลายล้าง!”

หลังจากเสียงตะโกนของหยางเฉิน กระบี่โอรสสวรรค์ในมือก็ถูกฟันไปทางตู้อวี้ซานอย่างแรง

พลังดาบที่แข็งแกร่งกว่าเดิม ท่วมท้นและส่งตรงไปยังตู้อวี้ซาน

ตู้อวี้ซานดวงตาเป็นสีแดงเลือด ในมือมีตรีศูลสีดำยาวปรากฏขึ้น จู่โจมตั้งรับกระบวนท่าทำลายล้างของกระบี่โอรสสวรรค์

“ครืน!”

ในวินาทีถัดมา เสียงโลหะปะทะกันก็ดังขึ้น

“เคร้ง!”

หลังจากนั้น อาวุธแห่งวิญญาณทั้งสองก็เข้าปะทะกัน และระเบิดพลังทําลายล้างไปทุกทิศทุกทาง

“เคร้งๆๆ!”

ไม่ว่าพลังจะผ่านไปที่ใด วินาทีถัดมาของเหล่านั้นก็จะกลายเป็นผงธุลีในทันที

เย่จางกั๋วและคนอื่นๆสีหน้าเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เขาตะโกนเสียงดัง “ถอยออกไปอีกหนึ่งกิโลเมตร!”

ตามคำสั่งของเขา นักบูโดชั้นสูงของกองยุทธการจงโจวและนักบูโดก็ล่าถอยโดยพร้อมเพรียงกัน

แม้ว่าพวกเขาจะล่าถอยไปแล้ว แต่ก็ยังช้าเกินไป นักบูโดที่อ่อนแอกว่าหลายสิบคนลอยออกไปด้วยพลังของการปะทะกันของอาวุธแห่งวิญญาณทั้งสอง โชคดีที่ไม่มีใครเสียชีวิต

ต่อให้เป็นนักบูโดของสำนักเทียนไห่ ก็ยังรู้สึกว่าตนเองนั้นถูกชกลงบนหน้าอก

เห็นเพียงตําแหน่งที่ตู้อวี้ซานได้ยืนอยู่เมื่อครู่ แผ่นดินพังทลายลงและลงไปเป็นหลุมลึก

ร่างกายของตู้อวี้ซานเลือดไหลไม่หยุด และดูน่าสงสารมาก

“เกร๊ง!”

ทันใดนั้นเสียงโลหะหักก็ดังขึ้น

ภายใต้สายตาที่ตกใจของทุกคน ตรีศูลสีดําในมือของตู้อวี้ซานหัก!

“อาวุธแห่งวิญญาณของตู้อวี้ซานหักแล้ว!”

ทุกคนอุทานด้วยความประหลาดใจ

ดูจากตรีศูลของตู้อวี้ซานก็รู้ ว่านี่เป็นอาวุธแห่งวิญญาณระดับสูง ต่อให้อยู่ที่โลกบู๊โบราณล่าง ก็ยังเป็นอาวุธระดับสูงอยู่ดี แต่ในตอนนี้ มันกลับหัก

อย่างนั้นกระบี่โอรสสวรรค์ของหยางเฉินเป็นอาวุธแบบไหน?

ตู้อวี้ซานมองไปที่หยางเฉินด้วยใบหน้าที่ดุร้าย แววตาของเขาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรง

ในเวลานี้ หยางเฉินที่ลอยอยู่ในอากาศ ใบหน้ากลายเป็นสีซีด เห็นได้ชัดว่า การต่อสู้เมื่อครู่กลืนกินพลังของเขาอย่างมหาศาล

แต่เขาก็ยังพยายามยื้อไว้ไม่ให้ร่างกายร่วงลงไป

เห็นเขาหยิบยาเสริมชี่ออกมากำใหญ่จากนั้นก็กลืนลงไปทั้งหมด ทำเอานักบูโดมองตาค้าง

ในฐานะนักปรุงยา เขาไม่แม้แต่จะเสียดาย

หลังจากกลืนยาเสริมชี่เข้าไปสิบเม็ด สีหน้าของเขาก็ดูดีขึ้นเล็กน้อย

เห็นเพียงว่าเขายกกระบี่โอรสสวรรค์ในมือขึ้นมาอีกครั้ง

“เขายังต่อสู้ต่อได้อีก!”

มีคนอุทานด้วยความตกใจ

ทุกคนรู้ดี กระบวนท่ากระบี่ที่หยางเฉินปล่อยออกไปใช้พลังมากจนน่ากลัว แต่สิ่งที่ได้กลับมาก็คือกระบวนท่าที่มีพลังมหาศาล

กระบวนท่าแรก หยางเฉินทำลายเกราะลง

กระบวนท่าที่สอง หยางเฉินทำให้ตู้อวี้ซานบาดเจ็บหนัก

อย่างนั้นกระบวนท่าที่สาม จะสร้างความประหลาดใจแบบไหนให้ทุกคน?

“ทุกคน ถอยออกไป!”

“ทุกคน ถอยออกไปเดี๋ยวนี้!”

เย่จางกั๋วและเมิ่งชิงหลันตะโกนออกมาแทบจะในเวลาเดียวกัน ออกคำสั่งให้ถอยหลังไป และคราวนี้พวกเขาไม่ได้บอกว่าต้องถอยกี่เมตรด้วยซ้ำ

หยางเฉินยังไม่ทันได้ฟาดกระบี่ พวกเขาก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันมหาศาลที่ไม่สามารถหาอะไรเทียบได้

หลิวชิ่งกัดฟันและตะโกนสั่งทันทีว่า “ทุกคน ถอยอีกพันเมตร!”

ตอนนี้ หยางเฉินยกกระบี่โอรสสวรรค์ขึ้นสูง

“ขวับ!”

สายฟ้าฟาดหลายสายพาดผ่านบนท้องฟ้า เหมือนต้องการจะทำลายกระบวนท่ากระบี่ของหยางเฉิน

ตอนนี้ ตู้อวี้ซานเองก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่น่ากลัว

เขาตะโกนด้วยสีหน้าดุร้ายว่า “ฉันเองก็อยากเห็นว่านายจะสู้ได้อีกกี่น้ำ! มาสิ!”

หยางเฉินลอยอยู่กลางอากาศ ผมสีดําของเขาปลิวไปตามลม เห็นเพียงแค่ดวงตาทั้งสองข้างของเขาย้อมด้วยสีแดงเลือด ลมหายใจที่เหมือนมาจากบุพกาลถูกปล่อยออกมาจากร่างกายของเขา

“กระบี่เก้าสวรรค์ กระบวนท่าที่สาม อภัยโทษ!”

หลังเสียงคํารามของเขา พลังของกระบวนท่ากระบี่ที่น่ากลัวก็ออกมาจากกระบี่โอรสสวรรค์”

หยางเฉินโบกกระบี่โอรสสวรรค์ในมือของเขา แต่สิ่งที่ทําให้ทุกคนประหลาดใจก็คือเมื่อเขาฟันกระบี่ลงไปแล้ว กลับไม่ได้สร้างความบาดเจ็บให้แก่ตู้อวี้ซานแม้แต่นิด

แม้แต่ตู้อวี้ซานเองก็ยังตกตะลึง กระบวนท่าที่ทรงพลังเช่นนี้ กระบวนท่าแรกและท่าที่สองปล่อยพลังที่น่ากลัวออกมามากมาย แต่กระบวนท่าที่สามกลับไม่สร้างความเจ็บปวดใดใดเลย

ทว่าหลังจากแสดงกระบวนท่านี้ออกมา ใบหน้าของหยางเฉินก็ซีดลงเล็กน้อย คล้ายว่าร่างกายของเขาเหมือนถูกดึงพลังออกไปและโอนเอนเล็กน้อย

“ฮ่าๆๆๆ!”

จู่ๆ ตู้อวี้ซานก็หัวเราะเสียงดัง ร่างกายของเขาเกือบลอยขึ้นไปในอากาศ เขาพูดด้วยรอยยิ้มกว้าง “หยางเฉิน นายมาถึงขีดจำกัดของนายแล้ว กระบวนท่าที่สามพละกำลังของนายหมดแล้ว นายจะฆ่าฉันยังไง?”

เหล่านักบูโดชั้นสูงที่อยู่ห่างออกไปหลายกิโลเมตรที่มองมาทางตู้อวี้ซานและหยางเฉิน ต่างก็ชะงัก

“ไม่!”

เซี่ยเหอเปล่งเสียงออกมาอย่างโหดเหี้ยม