บทที่ 2168
แต่เนื่องจากเขาขอให้ตนเองโทรหาเจ้านาย งั้นตนเองจึงสามารถโทรหาเจ้านายได้ และให้เจ้านายเป็นคนมาแก้ไขปัญหานี้
เมื่อคิดถึงจุดนี้ เธอจึงกล่าวอย่างขันแข็งทันทีว่า “งั้นคุณรอสักครู่ ฉันจะโทรหาเจ้านายทันที!”
หลังจากกล่าวจบ เธอรีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดหมายเลขของเจ้านาย
ทันทีที่โทรติด เฉินเสี่ยวเฟยรีบกล่าวว่า “ประธานหลิว ช่วยฉันด้วย ประธานหลิว ฉันเจอปัญหาอยู่ที่หมู่บ้านจูเจียงลี่อยิ่ง……
ประธานหลิวที่กำลังคุยโทรศัพท์ ชื่อหลิวจงฮุยเมื่อก่อนเป็นอันธพาลในพื้นที่ ต่อมามีชื่อเสียงและอิทธิพล แต่ตอนหลังเขาไปเล่นการ
พนันในต่างถิ่น โดยใช้มือข้างหนึ่งของตนเองเป็นเดิมพัน จากนั้นก็ถูกคนอื่นตัดมือขวาจนพิการ
หลังจากที่มือขวาถูกตัด ทำให้เขาไม่สามารถทำมาหากินอยู่ในโลกใต้ดินที่แข็งแกร่งอีกต่อไปได้ เขาจึงรวบรวมกลุ่มคน และจัดตั้งบริษัท
โมเดลลิ่งนี้ขึ้นมา
เหตุผลที่เขาเลือกจะเปิดบริษัทโมเดลสิ่ง เพราะว่าคนที่มาติดต่อทำงานกับบริษันั้นเป็นผู้หญิงทั้งหมด และผู้หญิงทั้งหมดนั้นเป็นผู้หญิง
สวย แต่ครอบครัวไม่มีฐานะกูมิหลังอะไร
เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้หญิงที่ยอมมาทำงานเพื่อแลกค่าแรงไม่กี่ร้อยต่อวัน ครอบครัวจะมีอำนาจและฐานะภูมิหลังได้อย่างไร? หลังจากถูกรังแก
ก็จะไม่มีใครออกมาเรี้ยกร้องให้พวกเธอได้
ด้วยเหตุผลนี้ หลายปีที่ผ่านมา หลิวจงฮุยจึงมีส่วนในธุรกิจการค้าประเวณี
หลังจากที่เขาได้ยินเรื่องราวจากเฉินเสี่ยวเฟยผ่านทางโทรศัพท์ เขารู้สึกโกรธเป็นฟินเป็นไฟขึ้นมาทันที
“แม่งฉิบหาย เงินของผหลิวจงฮุยยั่งมีคนกล้าคิดจะมาแย่งอีก! คุณรอก่อน แม่งผมจะพาคนไปทันทิ!”
เฉินเสี่ยวเฟยเตือนอย่างคลุมเครื่อว่า “ประธานหลิ่ว คุณจะต้องเตรียมตัวให้รัดคลุมด้วย…….”
หลิวจงฮุยยิ้มทันทีและกล่าวว่า “วางใจเถอะ ประจวบเหมาะที่พี่จงเหลียงกำลังดื่มชาอยู่กับผมที่นี่ ผมจะพาพี่จงเหลียงไปพร้อมกัน!”
เฉินเสี่ยวเฟยถามอย่างตื่นต้น “พี่จงเหลียงอยู่ในบริษัทของเราหรือ?”
“ถูกต้อง” หลิวจงฮุยหัวเราะเยาะ “เสี่ยวตี่ที่เซ็นสัญญาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อวานพี่จงเหลียงไปเจอเธอใน KTV พี่จงเหลียงต้องการพาเธอ
ไป ดั่งนั้นเขาจึงเข้ามาคุยกับผม และผมก็ไม่ได้เอาเงินเขา ดังนั้นเขาจึงเป็นหนี้บุญคุณผม ประจวบเหมาะให้เขาช่วยจัดการเรื่องนี้”
เฉินเสี่ยวเฟยรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก และรีบกลำวว่า “โอเค ประธานหลิว ถ้าอย่างนั้นคุณรีบมาเร็ว ๆ!”
หลิวจงฮุยกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เอาล่ะ คุณบอกเขาว่าผมจะไปถึงเร็ว ๆ นี้ ไม่เกินสิบนาที!”
หลังจากที่เฉินเสี่ยวเฟยวางสายแล้ว เธอก็มองเย่เฉินด้วยความลำพองใจ
เธอรู้ดีว่า ถ้าพี่จงเหลี้ยงมาช่วย เย่เฉินเสร็จแน่ ๆ
“หม่าจงเหลียงเป็นคนที่มีชื่อเสียง ไม่มีใครในโลกใต้ดินของเมืองจินหลิงที่ไม่รู้จักเขา?”
“เขาเป็นโฟร์ผู้ยิ่งใหญ่ทนโนของท่านหงห้า! มีลูกน้องใต้บังคับบัญชาหลายพันคน ถึงแม้ว่าคนแช่เย่จะต่อสู้เก่ง แต่สองหมัดยากจะสู้สี่
มือ! ฉันจะคอยรอดูคุณถูกหม่าจงเหลียงทำร้ายจนพิการ!”
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกลำพองอยู่ในใจ แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะเสแสร้งต่อหน้าเย่เฉิน เธอกลับกล่าวอย่างนอบน้อมว่า “คุณเย่ เจ้า
นายบอกว่า เดี๋ยวก็มาถึงแล้ว คุณใจเย็น ๆ รออีกสักครู่……
เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ผมไม่รีบ คนที่ควรรีบคือเจ้านายของคุณ เพราะดอกเบี้นั้นห้าแสนหยวนต่อนาที ถ้าเขาอ้อยอิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ดี
ไม่ดีอาจจะทำให้ครอบครั่วล่มจม”
เฉินเสี่ยวเฟยหัวเราะสองครั้งและด่สาปแช่งอยู่ในใจ “ห้ตายเถอ:! คนโง่อย่างคุณคิดว่าตนเองเป็นใครหรือ? ห้าแสนหยวนต่อนาที แม่ง
ฉิบหายคุณยังกล้าคิดได้ และอีกสักครู่ตอนที่ถูกทำร้ายปางตาย ฉันจะคอยดูว่าคุณจะเสแสร้งอยู่อีกไหม!”
เซียวเวยเวยที่อยู่ข้าง ๆ รู้สึกกังวลเลีกน้อย กระซิบกับเยเฉินว่า “พี่เขย เจ้านายบริษัทของเธอเป็นพวกอันธพาลกลุ่มอิทธิพลมืด ดีไม่ดี
พวกเขาจะพาคนมามากมาย พวกเรารีบไปกันก่อนเถอะ!”
เย่เฉินโบกมือ และกล่าวตัวยสีหน้าที่ตร่งขรึมว่า “ผมจะไปตอนนี้ด้อย่างไร ถ้ผมไปแล้ว ตอนที่เจ้านายของเธอมาถึงแล้วหาผมไม่เจอ
จะทำไงล่ะ?”
“คุณรู้ไหมว่าถ้าเงินจำนวนนี้ลำาช้าไปหนึ่งวัน เจ้านายของเธอจะต้องจ่ายให้ผมเท่าไหร่ หนึ่งนาทีคือห้าแสนหยวน หนึ่งชั่วโมงคือสามสิบ
ล้าน ยี่สิบสี่ชั่วโมงคือเจ็ดร้อยยี่สิบล้าน พวกเราเป็นคนต้องมีหลักการ การโกงคนอื่นเช่นนี้ไม่ได้ รู้ไหม?”
เมื่อเฉินเสี่ยวเฟยได้ยินประโยคนี้ เธอกัมศีรษะลง เอามือปิดหนำา และคิดอยู่ในใจว่า “แม่งฉิมหาย ผู้ชายคนนี้กระโดดออกมาจากหญ้ากอ
ไหน? ช่างเป็นคนที่คุยโวโอ้อวดเสียจริง….. ”