บทที่ 2169
เธออดทนและรอจนถึงสิบห้านาที
สิบห้านาทีต่อมา เมอร์ซเดส-เบนซ์ เอสคลาส ได้ขับมาที่ลานจอดรถที่ประตูทางเข้าหมู่บ้านจูเจียงสี่อิ่ง
ตามมาด้วยรถตู้สิบเอ็ดที่นั่งสองคัน ตอนนี้ ในรถตู้ทั้งสองคันเต็มไปด้วยพวกอันธพาลที่ถือมืดแมเชเท
ทิศทางของรถมาจากด้านหลั่งของเย่เฉิน หลิวจงฮุยที่อยู่ในรถเห็นฉินเสี่ยวเฟย ทำให้เขารู้ทันทีว่าชายที่อยู่ตรงหน้าเฉินเสี่ยวเฟย หรือ
ผู้ชายนั่งอยู่บนรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่หันหลั่งให้ตนเอง ก็คือคนที่มีเรื่องกับเฉินเสี่ยวเฟย
เขาดูถูกเหยียดหยามและแอบบ่นว่า “แค่ไอ้ยาจกที่ขับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า แงฉิบหายยังกล้ามาเสแสรั่งกับตนเองอีกหรือ? วันนี้กำลัง
คันไม้คั่นมือพอดี ดังนั้นตนเองก็จะถือว่าใช้มันทดสอบฝืมือก็แล้วกัน!”
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขานึกถึงคำพูดของเฉินเสี่ยวเฟย ไอ้ยาจกคนนี้ได้ล้มลูกน้องของตนเองไปหกคน ทำให้เขาก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย
เขาคิดอยู่ในใจว่า “ถ้าผู้ชายคนนี้ต่อสู้เก่งจริง ๆ แล้วถ้าเขาต่อยตนเองคว่ำาจะท่ายังไงล่ะ?”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขามองหม่าจงเหลียงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ และกล่าวอย่างประจมว่ “พี่จงเหลียง อีกสักครู่รบกวนต้องลำบากคุณออกหน้าให้
ผมด้วย นับตั้งแต่มือของผมพิการ ช่วงหลายปีที่ผ่านมาคนในกลุ่มอิทธิพลมืดก็ไม่มีใครรู้จักผม และไม่ให้เกียรติผมอีก ไม่เหมือนกับคุณ ที่
สามารถกลายเป็นโฟร์ผู้ยิ่งใหญ่เทนโนที่อยู่ข้างกายท่านหงห้า คนทั่วทั้งเมืองจินหลิงล้วนให้เกียรติคุณ….ㆍ
หม่าจงเหลียงรู้สึกลำพองใจกับคำพูดประจบนี้ และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “จงฮุย มันเป็นแค่ยาจกเลิก ๆ เท่านั้น แต่กลำที่จะมาดูถูกคุณ ก็
เท่ากับดูถูกผมด้วย อิกสักครู่พี่คนนี้จะแก้แค้นให้คุณเอง!”
หลังจากกล่าวจบ คนขับก็จอดรถอยู่ข้าง ๆ เย่เฉิน
หม่าจงเหลียงผลักประตูและลงจากรถทั่นที องมองหลั่งของเเฉิน และด่อย่างเย็นซาว่า “ผมจะดูว่าใครกันที่ไม่ใช้ตาดูให้ดี กล้าที่จะ
มาล่วงเกินพี่น้องของหม่าจงเหลียง!”
ขณะนี้ มีลูกน้องยี่สิบกว่าคนยืนอยู่ข้างหลังหม่าจงเหลียง
คนที่ยืนอยู่ข้างหลังหม่าจงเหลียงนั้นมีลูกน้องของหลิวจงฮุยหลายคน แต่ส่วนใหญ่เป็นลูกน้องของหม่าจงเหลียง
เมื่อเฉินเสี่ยวเฟยเห็นว่าหลิวจงฮุยพาหม่าจงเหลียงมาด้วยจริง (ๆ เธอรู้สึกตื่นเต้น และกล่าวเย้ยหยันเย่เฉินว่า “คนแซ่เย่ แม่งฉิบหายวันนี้
คุณตายแน่นอน! คุณรอถูกพี่จงเหลียงสั่บเป็นชิ้น ๆ เถอะ!”
เซียวเวยเวยกล่าวอย่างประหม่าว่า “พี่เขย…… .คนของพวกมันเยอะมาก……”
เย่เฉินเบะปากและกล่าวเบา ๆ “คนมากแล้วมีประโยชน์อะไร?”
หม่าจงเหลียงไม่สามารถจำเสียงของเฉินได้ทัน นั้นเขาจึงกล่าวด้วยความโมโหว่า “ไหนู คุณหยิ่งผยองมาก! แม้แต่ผมหม่าจงเหลี
ยงก็ไม่อยู่ในสายตาของคุณ ผมรู้สึกว่าคุณเมื่อชีวิตแล้วใช่ไหม!”
ขณะนี้ย่ฉินได้หันกลับมาอย่างซ้ำ ๆ มองไปที่หม่าจงเหลียง และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “โอ้ ที่แท้เป็นพี่จงเหลียงนี่เอง ทำไมล่ะ? พาลูก
น้องมามากมาย จะมาฟันผมหรือ?”
เมื่อหมาจงเหลียงเห็นใบหน้ายิ้มแย้มของเย่เฉิน เขาตกใจจนขวัญหนีดีฝอ!
เขาไม่เคยคิดฝันว่า ยาจกที่หลิวจงฮุยขอให้ตนเองมาช่วยสั่งสอนจะกลายเป็นเเฉิน อาจารย์เที่พี่ใหญ่ของตนเองท่านหงห้าเคารพเป็น
อย่างยิ่ง!
“นี่ แม่งฉิบหายนี่มันเป็นวันชวยอะไรนี่….”.
หม่าจงเหลียงร้องให้อยู่ในใจ จากนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็อ่อนแรงทันที
หลังจากนั้น เขาคุกเข่าลงกับพื้นท่ามกลางสายตาที่ประหลาดใจของทุกคน และกล่าวสะอึกสะอื้นว่า “อาจารย์…อาจารย์เย่……ผมไม่นึก
ว่าจะเป็นคุณ…..คุณเป็นผู้ใหญ่ที่ใจกว้าง ได้โปรดอย่าได้ถือสาสุนัขโง่ ๆ อย่างผมเลย……’
หลิวจงฮุยรู้สึกตกตะลึงและกล่วโพล่งออกไปว่า “พี่จงเหลียง คุณ…..คุณคุกเข่าให้ยาจกทำไม? เขาเป็นตัวอะไร!”
ทันทีที่หม่าจงเหลียงได้ยินประโยคนี้ เขาก็รู้สึกโกรธเป็นฟินเป็นไฟทันทิ!
เขาพยายามลุกขึ้น และเดินไปอยู่ตรงหน้าหลิวจงฮุย จากนั้นใช้มือตบไปที่หน้าของเขาอย่างรุนแรง!
เสียงดังเพียะ หลิวจงฮุยถูกตบจนถอยหลังไปหลายก้าว จนรู้สึกเวียนศีรษะเป็นอย่างมาก