บทที่ 2203

เห็นว่าซูจื่อหยูไม่พูดเถียงอะไรอีก ตู้ให่ชิงจึงถอนหายใจเสียงเบา แล้วเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “จื่อหยู ลูกต้องรู้นะว่า ดวงดาว
ทั้งหมดในกาแล็กซีสองล้านล้านนี้ ยังมีกฎเกณฑ์ของมันโดยเฉพาะ แล้วดวงชะตาของมนุษย์แค่พันล้านกว่าคนล่ะ?”

ขณะพูด เธอก็ประสานมือทั้งสองข้าง แล้วพูดอย่างเคารพว่า “เมื่อก่อนที่แม่ไปไหว้ศาลเจ้า พวกลูกกับคุณฟอก็คิดว่าแม่งมงาย แต่หลัก
ศาสนาก็เคยกล่าวไว้ว่า โลกก็เหมือนเม็ดทราย!”

“ถึงแม้จะมีเม็ดทรายแค่เม็ดเดียว แต่ข้างในกับกว้างขวางไม่มีที่สิ้นสุด!”

“เมื่อเทียบกันแล้ว กาแล็กซี ก็เป็นแค่ม็ดทรายในจักรวาล แล้วข้างในนั้น ก็ประกอบไปด้วยโลกที่กว้างใหญ่”

“อี้จิงเคยสอนมนุษย์เราว่า ทุกสิ่งในจักรวาล ไม่ว่าจะเล็กเหมือนเศษฝุ่นหรือใหญ่เท่าตวงดาว ทุกอย่างมีกฎเกณฑ์ของมันโดยเฉพาะ ลูก
อาจจะไม่เข้าใจ แต่จะดูหมิ่นไม่ได้ เข้าใจไหม?”

ซูจือหยูรีบพยักหน้า แล้วเอ่ยพูดเสียงเขาว่า “แม่คะ หนูเข้าใจแล้วค่ะ ขอโทษนะคะ ก่อนหน้านั้นหนูคิดตื้นเกินไป ไม่เข้าใจฮี้จิงปากั๋ว แล้ว
ก็ไม่เข้าใจเรื่องดวงซะตาด้วย……

ตู้ให่ชิงยิ้มอ่อน แล้วเอ่ยว่า “ทุกสิ่งบนโลกล้วนแต่มีกฎเกณฑ์ทั้งนั้น ขอแค่ลูกหากฎเกณฑ์ของมันเจอ ลูกก้จะเห็นอดีต ปัจจุบัน แล้วก้
อนาคตของมัน”

“เหมือนคนสมัยก่อนที่เรียนรู้เรื่องกฎของตวงดาว ก็เลยสามารถพยากรณ์อากาศได๋”

“ก็เหมือนนักดาราศสตร์ในตอนนี้ ที่รู้กฎเกณฑ์ของดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์ เลยสามารถพยากรณ์สุริยุปราคากับจันทรุปราคาได้ทุก
ครั้ง แล้วยังสามารถพยากรณ์สุริยุปราคากับจันทรูปราคาในอีกพันปีหมื่นปีข้างหน้าได้ด้วย”

“ความสำคัญของอี้จิง ก็เหมือนกำลังสรุปกฎเกณฑ์ระหว่างทุกสิ่งบนโลกกับของมนุษย์”

“ถ้รู้กฎเกณฑ์เหล่านี้ ก็จะมองเรื่องบางเรื่องออก มองอดิต ปัจจุปันแล้วอนาคตของคนคนหนึ่งออก”

“ในเมื่ออาจารย์ส่ายแนะนำลูกว่าอย่าไปตามหาอีก งั้นลูกก็ควรเชื่อฟัง อย่าตามหาอีก ลูกกับพี่ชายลูกเป็นชีวิตของแม่ ครั้งก่อนที่พวกลูก
เกิดเรื่องที่ญี่ปุ่น แม่ก็หัวใจจะวายแล้ว เพราะฉะนั้นตั้งแต่วั่นนี้เป็นตันไป เม่จะไม่ยอมให้เกิดอุบัติเหตอะไรกับลูกๆ อีก”

ซูจือหยูเอ่ยถาม “แม่คะ……แม่ว่าอาจารย์ล่ายจะดูผิดหรือเปล่าคะ?”

จากนั้น เธอก็รีมอธิบายว่า “หนูไม่ได้กำลังสงส์อี้จึงปกั้วนะคะ หนูแค่รู้สึกว่าเรื่องพวกนี้ก็เหมือนโจทย์คณิตศาสตร์ ขอแค่ผิดพลาดนิต
เดียว ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะแตกต่างกันเลย ผิดแค่เลขตัวเดียว คำาตอบที่ได้ก็จะผิดไปด้วย…..”.

ตู่ให่ชิงส่ายหน้า แล้วพูดอย่างจริงจังว่า “โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ หมุนหนี่งรอบต้องใช้เวลาเป็นปี แต่ไม่เคยเกิดความผิดพลาดอะไรเลย

แล้วระบบสุริยะก็หมุนรอบกาแล็กซีทางช้างเผือก หมุนหนึ่งรอบต้องใช้เวลาเป็นสองร้อยห้าสิบล้านปี ก็ไม่เคยเกิดความคลาดเคลื่อนเหมือนกัน นี่
แหละเป็นความเข้มงวดของกฎเกณฑ์!”

“กฎเกณฑ์ของอี้จงแม่นยำเหมือนกฎเกณฑ์ทางดาราศาสตร์ แล้วอาจารย์ล่ายเป็นอาจารย์ที่มีความรู้เรื่องอี้จึงมากที่สุดในตอนนี้ ไม่มี
ทางผิดพลาดแน่นอน!”

“ในเมื่อเขาบอกว่าว่าลูกเหมือนแมลงที่บินเข้ากองไฟ งั้นลูกก็ต้องออกห่างกองไฟ ยิ่งไกลยิ่งดี! ถ้ำลูกไม่เชื่อฟัง ดื้อรั้นจะไปตามหาเขาต่อ
งั้นแม่ก็จะให้พ่อส่งลูกไปต่างประเทศเดี่ยวนี้เลย!”

จากนั้น ตู้ให่ชิงก็พูดอิกว่า “ยังไงมหาลัยฮาร์วาร์ดก็จะเปิดเทอมตอนเดือนสิงหา ตอนนี้ยังมีเวลาอิกครึ่งปี ถ้าลูกไม่เชื่อฟัง ก็รีบไปอยู่ที่นั่น
ก่อนแล้วกัน!”

“ไม่นะคะแม่!” ซูจือหยูรีบพูดอย่างร้อนใจ “ตอนนี้แม่ให้หนูไปอเมริกาคนเดียว หนูไปถึงที่นั่นแล้วแต่มหาลัยยังไม่เปิดเทอม หอพักก็ไปพัก
ไม่ได้ หนูไม่คุ้นเคยอะไรที่นั่นเลย ทำอะไรก็ไม่สะดวกด้วย..

ตู่ให้ซิงพูดอย่างจริงจัง “ไม่มีอะไรไม่สะดวก ปีที่แล้วพอลูกซื้อป้านใกล้มหาลัยฮาร์วรัดไว้แล้ว ถ้าลูกไปก็ไปอยู่ที่นั่น มีทั้งฟอบ้านคนรับ
ใช้ มีผู้ช่วยส่วนตัวด้วย ลูกไปอยู่ที่นั่นสะดวกมากแน่นอน ถ้ำาไม่ได้จริงๆ แม่ก็จะไปกับลูกเอง”

พอซูจือหยูได้ยินประโยคเหล่านี้ จึงรีบเอ่ยขอร้อง “แม่คะ ตอนนี้หนูยังไม่อยากไปที่อมริก……หนูมูจะเชื่อฟังแม่ค่ะ ไม่ตามหาแล้วก็ได้ค่ะ”
ตอนที่พูดประโยคนี้ ในใจซูจื่อหยุก็ยังมีความไม่ถอดใจ……

“ในใจฉัน ต้องไม่ยอมลัมเลิกที่จะดามหาผู้มีบุญคุณอยู่แล้ว……