“มรรควิถีของสหายน้อยฟื้นคืนแล้วหรือ”
นอกจากความตื่นตกใจ อู่ชวนก็อดถามไม่ได้
หลินสวินส่ายหน้า “ยัง ตอนนี้ศักยภาพฟื้นกลับมาประมาณครึ่งหนึ่งเท่านั้น”
ศักยภาพเพียงครึ่งเดียว!
พวกอู่ชวนสบตากัน ต่างอึ้งค้าง ศักยภาพยังไม่ฟื้นคืน ก็สามารถเอาตัวสมเสร็จนิมิตกาฬนั่นมาเล่นบนฝ่ามือได้ดั่งใจแล้ว หากศักยภาพฟื้นคืนมาอย่างสมบูรณ์จะแข็งแกร่งเพียงใด
“ผู้อาวุโสไว้ชีวิตด้วย ข้ายอมจำนน ขอเพียงผู้อาวุโสเมตตาไว้ชีวิตข้า!”
ในฝ่ามือของหลินสวิน สมเสร็จนิมิตกาฬที่ร่างกายย่อขนาดลงหลายเท่าอ้อนวอน ตัวสั่นระริก เชื่องยิ่งกว่ากระต่ายเสียอีก
“ที่แห่งนี้ปกคลุมอยู่ในหมอกสีเลือด พลังระเบียบที่แตกสลายกระจายอยู่ เจ้าเข้าออกที่นี่ได้ตามต้องการได้อย่างไร” หลินสวินถาม
นี่ก็คือเหตุผลที่เขาไม่ได้ฆ่าสมเสร็จนิมิตกาฬให้ตายในทันที
“เมื่อหลายปีก่อนข้าน้อยบังเอิญได้รับแหวนกระดูกวงหนึ่งใกล้ๆ สระเทพตกแห่งนี้ เมื่อใส่มันก็ไม่ต้องกลัวพลังคำสาปบริเวณสระเทพตกจู่โจมอีก”
สมเสร็จนิมิตกาฬเห็นได้ชัดว่าซื่อสัตย์มาก ว่าแล้วก็อ้าปากคายแหวนกระดูกออกมา
ของสิ่งนี้เหมือนตีขึ้นจากกระดูกสัตว์บางชนิด พื้นผิวหยาบกระด้าง เรียบง่ายไร้ความหรูหรา แต่ถือไว้ในมือกลับหนักอึ้ง หนักถึงหมื่นชั่ง
แวบเดียวหลินสวินก็มองออก ว่าภายในแหวนกระดูกนี้มีพลังระเบียบสายหนึ่งพวยพุ่งอยู่ เห็นชัดว่ามีที่มาเดียวกับพลังระเบียบที่กระจัดกระจายอยู่ในหมอกสีเลือด
“ในสระเทพตกมีหญ้าวิเศษที่เกิดจากการดูดซับพลังระเบียบจริงหรือ” หลินสวินเก็บแหวนกระดูกแล้วพูดเรื่อยๆ
สมเสร็จนิมิตกาฬกล่าว “ข้าน้อยก็ไม่รู้ชัด แต่หลังจากได้รับแหวนกระดูกวงนี้ข้าน้อยก็มักจะฝัน ว่าในฝันส่วนลึกของสระเทพตกนั่นมีหญ้าเทพต้นหนึ่งส่ายไหวไปมาอยู่ในน้ำ ใบไม้ทุกใบล้วนมีลายมรรคกฎระเบียบแปลกประหลาดล้อมรอบ…”
หลินสวินคล้ายขบคิด กล่าวว่า “เหตุใดเจ้าไม่เข้าไปดูเอง”
สมเสร็จนิมิตกาฬพูดอึกอัก “ข้าน้อยเคยหยั่งเชิงอยู่ครั้งหนึ่ง แต่เกือบประสบเคราะห์”
“ตัวเองกลัวตายจึงหลอกล่อให้พวกข้ามาที่นี่หรือ” ชาวบ้านคนหนึ่งกล่าวโทษอย่างเดือดดาล
สมเสร็จนิมิตกาฬพูดอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม “หากไม่ใช่เพราะพวกเจ้ามีความคิดจะฆ่าข้า จะถูกหลอกมาถึงที่นี่ได้อย่างไร”
พวกอู่ชวนต่างพูดไม่ออก
“ถ้าอย่างนั้นหากข้าฆ่าเจ้า กลับเป็นการทำให้เจ้าตายอย่างไม่ยุติธรรมหรือ”
หลินสวินเหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้ม
สมเสร็จนิมิตกาฬรีบส่ายหน้าพูดโอดครวญ “ผู้อาวุโสมาเพื่อช่วยคน จุดยืนไม่เหมือนกัน แม้ฆ่าข้าน้อยไปก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพียงแต่ผู้อาวุโสโปรดเห็นแก่ที่ข้าน้อยสำนึกผิดแล้ว ไว้ชีวิตข้าน้อยสักครั้ง”
ฝ่ามือของหลินสวินมีแสงมรรคไหลเคลื่อน กลายเป็นประทับผนึกสายหนึ่งพุ่งเข้าสู่ร่างสมเสร็จนิมิตกาฬ อีกฝ่ายส่งเสียงครวญเจ็บปวด ร่างกายกระตุกอย่างรุนแรงครู่ใหญ่ถึงกลับสู่ความสงบ
“ขอบคุณผู้อาวุโสที่ไว้ชีวิต!” สมเสร็จนิมิตกาฬเผยสีหน้าเคารพ
“ต่อไปเจ้าจะต้องอยู่ที่หมู่บ้านเงาเมฆา เป็นสัตว์พิทักษ์ที่แห่งนี้ ภายในหนึ่งพันปี พลังผนึกที่ข้าทิ้งไว้ในร่างของเจ้าก็จะสลาย”
หลินสวินกล่าว “เพียงแต่หากเจ้าเกิดคิดไม่ซื่อระหว่างนี้ จะต้องจิตสิ้นวิญญาณสลายในทันทีอย่างแน่นอน เจ้าเข้าใจหรือไม่”
สมเสร็จนิมิตกาฬพยักหน้าแรงๆ ในใจถอนหายใจยาว เวลาพันปีเท่านั้น สำหรับมันยังรอไหว
“ผู้ใหญ่บ้าน จัดการเช่นนี้ดีหรือไม่” หลินสวินถาม
อู่ชวนยิ้มพูดอย่างเบิกบาน “ดีที่สุดแล้ว”
“เช่นนั้นก็เอาแบบนี้ไปก่อน แต่ก่อนจะไปจากที่แห่งนี้จะต้องลำบากทุกคนสักหน่อย”
หลินสวินว่าพลางสะบัดแขนเสื้อ เก็บพวกอู่ชวนและสมเสร็จนิมิตกาฬนั่นเข้าไปด้วยกัน
จากนั้นสายตาของเขามองไปยังสระเทพตกที่อยู่ข้างๆ ในดวงตาลึกล้ำเผยประกายน่ากลัว
ครู่หนึ่งหลังจากนั้น
วู้ม!
เมื่อความคิดหลินสวินขยับไหว เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งทะยานอกมา แสงมรรคมากมายไหลหลั่ง พุ่งลงไปในสระเทพตกนั่น
น้ำสีดำในสระพลุ่งพล่านรุนแรง ในคลื่นน้ำปรากฏพลังระเบียบสีเลือดที่แปลกประหลาดน่ากลัวเป็นสายๆ ประหนึ่งสายฟ้าแดงก่ำแน่นขนัดอย่างไรอย่างนั้น
หลินสวินเห็นแล้วยังอดตกใจไม่ได้ ไม่แปลกที่ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันไม่มีคนสามารถรอดชีวิตออกจากที่นี่ได้ เพราะแค่พลังระเบียบเหล่านี้ก็สามารถเอาชีวิตระดับอมตะได้แล้ว!
ตูม!
น้ำในสระพลุ่งพล่านรุนแรง เหมือนเดือดพล่านอย่างไรอย่างนั้น ระเบียบสีเลือดที่แตกละเอียดเป็นสายๆ พุ่งโจมตีเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง แต่กลับเหมือนแพะเข้าปากเสือ ไม่ว่าโจมตีมาเท่าไหร่ ล้วนถูกระเบียบนิพพานกลืนกินไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว
ระเบียบสีเลือดที่ถูกกลืนกินไปเหล่านี้ล้วนกลายเป็น ‘สิ่งหล่อเลี้ยง’ อย่างหนึ่ง เพิ่งเข้าสู่โลกที่แปลงจากระเบียบนิพพาน ก็ถูกวิญญาณระเบียบอู๋ซวง ระเบียบมรรคเซียน ระเบียบนรกแย่งกันหลอมจนหมด
กับเรื่องนี้หลินสวินไม่เห็นว่าเป็นเรื่องแปลกนานแล้ว ถึงขั้นที่เขายังตั้งชื่อให้กับระเบียบมรรคเซียนและระเบียบนรกว่า ‘เสี่ยวเซียน’ และ ‘เสี่ยวหมิง’…
หรือก็คือ ระเบียบนิพพานในตอนนี้เหมือนร่างแม่ร่างหนึ่ง อู๋ซวง เสี่ยวเซียน เสี่ยวหมิงถูกหล่อเลี้ยงอยู่ภายใน
พลังระเบียบที่ร่างแม่กลืนกิน ในขณะที่ส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงของร่างแม่ ก็หล่อเลี้ยงพลังระเบียบที่แตกต่างกันโดยสมบูรณ์อีกสามชนิดไปด้วย
และระเบียบนิพพานก็อยู่ในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งมาโดยตลอด เกิดการแผ่ซึมและหล่อหลอมที่ละเอียดอ่อนอย่างหนึ่งต่อเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งอย่างไร้รูป เมื่อเวลาผ่านไปสมบัติชิ้นนี้ก็ยิ่งไม่ธรรมดา
ตูม โครม…
ท่ามกลางคลื่นที่พลุ่งพล่าน เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง ค่อยๆ มาถึงส่วนลึกของสระเทพตกนั่น
ที่เหนือความคาดหมายของหลินสวินคือ สระเทพตกลึกมาก กระทั่งไปถึงความลึกเก้าพันกว่าจั้ง ด้วยพลังของเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง ทำให้ในที่สุดเขาก็เห็นเงาแสงเขียวมรกตที่ลึกลับสายหนึ่ง
ที่ก้นสระมีโครงกระดูกสมบูรณ์ที่ขาวซีดร่างหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่ เห็นได้ชัดว่าตอนมีชีวิตอยู่เป็นเผ่ามนุษย์
แต่กลางศีรษะของเขากลับปรากฏรูกระบี่หนึ่งรู!
เงาแสงเขียวมรกตนั่นก็ปักอยู่ในรูกระบี่นี้ เมื่อมองอย่างละเอียด นี่ถึงกับเป็นหญ้าเทพเขียวมรกตที่ไหวเอนต้นหนึ่ง ปิ่งใบแหลมคมราวกับกระบี่ มีสิบแปดใบเต็ม ทุกใบล้วนมีพลังกฎระเบียบรัดพัน แผ่กลิ่นอายคำสาปที่แดงก่ำน่ากลัวออกมา
ราวกับว่าแค่เปื้อนเพียงเล็กน้อยก็จะได้รับคำสาปที่ชั่วร้ายที่สุดในโลก ส่งผลให้จิตมารถือกำเนิด กายสิ้นมรรคสลาย
‘นี่ถึงกับเป็นความจริง…’
ในใจหลินสวินสะท้านไหว หญ้าเทพที่ถือกำเนิดภายใต้การหล่อเลี้ยงของพลังระเบียบต้นหนึ่ง!?
นี่เหลือเชื่อมากอย่างไม่ต้องสงสัย
สิ่งที่ทำให้หลินสวินประหลาดใจมากกว่าคือ ครั้งนี้ระเบียบนิพพานถึงกับเคลื่อนไหวก่อน แปลงเป็นลวดลายดอกบัวลึกลับ เข้าปกคลุมหญ้าเทพเขียวมรกตนั้นไว้ภายใน
ตูม!
ชั่วขณะนี้แม้แต่สระเทพตกยังปั่นป่วนรุนแรง มีสัญญาณพังทลายอยู่กลายๆ
“หืม?”
บนห้วงอากาศเหนือเทือกเขาที่ห่างจากสระเทพตกไกลโพ้นแห่งหนึ่งปรากฏเงาร่างสูงเพรียวอรชรร่างหนึ่ง ผมยาวขาวดั่งหิมะทั้งศีรษะ ผิวพรรณชุ่นฉ่ำ คิ้วตางดงาม สวมเสื้อคลุมนกกระเรียนสีม่วงเข้ม เอวบางใช้มือเดียวโอบรอบ หน้าอกอวบอิ่มน่าภาคภูมิเป็นอย่างยิ่ง
เพียงแต่สีหน้าของนางกลับเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง แววตาก็เย็นชาเสียดกระดูก ทำให้รูปลักษณ์ที่งดงามอย่างที่สุดแฝงความน่าเกรงขามน่าหวาดหวั่น
ตอนนี้นางเหมือนสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง ริมฝีปากแดงเหยียดขึ้นเล็กน้อย เผยรอยยิ้มประหลาด ครู่ต่อมาเงาร่างที่สง่างามไร้ที่ติของนางก็เคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศออกไป
ตูมโครม!
บริเวณที่สระเทพตกตั้งอยู่ระเบิดออกกะทันหัน เทือกเขารอบๆ ทรุดทลาย พลังโหมซัดพวยพุ่ง ปั่นป่วนฟ้าดิน ทลายชั้นเมฆทั่วทิศ
ที่ตามมาติดๆ คือเงาร่างหลินสวินที่ประหนึ่งรุ้งเทพสายหนึ่ง เคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศไป
ตอนนี้ในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งของเขามีหญ้าเทพเขียวมรกตที่ถูกระเบียบนิพพานกำราบไว้อยู่ แผ่กลิ่นอายคำสาปแดงก่ำ
โครงกระดูกที่หญ้าเทพฝังรากอยู่ก่อนหน้านี้ รวมถึงสระเทพตก ล้วนถูกทำลายและสลายไปหมดแล้ว
หลินสวินคิดไม่ถึงว่าการมาเพื่อช่วยพวกผู้ใหญ่บ้านในคราแรก กลับทำให้ได้รับศุภโชคที่เหลือเชื่อโดยไม่คาดคิด
หากเขาคาดเดาไม่ผิด หญ้าเทพเขียวมรกตนั่นก็คือสิ่งที่แปลงจากพลังต้นกำเนิดของระเบียบคำสาป คุณลักษณะสูงมาก ไม่ใช่พลังที่ระเบียบระดับปฐพีเทียบได้อย่างแน่นอน
เพียงแต่เป็นระดับอะไรกันแน่หลินสวินก็ไม่รู้ชัด เขาตัดสินใจว่าหลังจากกลับหมู่บ้านเงาเมฆาจะตรวจสอบดูสักรอบ
ทว่าตอนที่หลินสวินเตรียมจะจากไป กลางอากาศไกลๆ ปรากฏเงาร่างที่อรชรงดงามสายหนึ่งโดยพลัน ภายใต้เสื้อคลุมนกกระเรียนสีม่วงเข้มเป็นเรือนร่างที่งดงามไร้ที่ติ หน้าอกเอิบอิ่มปิดบังไว้ไม่อยู่
เพียงแต่สีหน้าของนางเย็นชาเกินไป สายตาก็ดุร้ายน่ากลัว คนทั่วไปคงไม่กล้าจับจ้องพิจารณาด้วยซ้ำ
หลินสวินอึ้งเล็กน้อย เก็บสายตากลับมาจะหมุนตัวจากไป
แต่กลับถูกหญิงงามคนนี้ขวางทางไว้ เอ่ยว่า “เจ้าเป็นคนเด็ดหญ้าเทพต้องสาปในสระเทพตกไปหรือ”
เสียงเจือแววดึงดูดอันเป็นเอกลักษณ์ ต่ำลึกและเต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม เห็นชัดว่าเป็นอานุภาพที่บ่มเพาะจากการที่อยู่บนตำแหน่งสูงมาเป็นเวลานาน และทำให้รู้ว่าที่มาของผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา
หญ้าเทพต้องสาปหรือ
หลินสวินเลิกคิ้ว มองไปยังผู้หญิงคนนั้นอีกครั้งแล้วเอ่ยว่า “นี่คืออะไร”
หญิงงามขมวดคิ้วเอ่ยว่า “นี่เจ้าจะแกล้งทำเป็นไขสือหรือ”
หลินสวินยิ้มกล่าว “ข้าไขสือหรือไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า เจ้ารีบถอยไปตอนนี้จะดีที่สุด ไม่เช่นนั้นก็รับผลที่ตามมาเอง”
เขาก้าวเท้าเดินไปเบื้องหน้า
หญิงงามขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม เห็นหลินสวินเดินมาทีละก้าว นางสูดหายใจลึกคราหนึ่ง หน้าอกที่นูนสูงนั่นเหมือนจะระเบิดออกจากเสื้อ
ทว่าที่เหนือความคาดหมายคือ สุดท้ายนางก็หลีกทาง
หลินสวินเหลือบมองนางแวบหนึ่งแล้วเอ่ย “ฉลาด”
พูดจบเขาก็เอามือไพล่หลัง เดินไปอย่างผ่าเผย
มองดูเงาร่างเขาลับตาไป ใบหน้าหยกที่เผยความเย่อหยิ่งเย็นเยียบของหญิงงามเองก็อึมครึมไม่สามารถสงบได้
ในฐานะหนึ่งในสี่รองเจ้าสำนักแห่งสำนักศึกษาอันดับหนึ่งของแดนทุ่งบูรพา หญิงงามผู้นี้เรียกได้ว่าอำนาจบารมีล้นฟ้าในน่านฟ้าที่หนึ่ง ชื่อเสียงสะเทือนทั่วหล้า ตอนนี้ภายในใจกลับไม่สามารถสงบได้
เทือกเขาเทพตกเป็นเพียงแค่เทือกเขาขนาดใหญ่แห่งหนึ่งที่อยู่ห่างไกลของเมืองหลิวเขียวเท่านั้น ทุรกันดารมาก และเมืองหลิวเขียวก็เป็นแค่หนึ่งในสามร้อยหกสิบเมืองของแคว้นเมฆวารี
ส่วนแคว้นเมฆวารี ก็เป็นหนึ่งในแคว้นมากมายของแดนทุ่งบูรพา
ด้วยฐานะของนาง อย่าว่าแต่ในหมู่บ้านห่างไกลนี้ แม้ในแคว้นเมฆวารี เจ้าแคว้นที่ปกครองแคว้นเห็นนางยังต้องเคารพนับถือ ยกย่องนางปานเทพ!
แม้แต่เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ที่มีอำนาจบารมีในแดนทุ่งบูรพายังต้องยอมนาง!
แต่ตอนนี้ในถิ่นทุรกันดารเช่นนี้ กลับได้รับการปฏิบัติอย่างไร้มารยาทเพียงนี้ ทำเอาก่อนหน้านี้นางแทบอดลงมือไม่ได้
แต่สุดท้ายนางก็ทนไว้
เพราะตั้งแต่แวบแรกที่เห็นคนผู้นั้น ในจิตใต้สำนึกของนางก็ไม่สามารถควบคุมความรู้สึกอันตรายที่เกิดขึ้นได้แล้ว!
——