“อยู่ที่เมืองจินหลิง?!”

เมื่อหวังตงเสวี่ยนได้ยินคำพูดนี้ ก็อดที่จะเคียดแค้นไม่ได้!

ทันใดนั้น เธอก็เกรี้ยวกราดดูแคลนออกมา “คนที่ทำทุกวิถีทางทำร้ายพ่อของฉัน ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่! หัวหน้าซุนค่ะ ได้โปรดคิดหาวิธี จับคนนี้มาดำเนินคดีให้ได้นะคะ!”

ซุนเหวินปินพยักหน้า กล่าวอย่างตั้งใจว่า “คดีอาญาที่ต้องสงสัยลอบฆ่าแบบนี้ เป็นคดีใหญ่ที่ต้องดำเนินคดีอย่างแน่นอน พวกเราจะพยายามสุดความสามารถไขคดีให้เร็ว!”

พูดพลาง เขาอดที่จะถอนหายใจไม่ได้แล้วกล่าว “เฮ้อ แต่เพราะตอนนี้เบาะแสที่มียังน้อยมาก ผมรับประกันเรื่องเวลาไม่ได้ครับ”

หวังตงเสวี่ยนพยักหน้าเบาๆ แล้วกล่าว “เรื่องนี้ฉันทราบค่ะ…”

ซุนเหวินปินกล่าวต่อว่า “อ้อคุณหวัง คุณช่วยผมนึกย้อนกลับไปหน่อย ว่าพัสดุนี้ได้รับมาวันไหนแน่ พวกเราจะได้ดึงคลิปกล้องวงจรปิดของรอบๆในช่วงเวลานั้นมา หาคนส่งพัสดุคนนี้ให้ได้ก่อน!”

หวังตงเสวี่ยนคิดไปคิดมา กล่าว “ช่วงก่อนตรุษจีนฉันยุ่งกับทำงานมาก จำไม่ค่อยได้จริงๆค่ะ คุณรอฉันแป๊บนะคะ ฉันโทรหาแม่ของฉัน ถามเธอว่าจำได้มั้ย”

“ครับ!”

หวังตงเสวี่ยนรีบเอามือถือยกมาที่ตรงหน้า เตรียมจะโทรหาแม่ ในขณะนี้เพิ่งพบว่า ที่แท้สายของเย่เฉินยังไม่ได้วางเลย และตัวเลขของเวลาสนทนายังเพิ่มไปไม่หยุด แสดงว่าตอนนี้ยังอยู่ในการสนทนาอยู่

เธอเคร่งเครียด รีบหยิบขึ้นมา แล้วพูดกับเย่เฉินว่า “ขอโทษค่ะคุณชาย เมื่อกี๊มีเรื่องด่วนนิดหน่อย ดังนั้น…”

ขณะนี้เย่เฉินได้ยินขั้นตอนทั้งหมดของการสนทนาของเธอกับหัวหน้าซุนคนนั้นแล้ว ด้วยเหตุนี้เขาจึงใช้น้ำเสียงที่จริงจัง กล่าวว่า “ตงเสวี่ยน บอกที่ตั้งบ้านของคุณให้ผม!”

หวังตงเสวี่ยนกล่าวอย่างร้อนรนว่า “คุณชายคะ เรื่องของครอบครัวฉัน ไม่รบกวนคุณดีกว่าค่ะ…”

เย่เฉินกล่าวอย่างเย็นชาว่า “บอกที่ตั้งผมมา ผมจะไปเดี๋ยวนี้!”

หวังตงเสวี่ยนได้ยินน้ำเสียงของเย่เฉินเคร่งขรึมมาก แว็บเดียวก็ถูกพลังของเขากดไว้ ทำได้เพียงพูดเสียงเบาว่า “บ้านของฉัน…บ้านของฉันอยู่ที่หมู่บ้านคฤหาส์ชิงสุ่ยเฟสสองตึก11ค่ะ…”

เย่เฉินพยักหน้า กล่าว “ผมรู้จักหมู่บ้านนี้ครับ อยู่ไม่ไกลจากผมสักเท่าไหร่ อีกสิบนาทีถึงครับ!”

ได้ยินเย่เฉินจะมา หวังตงเสวี่ยนรู้สึกกระวนกระวายใจไม่มากก็น้อยขึ้นมาแล้วบ้าง

เธอรู้ตัวตนสูงส่ง และเรื่องของตระกูลของเย่เฉิน จึงไม่อยากรบกวนเย่เฉินจริงๆ

แต่ เธออดที่จะคิดไม่ได้ เพราะเย่เฉินเป็นคนที่มีอำนาจมาก เขาไม่เพียงเป็นคุณชายของตระกูลเย่ ยังเป็นอาจารย์เย่ที่สังคมชั้นสูงเลื่อมใสอีกด้วย ถ้าเขายอมช่วยเหลือ งั้นเปอร์เซ็นต์และศักยภาพของการเจอฆาตกร น่าจะเพิ่มขึ้นทั้งหมด

เมื่อนึกถึงจุดนี้ เธอไม่สับสนอะไรอีกต่อไป ตกลงอย่างเด็ดขาดว่า “ได้ค่ะคุณชาย ฉันรอที่ประตูนะคะ!”

เมื่อวางสาย หวังตงเสวี่ยนได้โทรหาแม่ที่อยู่ที่โรงพยาบาล

หลังจากที่แน่ใจเวลาที่พ่อได้รับหนังสือเล่มนั้นแล้ว ตำรวจก็เริ่มค้นหาจากคลิปกล้องวงจรปิด ดูว่าสามารถล็อกตัวคนที่ส่งพัสดุได้หรือไม่ เมื่อเจอคนนี้ ก็สามารถตามเบาะแสหาคนร้ายที่บงการอยู่เบื้องหลังได้

ในขณะเดียวกัน ซุนเหวินปินก็เสนอให้ช่วงนี้หวังตงเสวี่ยนอย่าอาศัยที่บ้าน เพราะ นี่ได้ขึ้นสู่จุดสูงของคดีอาญาแล้ว และอีกฝ่ายมีทักษะการอำพราง เกิดเขาอยากคิดจะลงมือกับหวังตงเสวี่ยน เกรงว่าหวังตงเสวี่ยนจะป้องกันไว้ไม่อยู่

หวังตงเสวี่ยนยอมรับความเห็นของซุนเหวินปิน ตัดสินใจคืนนี้ย้ายไปนอนที่โรงพยาบาล กับแม่ดูแลพ่อที่โรงพยาบาลด้วยกันโดยตรง

ขณะเดียวกัน ซุนเหวินปินก็รับปากจะส่งเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบมาสองสามคน สอดส่องลับๆที่โรงพยาบาล ป้องกันฆาตกรลงมือกับครอบครัวของพวกเธออีกครั้ง

เมื่อเจ้าหน้าที่เทคนิคของกองบังคับการสอบสวนอาชญากรรมรวบรวมหลักฐานเสร็จ ซุนเหวินปินก็พาทีมงานกลับ