สุดสัปดาห์นี้ ชนชั้นสูงทั้งเย่นจิง ได้ระเบิดบล็อกบัสเตอร์อีกครั้ง
ตู้ไห่ชิงภรรยาของซูโสว่เต้าลูกชายคนโตของตระกูลซู ไปที่เมืองจินหลิง ทั้งๆที่ยังไม่ได้หย่ากับซูโสว่เต้า!
อีกทั้ง ที่เธอไปเมืองจินหลิง เพื่อรำลึกถึงเย่ฉางอิงที่ตายไปเกือบยี่สิบปีแล้ว!
สิ่งที่น่าทึ่งไปกว่านั้นก็คือ ตู้ไห่ชิงจะไปเข้าร่วมการประมูลของสำนักอัยการในสุดสัปดาห์นี้ เพื่อประมูลบ้านเก่าที่เย่ฉางอิงเคยพักอาศัย!
หรือว่า เธอจะทำเพื่อเห็นของก็ระลึกถึงคน?!
หรือว่า เธอจะรักเย่ฉางอิงอย่างสุดจิตสุดใจ?!
ไม่อย่างนั้น เย่ฉางอิงจากไปนานหลายปีขนาดนี้ แต่ทำไมยังด้อยค่าความรักของเย่ฉางอิง?
อีกทั้ง จากรูปถ่ายที่ตู้ชิงไห่ถูกแอบถ่าย เธอเศร้าเสียใจมาก ในตอนที่เลนส์ถ่ายภาพไกลจับภาพใบหน้าอันงดงามของเธอไว้ และยังจับภาพที่น้ำตาไหลออกมาทั้งสองข้าง
จากการกระทำของตู้ไห่ชิง ชนชั้นสูงในเย่นจิง เข้าใจเรื่องนี้ได้ในทันที
นั่นก็คือ ที่แท้หลายปีมานี้ตู้ไห่ชิงยังคงลืมเย่ฉางอิงไม่ได้ ถึงเธอจะแต่งงานกับซูโสว่เต้ามายี่สิบกว่าปีแล้วก็ตาม อีกทั้งยังมีลูกชายกับลูกสาวอย่างละหนึ่งคนกับซูโสว่เต้า!
ผ่านไปครู่หนึ่ง ชนชั้นสูงทั่วทั้งเย่นจิง ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก
อีกด้านหนึ่งผู้คนก็พากันตกใจที่ตู้ไห่ชิง มีความรู้สึกต่อเย่ฉางอิงลึกซึ้งดุจดั่งมหาสมุทร
อีกด้านหนึ่งก็หัวเราะเยาะซูโสว่เต้า หลายปีมานี้เขาไม่เคยชนะความรักที่แท้จริงของตู้ไห่ชิงได้ ในหัวใจของตู้ไห่ชิง เขาสู้คนที่ตายไปแล้วยี่สิบปีไม่ได้เลย!
เดิมทีครอบครัวซูที่ถูกคนทั้งโลกล้อเลียนและเยาะเย้ยเพราะเหตุการณ์หักหลังซูรั่วหลี มันจึงทำให้มีเรื่องตลกใหม่ๆขึ้น!
ซูเฉิงเฟิงที่อยู่ในคฤหาสน์ของเย่นจิง ซูเฉิงเฟิงขว้างเครื่องลายครามอันล้ำค่าหลายชิ้นด้วยความโกรธ!
หลังจากที่เสียงแตกของเครื่องลายครามเงียบลง เขาก็ตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว“ตู้ไห่ชิงคนนี้ วิ่งแจ้นไปเมืองจินหลิงในเวลาแบบนี้ เพื่อไปในที่ที่คนตายอย่างเย่ฉางอิงเคยอยู่ อีกทั้งยังแสร้งร้องไห้ แม่งนี่มันเป็นการตบหน้าคนของตระกูลซูของเราชัดๆ!”
ซูโสว่เต้าไม่อยู่ในประเทศ ดังนั้น ตัวแทนของตระกูลซูรุ่นต่อไป จึงกลายเป็นซูโสว่เต๋อน้องชายของเขา ตอนนี้ ซูโสว่เต๋อพูดด้วยใบหน้าโกรธเคือง“พ่อ!นังผู้หญิงที่แซ่ตู้คนนี้ทำเกินไปแล้วจริงๆ คิดไม่ถึงว่าพี่ชายของผมที่แต่งงานกับเธอมานานหลายปีขนาดนี้ ยังไม่รอให้ ไอ้คนอกตัญญูคนนั้นเลี้ยงโต!”
“ตอนนี้ตระกูลซูของเรากำลังอยู่ในช่วงที่ลมและคลื่นใหญ่ที่สุด เธอกลับทำเรื่องหน้าไม่อายสร้างปัญหาให้เราเพิ่มอีก หล่อนจงใจทำลายเกียรติยศและศักดิ์ศรีตระกูลซูของเรา!”
ซูโสว่ซิ่นรีบพูดเสริมขึ้นมาว่า“จริงด้วยพ่อ!ผมคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าพี่สะใภ้จะทำเรื่องที่ไม่รักษาจรรยาบรรณของสตรีเพศ!พี่ชายผมยังไม่ได้หย่าขาดกับเธอด้วยซ้ำ!”
ซูโสว่หลี่รีบพูดขึ้นมาว่า“พ่อ!การที่พี่สะใภ้ไปเยี่ยมบ้านเก่าของเย่ฉางอิงยังไม่ถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรงอะไร สิ่งที่ร้ายแรงที่สุดก็คือ ถ้าพี่สะใภ้ตัดสินใจซื้อบ้านของเย่ฉางอิงขึ้นมาจริงๆ ตระกูลของเราคงต้องเอาหน้าไปกวาดพื้นแน่!”
จริงด้วย!ซูโสว่เต๋อพึ่งรู้สึกตัว จึงรีบก่นด่าออกมาว่า“แม่งเอ้ย!นังผู้หญิงสารเลว!ยังไม่ได้หย่าขาดกับพี่ชายฉัน ก็วิ่งแจ้นไปซื้อที่อยู่ที่ไอ้เย่ฉางอิงคนที่ตายไปแล้วเคยพัก นี่มันหมายความว่ายังไงวะ?หรือคนที่ตายไปแล้ว20ปีคนหนึ่ง ดีกว่าพี่ใหญ่ของฉันงั้นหรอ?ถึงพี่ใหญ่ของฉันจะใช้ไม่ได้ยังไง คงไม่แย่ไปกว่าไอ้คนที่ตายไปแล้วคนหนึ่งหรอกมั้ง?”
คำพูดของซูโสว่เต๋อ ไม่เพียงก่นด่าตู้ไห่ชิงผู้เป็นพี่สะใภ้ ยังด่าไปถึงซูโสว่เต้าผู้เป็นพี่ใหญ่อีกด้วย
คำพูดที่มีความหมายที่แฝงไว้ของเขา เพราะเขาอยากให้คุณท่านรู้ว่า พี่ใหญ่ของเขาเป็นเศษสวะคนหนึ่ง เป็นขยะที่จัดการผู้หญิงของตัวเองไม่ได้ กระทั่งยังสู้เศษสวะที่เป็นคนตายไม่ได้ด้วยซ้ำ!
แน่นอนว่าคุณท่านใหญ่ซูได้ยินความนัยที่แฝงอยู่ในสิ่งที่ซูโสว่เต๋อพูด
วิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เขารู้สึกเห็นด้วยกับคำพูดของซูโสว่เต๋อ
50ปีมานี้ เขาไม่เคยเป็นเหมือนตอนนี้ ที่โกรธลูกชายคนโตของตัวเองขนาดนี้มาก่อน!