เฉินจื๋อข่ายคิดไม่ถึงจริงๆ เย่เฉินรอมาตั้งนาน และต้องการคฤหาสน์หลังเก่านี้มากๆ แต่เขากลับพูดว่ายอมแพ้

ตัวเขาเองอดเป็นห่วงเย่เฉินไม่ได้ และรีบพูดทันที:”คุณชาย คุณต้องการคฤหาสน์หลังนี้มากๆ และคิดจะซื้อคฤหาสน์หลังนี้มานานแล้ว ตอนนี้พวกเราเหลืออีกเพียงก้าวเดียว คุณจะยอมแพ้แบบนี้ไม่ได้! ถ้าในอนาคตคุณรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ซื้อมันเอาไว้ มันก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว…”

เย่เฉินถอนหายใจเบาๆและโบกมือ พูดอย่างจริงจัง:”ไม่เอาแล้ว ไม่เอาคฤหาสน์หลังนี้แล้ว ตอนนี้ดูเหมือนว่าคุณน้าคนนี้จะต้องการคฤหาสน์หลังนี้มากกว่าฉัน”

ขณะพูด เย่เฉินถอนหายใจเบาๆและพูด:”คฤหาสน์หลังนี้เป็นสถานที่ที่ฉันและพ่อแม่เคยอาศัยมาก่อน แต่ฉันไม่มีความกล้าที่จะยืนออกมาและนั่งอยู่ที่ห้องโถงของงานประมูลเพื่อเข้าร่วมการประมูลคฤหาสน์หลังนี้ แต่น้าตู้คนนี้ เธอกล้าที่จะแสดงตัวและนั่งอยู่ในห้องโถงและร่วมการประมูล จากเรื่องนี้ ก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเธอเก่งกว่าฉันมากๆ และเธอมีคุณสมบัติมากกว่าฉันที่จะได้ครอบครองคฤหาสน์หลังนี้”

เย่เฉินนับถือตู้ไห่ชิงมากๆจากใจจริง

ตอนนี้ คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นคุณชายของตระกูลเย่ ไม่รู้ว่าตัวเองคือสายเลือดของเย่ฉางอิงที่เหลืออยู่บนโลกนี้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง เขาไม่ได้เปิดเผยว่าตัวเองเข้าร่วมการประมูลในครั้งนี้ แม้แต่ตอนลงทะเบียนเขาก็ใช้ชื่อคนขับรถของเฉินจื๋อข่าย

จากจุดนี้ก็เห็นได้อย่างชัดเจน เขานับถือความกล้าของตู้ไห่ชิงมากๆ

ตามคำกล่าวที่ว่า สุภาพบุรุษต้องไม่ขัดขวางสิ่งที่คนอื่นปรารถนา ดังนั้น เย่เฉินจึงตัดสินใจ ยอมแพ้การประมูลครั้งนี้ และยกคฤหาสน์หลังนี้ให้ตู้ไห่ชิง

ถึงแม้ฉันจะไม่รู้จักตู้ไห่ชิง แต่ฉันก็รู้ว่าตู้ไห่ชิงรักพ่อของฉันมากๆมาหลายปีแล้ว แต่เธอกลับไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดๆกับพ่อของฉันเลย

บางทีคฤหาสน์หลังนี้ อาจจะทำให้เธอรู้สึกสบายใจและมองเห็นความรักที่เธอมีให้พ่อของฉันมาสามสิบกว่าปี

นี่คือสิ่งที่ฉันสามารถทำให้พ่อของฉันที่เสียชีวิตไปแล้ว และขอบคุณความรักที่เธอมีต่อพ่อของฉันมาหลายสิบปี

ในเวลานี้ การประมูลในห้องโถงก็ยังคงดำเนินอยู่

คนขับรถของเฉินจื๋อข่ายยังไม่ได้รับคำสั่งให้ยอมแพ้ เมื่อตู้ไห่ชิงให้ราคาหกสิบล้านหยวน เขาก็ยกป้ายประมูลอีกครั้ง และให้ราคาหกสิบเอ็ดล้านหยวน

ในสมองของเย่เฉินนึกถึงคฤหาสน์หลังเก่านี้ทันที เขาก็ถอนหายใจ ยืนขึ้นและพูดกับเฉินจื๋อข่าย:”บอกคนขับรถ ให้เขายอมแพ้ได้แล้ว”

เมื่อพูดจบ เขาก็ใส่แมสปิดปาก หันหลังและออกจากห้องทันที

ในเวลาเดียวกัน ตู้ไห่ชิงยกป้ายประมูลอีกครั้งโดยไม่ลังเล และพูด”หกสิบสองล้านหยวน!”

เมื่อเฉินจื๋อข่ายเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็รีบตามไปทันที เขารีบเดินตามและหยิบโทรศัพท์แล้วส่งข้อความเสียงไปให้คนขับ:”ยอมแพ้การประมูลครั้งนี้ คุณไม่ต้องเสนอราคาอีกแล้ว!”

ขณะที่คนขับกำลังจะยกป้ายประมูลขึ้น จู่ๆเขาก็ได้รับข้อความเสียง และเปิดฟังทันที ลำโพงมีคำพูดเมื่อสักครู่ของเฉินจื๋อข่ายดังออกมา ดังนั้นเขาก็เลยรีบเอาป้ายประมูลลงมาทันที

พิธีกรประมูลตื่นเต้นมากๆ เมื่อเห็นเขายกป้ายประมูลขึ้นและวางลง ก็รีบถามทันที:”ผู้ประมูลหมายเลข 22 ไม่ทราบว่าคุณต้องการเสนอราคาหรือไม่?”

คนขับรถพูดทันที:”ฉันยอมแพ้”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ จู่ๆตู้ไห่ชิงก็รู้สึกดีใจขึ้นมาทันที เธอรู้สึกเหมือนยกก้อนหินออกจากอก

หลังจากนั้น พิธีกรงานประมูลตะโกนเสียงดังทันที:”หกสิบสองล้านครั้งที่หนึ่ง! หกสิบสองล้านครั้งที่สอง! หกสิบสามล้านครั้งที่สาม! การประมูลครั้งนี้สำเร็จ!”

หลังจากนั้น เขาก็ใช้ค้อนประมูลที่อยู่ในมือ ทุบลงที่โต๊ะทันที

เมื่อได้ยินเสียงตุ๊บนี้ ทำให้ตู้ไห่ชิงดีใจมากๆจนร้องไห้ออกมา

หลายวันมานี้ เพื่อคฤหาสน์หลังนี้ เธอกินไม่ได้และนอนไม่หลับ และคิดอย่างเดียวว่าต้องประมูลคฤหาสน์หลังนี้ให้ได้ และเธอก็กังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น

ตอนนี้ ทุกอย่างเป็นไปตามที่เธอปรารถนาแล้ว

ถึงแม้ราคาของคฤหาสน์หลังนี้จะสูงมากๆกว่าราคาที่มันควรจะเป็น แต่สำหรับตู้ไห่ชิง คฤหาสน์หลังนี้มันประเมินค่าไม่ได้

ตั้งแต่เธอยังเป็นสาวแรกรุ่น ก็หลงรักเย่ฉางอิงแล้ว จนถึงเย่ฉางอิงแต่งงานและเสียชีวิต ความรักที่เธอมีต่อเย่ฉางอิงไม่เคยลดลงเลยแม้แต่นิดเดียว