ในเวลานี้ ที่เมืองจินหลิง

มีผู้ชายสวมแมสคนหนึ่ง ปรากฏตัวที่หน้าประตูทางออกของรถไฟฟ้าใต้ดิน

หน้าประตูทางออกของรถไฟฟ้าใต้ดินมีกล้องวงจรปิดจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเป็นกล้องวงจรปิดของรถไฟฟ้าใต้ดิน อีกส่วนหนึ่งเป็นกล้องวงจรปิดของกรมตำรวจในเมืองจินหลิง และมีกล้องวงจรปิดคุณภาพสูง มีฟังก์ชันจดจำใบหน้าด้วย

หลายปีมานี้ เทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีจดจำใบหน้าไม่ได้มีเพียงแค่ในภาพยนตร์ เพราะตอนนี้มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีในชีวิตของคนธรรมดาทั่วไปแล้ว

ไม่เพียงแค่โทรศัพท์มือถือที่รองรับระบบจดจำใบหน้า สิ่งสำคัญที่สุดคือกรมตำรวจก็ใช้ระบบจดจำใบหน้านี้เชื่อมโยงเข้ากับระบบฐานข้อมูล

ความสามารถสูงสุดของระบบนี้ก็คือ สามารถคัดกรองใบหน้าของผู้คนจากฐานข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว

อย่างเช่น คนหลายร้อยคนที่เดินผ่านมา ถ้าในกลุ่มคนจำนวนนี้มีนักโทษอาชญากรปะปนอยู่ ถ้าต้องพึ่งพาเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อตรวจสอบทีละคน ประสิทธิภาพที่ได้จะน้อยมากๆ และมีแนวโน้มจะหาตัวอาชญากรไม่เจอ

แต่ตอนนี้มีระบบจดจำใบหน้า เมื่อมีคนหลายร้อยเดินผ่านอย่างรวดเร็ว ระบบจะสามารถระบุตัวตนของคนหลายร้อยคนได้โดยผ่านระบบจดจำใบหน้า

ในเวลาเดียวกัน ระบบจะตรวจสอบตัวตนของคนหลายร้อยคนทันที ถ้าในนี้มีนักโทษหนีคดี ผู้ต้องสงสัย ทางกรมตำรวจก็จะได้ข้อมูลแจ้งเตือนจากระบบนี้อย่างรวดเร็ว

ตัวอย่างที่พบบ่อยที่สุดคือ นักร้องชาวฮ่องกงที่มีชื่อเสียงมาจัดคอนเสิร์ตที่จีนแผ่นดินใหญ่ การจัดคอนเสิร์ตในแต่ละครั้ง ทางตำรวจสามารถจับนักโทษหนีคดีได้หลายคนจากจำนวนผู้ชมหลายหมื่นคน

ทำไมถึงมีประสิทธิภาพสูงเช่นนี้?

ทั้งหมดเพราะอาศัยระบบจดจำใบหน้าที่มีประสิทธิภาพ!

ดังนั้น เมื่อเทคโนโลยีในปัจจุบันพัฒนามากขึ้น อาชญากรที่ทำผิดกฎหมายและต้องการหลบหนีจากการโดนดำเนินคดี หลบหนีได้น้อยลงเรื่อยๆ

ในเวลานี้ ผู้ชายที่สวมแมสคนนี้ มองไปรอบๆ จากนั้นก็เอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋า หยิบซองบุหรี่ที่แบนๆและยู่ยี่ออกมา

เขาเปิดซองบุหรี่ออก พบว่าด้านในไม่มีบุหรี่เลยสักม้วน ดังนั้นเขาก็เลยเดินไปที่ตู้กระจกขายบุหรี่แบบเคลื่อนที่ตรงทางเข้าสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน พูดด้วยน้ำเสียงต่ำกับคนขายบุหรี่:”เถ้าแก่ ขอบุหรี่จงฮั๋วซองหนึ่ง”

เถ้าแก่รีบถามทันที:”เอาแบบอ่อนหรือแบบเข้ม?”

ผู้ชายคนนั้นพูดทันที:”เอาแบบอ่อน”

เถ้าแก่หยิบบุหรี่จงฮั๋วแบบอ่อนจากตู้กระจกออกมาและยื่นไปให้เขา พูดว่า:”หกสิบห้าหยวน”

ชายคนนั้นหยิบร้อยหยวนให้เถ้าแก่และพูดเบาๆว่า:”ไม่ต้องทอนเงิน”

เถ้าแก่ดีใจมากๆ และยิ้มออกมาทันที:”โอ้โห ขอบคุณมากๆ!”

ชายคนนั้นหยิบซองบุหรี่ ในขณะที่เขาหันหลัง เขาได้แกะถุงพลาสติกใสที่อยู่ด้านนอกของซองบุหรี่ จากนั้นก็ฉีกซองบุหรี่ที่ด้านขวา

หลังจากนั้น เขาก็ใช้นิ้วมือเคาะไปที่ซองบุหรี่ด้านซ้าย ด้านขวาที่มีรอยฉีดก็มีบุหรี่หนึ่งม้วนค่อยๆไหลออกมา

เขาหยิบบุหรี่ม้วนนี้ออกมา จากนั้นก็ถอดแมสปิดหน้าออก เผยให้เห็นใบหน้าที่ดุร้ายป่าเถื่อน

เขาคาบบุหรี่ไว้ที่ปาก หลังจากจุดไฟก็สูบบุหรี่เข้าไปเต็มปอดหนึ่งครั้ง จากนั้นก็หันซ้ายหันขวาเพื่อดูสภาพแวดล้อมโดยรอบ

เมื่อเขาเหลือบไปมองเห็นกล้องวงจรปิดที่อยู่ด้านหน้าประตูทางออกรถไฟฟ้าใต้ดิน และเขาก็เผยรอยยิ้มที่มุมปากออกมาทันที

เขาหลบหนีคดีมาสามปีแล้ว

ในระยะเวลาสามปีมานี้ เขาใช้ชีวิตอย่างกับผีที่ไม่มีตัวตน หลบซ่อนตัวตลอดเวลา ทำให้เขารู้สึกเหนื่อยมากๆ

เขากำลังหาโอกาสที่จะเดินทางออกนอกประเทศ ถ้าทำได้เขาคงโล่งใจอย่างแน่นอน แต่เขาไม่มีความสามารถที่จะหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศ และเขาก็ไม่มีโอกาสแบบนี้ด้วย

ดังนั้นเขาทำได้เพียงอดมื้อกินมื้อและหลบซ่อนตัวตลอดเวลา

สิ่งเดียวที่ทำให้เขารู้สึกสบายใจก็คือ เขากับคนในครอบครัวมีวิธีติดต่อกันที่เป็นความลับ การติดต่อแบบนี้ แม้แต่ตำรวจก็ไม่รู้

เพราะการติดต่อที่เป็นความลับแบบนี้ ทำให้คนในครอบครัวของเขาติดต่อมาเมื่อสองวันก่อน บอกกับเขาว่ามีคนยอมจ่ายเงินสิบล้านหยวน ให้เขาไปฆ่าคนๆหนึ่ง เมื่อทำเรื่องนี้สำเร็จ พวกเขาจะหาวิธีส่งเขาออกนอกประเทศ

เนื่องจากคนในครอบครัวได้รับเงินสิบล้านหยวนแล้ว ดังนั้นเขาก็เลยดีใจและรับงานนี้ทันที