อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกเหนื่อยกับการอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆ เพื่อหาเงินให้ครอบครัวสิบล้านหยวน และให้โอกาสตัวเองได้หลุดพ้นจากการหลบๆซ่อนๆแบบนี้ ทำให้เขาไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ

ดังนั้น เขาก็เลยออกเดินทางมาที่จินหลิงตั้งแต่เมื่อคืน เพื่อเตรียมตัวเดิมพันครั้งนี้!

จากข้อมูลของผู้ว่าจ้าง เขาต้องหากล้องวงจรปิดและเปิดเผยตัวเอง จากนั้นก็หนีไปที่เจินเป่าเก๋อ

ตอนนี้ สิ่งที่เขากำลังทำอยู่คือเปิดเผยตัวเอง ทำให้ตำรวจของจินหลิงรู้ว่าเขามาที่นี่แล้ว!

ขณะนี้ ในห้องของกองบัญชาการตำรวจเมืองจินหลิง

ระบบจดจำใบหน้าของกรมตำรวจได้มีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเห็นมัน ก็รู้สึกตกใจทันที!

หน้าจอคอมพิวเตอร์ ระบบแจ้งเตือนได้ปรากฏขึ้นพร้อมกับข้อความหนึ่งบรรทัด:”จากการตรวจสอบระบบจดจำใบหน้า นักโทษอาชญากรระดับAที่ชื่อว่าหลิวจ้านปรากฏตัวในเมืองของเรา โปรดยืนยันข้อมูลทันที!”

เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่รีบเปิดวิดีโอจากกล้องวงจรปิดขึ้นมาดู เมื่อมองอย่างละเอียด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที รีบหยิบโทรศัพท์ฉุกเฉินบนโต๊ะและพูดทันที:”นักโทษอาชญากรระดับAที่ชื่อหลิวจ้านปรากฏตัวที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินลี่ตงของเมืองเรา! รีบดำเนินการจับกุมตัวด่วน!”

ทำให้กรมตำรวจของจินหลิงวุ่นวายขึ้นมาทันที!

ตอนนี้นักโทษอาชญากรระดับAปรากฏตัวที่เมืองจินหลิง เป็นเรื่องที่ตำรวจท้องถิ่นไม่อยากเจอที่สุด เพราะถ้าอาชญากรคนนี้ทำเรื่องเลวร้ายขึ้นที่เมือง ไม่เพียงประชาชนจะได้รับความเดือดร้อน ตำรวจท้องถิ่นก็จะต้องแบกรับแรงกดดันมหาศาลจากสังคมด้วย!

ดังนั้น ทางกรมตำรวจระดมตำรวจทั้งหมดของเมือง และตัดสินใจจับกุมหลิวจ้านทันที

และในเวลานี้ โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าหน้าอกมีข้อความเข้ามาทันที:”ตำรวจของเมืองจินหลิงรู้ว่าคุณมาที่นี่แล้ว! มีรถสายตรวจกำลังวิ่งไปจับคุณ ลองสังเกตด้านขวาของคุณ ห่างจากคุณไปแปดร้อยเมตร!”

เมื่อหลิวจ้านอ่านข้อความจบ เขาก็กัดฟันตัวเอง และมองไปที่ด้านขวาทันที

ผ่านไปไม่นาน รถสายตรวจคันหนึ่งก็ปรากฏตัวในสายตาของเขา และมันก็ขับใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

แต่รถสายตรวจคันนั้นไม่ได้เปิดไฟและไม่ได้เปิดเสียงไซเรน และดูเหมือนรถสายตรวจคันนี้ไม่ได้ปฏิบัติภารกิจฉุกเฉิน

แต่หลิวจ้านรู้ดีแก่ใจ คนว่าจ้างเขาเป็นคนที่มีอำนาจและความสามารถมากๆ ในเมื่ออีกฝ่ายพูดว่ารถสายตรวจคันนี้มาเพื่อจับกุมตัวเขา มันคงเป็นเรื่องจริงอย่างแน่นอน

เขามองเห็นรถสายตรวจยิ่งอยู่ก็ยิ่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทำให้เขาตกใจมากๆ

เขาไม่ได้รีบร้อนที่จะหลบหนี เพราะเขารู้ดี ผู้ว่าจ้างต้องการให้เขาโดนตำรวจไล่ตามจนเขาต้องหลบหนีเข้าไปที่เจินเป่าเก๋อที่อยู่ข้างๆ และไม่ใช่ตัวเองวิ่งไปที่เจินเป่าเก๋อเอง

ดังนั้น เขาก็เลยยืนสูบบุหรี่ และสูบบุหรี่ไปเรื่อยๆ ในเวลาเดียวกันก็คำนวณระยะทางและเวลา

ตำแหน่งที่เขายืนอยู่ในตอนนี้ อยู่บนทางเท้า และมันก็สูงกว่าถนน และบนทางเท้าก็มีจักรยานสาธารณะให้เช่าเป็นจำนวนมาก

ดังนั้น หลังจากที่รถสายตรวจวิ่งเข้ามา รถสายตรวจไม่สามารถขับมาจอดด้านหน้าของเขาได้ รถสายตรวจจำเป็นต้องจอดอยู่ริมถนน จากนั้นก็วิ่งเข้ามาจับตัวเขา

ระยะทางสิบกว่าเมตรที่ต้องวิ่งเข้ามา มันมีโอกาสที่เขาจะวิ่งหลบหนีได้

เขารู้ว่าในย่านใจกลางเมืองที่ผู้คนพลุกพล่านขนาดนี้ ตำรวจไม่กล้ายิงปืนอย่างแน่นอน ดังนั้นเมื่อมีระยะทางสิบกว่าเมตรนี้ และเขาวิ่งออกไปก่อนตำรวจ ตำรวจไม่สามารถไล่จับเขาทันอย่างแน่นอน และตัวเองก็สามารถวิ่งหลบหนีเข้าไปในเจินเป่าเก๋อได้อย่างแน่นอน

เมื่อเป็นเช่นนี้ ตำรวจไล่ตาม และตัวเองก็พยายามหลบหนี และพุ่งเข้าไปที่เจินเป่าเก๋อทันที

ในเวลานี้ รถสายตรวจคันนั้นเข้ามาใกล้เขามากๆแล้ว เขาแสร้งทำเป็นตกใจเมื่อเห็นรถสายตรวจ เมื่อเห็นรถสายตรวจกำลังจอดที่ริมถนน เขาก็เริ่มถอยหลังด้วยความระมัดระวังทันที

ในเวลานี้ ประตูของรถสายตรวจถูกเปิดออก มีตำรวจหลายคนแสร้งทำตัวมาลาดตระเวนตามปกติ และพวกเขาก็ลงจากรถสายตรวจอย่างช้าๆ เพื่อทำให้หลิวจ้านตายใจ จากนั้นก็หาโอกาสประชิดตัวและจับกุมตัวเขา

แต่ท่าทางของหลิวจ้านดูตกใจมากๆ เขารีบสูบบุหรี่เต็มปอดอีกครั้ง และโยนก้นบุหรี่ไปที่พื้น หันหลังและวิ่งหนีทันที

ตำรวจหลายคนกำลังเข้าใกล้อย่างเงียบๆ แต่พวกเขาคาดคิดไม่ถึงจริงๆว่าหลิวจ้านจะกลัวขนาดนี้ หนึ่งในตำรวจรีบตะโกนทันที:”หลิวจ้าน หยุดเดี๋ยวนี้!”

หลิวจ้านไม่กล้าหันศีรษะกลับไปมอง เขาวิ่งไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง

ตำรวจหลายๆคนรีบวิ่งตามทันที

หลิวจ้านอาศัยที่ตัวเองเริ่มวิ่งก่อน พาตำรวจวิ่งวนอยู่สองรอบ จากนั้นก็วิ่งไปที่เจินเป่าเก๋อที่อยู่ไม่ไกล!

ตำรวจที่เป็นหัวหน้ารีบวิ่งตามทันที ในขณะเดียวกันก็รายงานผ่านวิทยุสื่อสาร:”หลิวจ้านไหวตัวทันแล้ว เมื่อมองเห็นพวกเขาก็วิ่งหนีทันที ตอนนี้เขาวิ่งเข้าไปที่เจินเป่าเก๋อแล้ว! ตอนนี้ขอกำลังเสริมด่วนเพื่อปิดล้อมเจินเป่าเก๋อเอาไว้ และดำเนินการจับกุมตัวหลิวจ้านให้ได้!”