เวลาเดียวกัน เย่เฉินที่อยู่บนฮอล์ ได้เห็นรถของหลิวจ้านวิ่งเข้าไปในอุโมงค์ และมีรถบรรทุกสองคันวิ่งตามเข้าไป จากนั้น ก็เห็นรถหลายคันเกิดอุบัติเหตุเป็นกระจุกอยู่ตรงทางเข้า
มองแค่ปราดเดียวเย่เฉินก็รู้แล้ว ว่ารถเหล่านี้จงใจให้เกิดอุบัติเหตุ
ดังนั้น เย่เฉินจึงพูดกับเฉินจื๋อข่ายว่า “รถสองสามคันนี้น่าจะจงใจปิดถนน ฉันว่าพวกเขาต้องลงมือในอุโมงค์แน่ๆ! รีบขับไปที่ทางออกของอุโมงค์อีกด้าน!”
เฉินจื๋อข่ายไม่กล้าเอ่ยปากถามข้อสงสัย “ได้ครับคุณชาย! จะบินต่ำลงและพุ่งเข้าไปเดี๋ยวนี้!”
…
ณ ขณะนี้ หลิวจ้านที่เข้ามาในอุโมงค์จู่ๆก็พบว่าทางข้างหน้า ถูกรถคอนเทนเนอร์สองคันจอดขวางทางเอาไว้ เขารับรู้ได้ในทันทีว่าได้เวลาลงมือแล้ว
ในแผนที่วางเอาไว้ เขาต้องฆ่าตู้ไห่ชิงและซูจือหยูตรงนี้ จากนั้นคนของตระกูลซูจะสร้างข่าวว่าสองคนนี้ตายเพราะเปิดประตูโดดลงจากรถ
ส่วนหลิวจ้าน ก็จะขับรถหลบหนีเข้าไปในรถคอนเทนเนอร์
เมื่อเป็นแบบนี้ คนภายนอกก็จะคิดว่าสองแม่ลูกนี้่ตายเพราะโดดออกจากรถ ส่วนหลิวจ้านยังคงหลบหนีต่อไป
ดังนั้น หลิวจ้านจึงผ่อนความเร็วลง พร้อมกันนั้นก็ยกปืนขึ้นเล็งไปที่ตู้ไห่ชิงและซูจือหยูที่นั่งอยู่ตรงเบาะหลัง แล้วเอ่ยพูดขึ้นมาว่า “ขอโทษด้วยนะ สาวสวยทั้งสอง คงต้องส่งพวกแกไปที่ชอบๆด้วยกันแล้วล่ะ!”
“อะไรนะ!” ตู้ไห่ชิงเอ่ยพูดอย่างลนลาน “ตระกูลซูเล่นงานแค่ฉันคนเดียว ลูกสาวของฉันไม่เกี่ยว ได้โปรดปล่อยลูกสาวฉันไปเถอะ!”
ซูจือหยูเองก็ตื่นตระหนก จึงหลุดปากพูดไปว่า “ถ้าจะฆ่าก็ฆ่าแค่ฉัน แล้วปล่อยแม่ฉันไป!”
หลิวจ้านขมวดคิ้วอย่างตะลึง มองมาที่ตู้ไห่ชิงแล้วถามว่า “แกรู้ได้ยังไงว่าเป็นตระกูลซู? หรือว่าแกรู้อะไรมาก่อนหน้าแล้ว?”
ซูจือหยูที่อยู่ข้างๆพูดอย่างร้อนใจ “ต้องมีการเข้าใจผิดกันแน่ๆ ฉันนามสกุลซูและก็เป็นคนของตระกูลซู ผู้นำตระกูลคนปัจจุบันคือปู่ของฉันเอง ตระกูลซูไม่มีทางทำอะไรฉันแน่ มันต้องมีการเข้าใจผิดกันเกิดขึ้นแน่นอน ขอร้องล่ะนายโทรไปยืนยันกับพวกเขาเพื่อความแน่ใจก็ได้!”
หลิวจ้านแสยะยิ้ม “ฉันได้รับการยืนยันตั้งนานแล้ว สิ่งที่พวกเขาต้องการก็คือชีวิตของแกสองคน ห้ามเว้นใครไว้เด็ดขาด เพราะงั้นพวกแกไม่ต้องขอร้องให้กันและกันแล้วนะ เรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้ว พวกแกหนีไม่พ้นหรอก!”
ขณะที่พูด หลิวจ้านก็ชี้ไปที่รถคอนเทนเนอร์ที่จอดขวางอยู่ตรงทางข้างหน้า เอ่ยพูดยิ้มๆว่า “อีกอย่างพวกแกอย่าคิดที่จะเปิดประตูกระโดดออกไปจากรถเชียวล่ะ คนพวกนี้เตรียมการกันพลาดเอาไว้หมดแล้ว พวกเขาจะเอาชีวิตของพวกแกให้ได้!”
“พวกแกอยู่ในมือฉัน อย่างน้อยฉันก็จะฆ่าพวกแกอย่างประณีประนอม แต่ถ้าพวกแกตกอยู่ในมือของพวกเขา ฉันเดาว่าพวกเขาคงเห็นพวกแกเป็นลูกโบว์ลิ่ง ลากพวกแกไปกับพื้นถนนจนหัวสมองเละ แยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร!”
เมื่อซูจือหยูได้ยินแบบนี้ ก็ร้องไห้ออกมาเสียงหลง “แม่คะ! ทำไมคุณพ่อกับคุณปู่ต้องทำอย่างนี้…”
ตู้ไห่ชิงกอดซูจือหยูเอาไว้ พยายามกลั้นน้ำตา แล้วพูดเสียงกลั้วสะอื้นว่า “จือหยู แม่ขอโทษ แม่ทำให้แกต้องเดือดร้อนไปด้วย…”
หลิวจ้านเล็งปืนมาที่ตู้ไห่ชิง เอ่ยพูดเสียงนิ่งว่า “ไม่ควรให้คนผมหงอกส่งคนผมดำไปก่อน เพราะงั้นคงต้องลำบากแกแล้วล่ะ แกไปก่อนแล้วกัน!”
ตู้ไห่ชิงรู้ว่าครั้งนี้ยังไงตัวเองก็คงไม่รอด เธอรู้สึกสงสารลูกสาว พร้อมกันนั้นก็รู้สึกผิดต่ออีกฝ่ายเป็นอย่างมาก
ตอนนี้เธอยอมรับชะตากรรมแล้ว ลูบหัวซูจือหยูไปพลาง ร้องไห้ไปพลาง “จือหยู ขอโทษนะ…แม่ขอโทษ…แกอย่าโกรธแม่เลยนะ….”
ซูจือหยูร้องไห้ปานใจจะขาด “แม่…ฉันไม่โกรธแม่…”
หลิวจ้านถอนหายใจออกมา “ไอหยา สาวสวยตั้งสองคน ฆ่าให้ตายคงน่าเสียดายแย่ แต่ว่าฉันช่วยอะไรไม่ได้หรอกนะ เพื่อให้ตัวเองมีชีวิตรอด ฉันจำเป็นต้องให้พวกแกสองคนตายจริงๆ!”
ขณะที่พูด เขาก็เตรียมลั่นไก เพื่อปลิดชีวิตตู้ไห่ชิง
แต่ว่าในตอนนี้เอง เขาที่หันมาทางบาะหลัง จู่ๆก็เห็นเงาดำขนาดใหญ่วิ่งตรงเข้ามาด้วยความเร็วผ่านกระจกใสหลังรถ!
เขาเพ่งมอง พร้อมกับอุทานออกมาว่า “เชี่ยแม่ง! มันอะไรกันวะเนี่ย ? ไม่ใช่ว่าพวกนั้นต้องปิดทางอยู่ข้างหลังเหรอ? ทำไมขับพุ่งเข้ามาแบบนี้?”