หลิวจ้านมองเห็นเงาดำพุ่งเข้ามาจากข้างหลังด้วยความเร็ว มันคือรถบรรทุกที่เดิมทีควรเกิดอุบัติเหตุจอดขวางทางเอาไว้!
รถสองคันนั้นขับมาด้วยความเร็ว ทั้งยังขับมาแบบตีคู่ กินพื้นที่บนถนนไปทั้งหมด เมื่อเห็นว่าระยะห่างใกล้รถโรลด์รอยซ์เข้ามาเรื่อยๆ ก็ไม่มีทีท่าว่าจะเบรกเลยสักนิด
คราวนี้หลิวจ้านตกใจจนหน้าถอดสี
ถึงยังไงเขาก็เป็นคนที่มีไหวพริบตอบสนองต่อสิ่งรอบตัวเป็นอย่างดี ดังนั้นจึงรับรู้ได้ในทันทีว่ามีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป!
เขาพึมพำในใจว่า “ก่อนหน้านี้ ทุกอย่างยังอยู่ในแผนที่ฉันกับตระกูลซูวางไว้นี่นา!”
“ทั้งเรื่องที่ตำรวจหาตัวฉันเจอ ทั้งเรื่องที่ฉันถูกไล่ล่าเข้าไปในหอเพชรนิลจินดา ทั้งเรื่องที่ฉันจับตัวตู้ไห่ชิงกับซูจือหยูมาเป็นตัวประกัน รวมไปถึงเรื่องที่ฉันพาสองคนนี้หนีมาด้วย ทุกอย่างต่างก็อยู่ในแผนทั้งนั้น!”
“แต่ว่า มีแค่รถบรรทุกสองคนตรงหน้านี้ ที่อยู่นอกเหนือจากแผนเดิมที่วางเอาไว้!”
“พวกนั้นไม่ควรมาปรากฏตัวที่นี่สิ…”
“การที่รถสองคนนั้นขับมาที่ฉันด้วยความเร็วแบบนี้ มองแค่ปราดเดียวก็รู้แล้วว่าไม่ใช่ลางดี!”
หลิวจ้านไม่ใช่คนโง่
เขาเคยเห็นข่าวและคลิปรถขนาดใหญ่เกิดอุบัติเหตุในทีวีบ่อยๆ
จึงรู้ว่ารถบรรทุกที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงมีพลังทำลายล้างมากที่สุด
รถบรรทุกหลายสิบตัน วิ่งมาด้วยความเร็วที่เกินกว่าหนึ่งร้อยกิโลเมตร แรงพุ่งชนของมันต่อให้เป็นรถถังก็ไม่สามารถต้านทานได้
ถ้าเป็นรถคันเล็กๆ ก็คงถูกชนจนปลิวว่อน!
ที่น่ากลัวไปกว่านั้นก็คือ ทางข้างหน้าไม่มีที่ให้หนีเลย!
ถ้าทางข้างหน้าไม่มีอะไรมาขวาง จากความแรงและความเร็วของรถโรลส์รอยซ์แล้ว รถบรรทุกข้างหลังทำได้แค่วิ่งตามตูดแน่ๆ!
แต่ทว่า ทางขางหน้ากลับมีรถสองคันนั้นมาจอดขวางเอาไว้ เขาจึงหนีไปไหนไม่ได้เลย!
เมื่อเห็นว่ารถบรรทุกสองคันนั้นขับใกล้เข้ามาเรื่อยๆ หลิวจ้านโกรธตาแทบแตก กัดฟันกรอดพร้อมสบถด่าว่า “แม่งเอ้ย!คิดไม่ถึงเลยว่าตระกูลซูจะกลับกลอกแบบนี้ ที่ให้ฉันมาฆ่าพวกแก ที่แท้ก็เพราะคิดจะฆ่าฉันด้วย!พอหมดประโยชน์ตระกูลซูก็คิดที่จะกำจัดทิ้งอย่างนั้นเหรอ!”
ตอนแรกซูจือหยูคิดว่า หลิวจ้านจะฆ่าแม่ตัวเองทิ้งซะ
แต่เธอคิดไม่ถึงเลยว่า จู่ๆหลิวจ้านจะมองไปทางข้างหลัง แล้วด่าทอตระกูลซูด้วยความกรุ่นโกรธ
ดังนั้นเธอจึงหันไปมองข้างหลังโดยอัตโนมัติ จึงเห็นรถบรรทุกคันใหญ่สองคันขับเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
จากสติปัญญาของเธอ จึงเข้าใจสถานการณ์ในตรงหน้าทันที เธอยิ้มออกมาอย่างขมขื่น พูดกับหลิวจ้านว่า “นายรู้ว่าตระกูลซูทำร้ายคนในครอบครัวได้ลงคอ ก็น่าจะรู้นะว่าพวกเขาไม่มีทางปล่อยให้นายมีชีวิตเหมือนกัน!”
หลิวจ้านมีสีหน้าสิ้นหวัง พึมพำว่า “แกพูดถูก…ฉันแม่งถูกตระกูลซูหลอกใช้…”
พูดจบ จู่ๆหลิวจ้านก็เปลี่ยนเป็นเดือดดาล ร้องไห้ออกมาพร้อมกับสบถด่าว่า “พวกแกมันตระกูลหน้าโง่ พวกแม่งเป็นอะไรกันหมดวะ!คนล้มลุกคลุกคลานขนาดนี้ เมตตาเพื่อนมนุษย์ด้วยกันหน่อยไม่ได้เหรอ?”
ซูจือหยูแสยะยิ้มเย็น “นายรับเงินคนอื่นมา แถมยังเป็นฆาตกรพรากชีวิตคนอื่น ยังจะมาพูดเรื่องเมตตาเพื่อนมนุษย์อะไรอีก?”
หล้วจ้านด่าทอออกมาอย่างกรุ่นโกรธ “แม่ง พูดออกมาอีกสิ เชื่อไหมฉันยิงแกตายแน่?!”
ซูจือหยูยิ้มออกมาอย่างเศร้าๆ เอ่ยพูดอย่างไม่ยอมว่า “งั้นนายก็ยิงฉันเถอะ!ถูกนายยิง ยังดีกว่าถูกรถบรรทุกบีบอัดเป็นปลากระป๋อง!”
เมื่อเข้าได้ยินแบบนี้ ก็หน้าซีดขาวในทันที!
แม้ว่าเขาเป็นจอมโจรที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย แต่กระนั้นก็ยังกลัวตาย กลัวเจ็บ ถ้าต้องเป็นเหมือนผู้ประสบเกิดอุบัติเหตุที่ถูกรถบรรทุกชน หลังจากถูกชนก็ค่อยๆตายไปช้าๆ แบบนั้นเขายอมตายทีเดียวให้มันจบๆไปเลยดีกว่า…
เมื่อซูจือหยูเห็นเขาลนลาน ก็แสดงสีหน้าเหยียดหยาม เอ่ยพูดเสียงเย็นว่า “ทำไม ปกตินายฆ่าคนเป็นเบืออยู่แล้วนี่ ตอนนี้กลัวตายแล้วเหรอ?”
ในเวลานี้หลิวจ้านไม่มีเวลามาสนใจที่ซูจือประชดตัวเอง หลุดปากถามออกไปว่า “แกไม่กลัวตายหรือไง?”