หลังจากนั้น หม่าฉงซิงก็อาเจียนออกมา ปากของเขาเต็มไปด้วยเลือดผสมกับฟันที่หักหลายสิบซี่ ฉากนี้ทำให้คนอื่นๆ อีกสามคนที่อยู่รอบตัวเขาตกตะลึง

พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ ชายหนุ่มตรงหน้าถึงโกรธ

เป็นเพราะคำพูดของหัวหน้าหม่าฉงซิงอวดดีเกินไปเหรอ?

หม่าฉงซิงเองก็สับสนเช่นกัน เมื่อเห็นว่าไม่มีฟันเหลืออยู่ในปาก ตัวเขาทั้งตัวก็ใกล้จะแตกสลายแล้ว เขาร้องพูดอย่างไม่ชัดว่า:”แก……แก……แกตายซะ…….ฉัน……ฉันคือ…… ฉันคือในเย่นจิง……”

เย่เฉินเยาะเย้ยและขัดจังหวะเขา:”ฉันรู้ว่าคุณอยากพูดอะไร คุณก็แค่เป็นคนของตระกูลซูเองไม่ใช่เหรอ? คุณมาพูดเรื่องนี้กับฉันตรงนี้ คุณคิดว่าฉันจะกลัวตระกูลซูที่อยู่เบื้องหลังคุณจริงๆเหรอ? ”

หม่าฉงซิงพูดด้วยความประหลาดใจ:”ตระกูลซู…ความแข็งแกร่งของตระกูลซูอยู่ที่หนึ่งในประเทศ……แก…ทำไมแกถึงไม่กลัว?!”

เย่เฉินหัวเราะและพูดอย่างเหยียดหยาม:”กลัว? พูดตามจริง ฉันกับทั้งตระกูลซูมีตวามแค้นมากถึงขั้นไม่อยากอยู่ร่วมใต้ฟ้าเดียวกัน แม้ว่าซูเฉิงเฟิงแสร้งทำเป็นอวดดีต่อหน้าฉัน ฉันก็จะตบฟันของเขาหมดได้!”

หลังจากพูดจบ เย่เฉินก็พูดอีกครั้ง:”ในเมื่อคุณเป็นสุนัขของตระกูลซู การฆ่าสุนัขสองสามตัวอย่างคุณสามารถบรรเทาความเกลียดชังของฉันได้ชั่วคราว!”

เมื่อหม่าฉงซิงได้ยินเช่นนี้ เขาก็ยิ่งสิ้นหวังและคิดในใจว่า:”ผู้ชายคนนี้……ผู้ชายคนนี้กลับมีความแค้นมากถึงขั้นไม่อยากอยู่ร่วมใต้ฟ้าเดียวกันกับตระกูลซูเลย ฉัน……เดิมทีฉันอยากจะยกคนใหญ่โตอย่างตระกูลซูออกมา เพื่อแลกกับการให้อภัยของอีกฝ่าย แต่ไม่คิดว่าจะกลับกลายเป็นว่าทำตัวเองทั้งนั้น……”

ในเวลานี้ เย่เฉินเพิ่มระดับเสียงของเขาขึ้นเล็กน้อยและพูดอย่างเย็นชาว่า:”ฉันจะถามคุณอีกครั้ง คุณจะพูดหรือไม่?”

หม่าฉงซิงกัดฟันและโพล่งออกมา:”ฉันพูดก็ตาย ไม่พูดก็ตาย ถ้าฉันพูด เจ้านายรู้แล้ว จะไม่ปล่อยครอบครัวของฉันไปแน่ ดังนั้นคุณฆ่าฉันเถอะ!”

เย่เฉินยิ้ม:”ฉันบอกแล้ว ว่าฉันจะไม่ปล่อยให้คุณตายง่ายๆ ฉันจะส่งคุณไปที่คอกสุนัข และปล่อยให้คุณตายอย่างช้าๆ”

ในเวลานี้ เฉินจื๋อข่ายวิ่งเข้าไปพร้อมกับลูกน้องสองคนของเขา เขาโล่งใจเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเย่เฉินควบคุมสถานการณ์ได้ แต่ว่าเมื่อเขาเห็นโรลส์รอยซ์คันนั้น ถูกชนจนทนดูไม่ได้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะกังวล และถามว่า:”อาจารย์เย่ คน……คนเป็นอย่างไรบ้าง?”

เย่เฉินพูดนิ่งๆ:”หลิวจ้านตายแล้ว ตู้ไห่ชิงและซูจือหยูได้รับบาดเจ็บสาหัสและหมดสติ แต่ทั้งสองคนยังไม่ตายเร็วๆนี้หรอก”

ตอนที่เย่เฉินเข้ามา เขาได้ใช้ปราณทิพย์ ตรวจสอบอาการบาดเจ็บของตู้ไห่ชิงกับซูจือหยูแล้ว

บาดเจ็บสาหัสทั้งคู่ สำหรับหมอแล้ว น่าจะเสียคุณค่าและโอกาสในการรักษา คงรอดไม่เกิน 1 ชม. อาจจะตายได้

แต่ว่า สำหรับเย่เฉิน อาการบาดเจ็บของพวกเธอไม่ใช่ว่ารักษาไม่ได้ จัดการ 4 คนที่อยู่ข้างหน้าแล้ว ก็ให้ยาอายุวัฒนะสองแม่ลูกคนละครึ่งเม็ด ต้องช่วยให้รอดได้แน่นอน

เฉินจื๋อข่ายได้ยินเย่เฉินบอกว่าพวกเธอสองคนจะไม่ตายเร็วๆนี้ ก็รู้ว่าเย่เฉินจะต้องมีวิธีช่วยชีวิตพวกเธอแน่นอน ดังนั้นเขาจึงโล่งใจ

เขาดูเวลาและพูดว่า:”อาจารย์เย่ เราต้องรีบกันแล้ว ผมได้ยินมาว่าคนจากหน่วยงานจัดการจราจรบนทางด่วน ได้เริ่มเคลียร์สิ่งกีดขวางที่ทางเข้าอุโมงค์ด้านหลัง พวกเขาน่าจะเคลียร์เลนเสร็จประมาณครึ่งชั่วโมง”

เย่เฉินพยักหน้าและพูดว่า:”ฉันเข้าใจแล้ว ฉันสามารถแก้ปัญหาได้ทั้งหมดภายในสิบนาที”

หลังจากนั้น เขาถามเฉินจื๋อข่ายว่า:”จริงสิเหล่าเฉิน คุณช่วยหาไฮยีนาลายจุดให้ฉันหน่อยได้ไหม?”

“ห๊ะ?”เฉินจื๋อข่ายตกตะลึงและโพล่งออกมา:”ไฮยีนาลายจุด? ไฮยีนาลายจุดแบบไหน?”

เย่เฉินมองดูหม่าฉงซิงทั้งสี่คนที่อยู่ข้างหน้าเขา และพูดอย่างเย็นชา:”ก็คือไฮยีนาลายจุดชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่เป็นกลุ่มบนทุ่งหญ้า และชอบกัดทวารหนักของมันเมื่อออกล่า!”

เฉินจื๋อข่ายสูดหายใจเข้าลึก ๆ และโพล่งออกมา:”อาจารย์เย่ คุณเอาสุนัขแบบนั้นมาทำไมครับ?”

เย่เฉินจ้องที่หม่าฉงซิง และพูดเยาะเย้ย:”ฉันต้องการเพิ่มสายพันธุ์ใหม่ให้กับคอกสุนัขของหงห้า ที่เขาเต็มไปด้วยการทะเลาะกับสุนัขธรรมดา ซึ่งไม่น่าสนุกมากนัก ถ้าเลี้ยงกลุ่มไฮยีนาลายจุดที่ชอบกัดทวารหนัก ต้องน่าสนุกแน่นอน!”