บทที่ 2348
ในเวลานี้ เฉินจี๋อข่ายที่อยู่ข้างๆถามว่า:”คุณชาย สองแม่ลูกนี้จะเอาไงดี? รอให้พวกเธอฟื้นตัวก่อนแล้วค่อยให้พวกเธอออกไป หรือว่า…..
เย่เฉินปัดมือ:”ถ้าให้พวกเธอออกจากที่นี่โดยไม่ได้รับนตราย และทำให้สาธารณชนเห็นโดยตรง วิ โอที่ฉันเพิ่งถามเมื่อกี้ก็จะไม่มีความ
หมายอะไรมาก ตราบใดที่ผู้คนยังมีชีวิตอยู่ ยังไม่ตาย และไม่เป็นอะไรมาก ในสายตาของคนธรรมดา ตระกูลซูก็จะไม่ได้แย่ขนาดนั้น”
หลังจากนั้น เยเฉินก็พูดอีกครั้ง”เอาแบบนี้แล้วกัน พาไปที่โรงแรมของคุณและขังไว้ เช่นเดียวกับซูรั่วหลี ให้กินดีอยู่ดีดูแลให้ดี แต่ไม่
อนุญาตให้ติดต่อกับโลกภายนอก และไมอนุญาตให้ออกจากห้องสักก้าวเด็ดขาด!”
“ได้ครับ!”เฉินจี๋อข่ายพยักหน้าและถามว่า:”แล้วจะเอาพวกเธอออกไปอย่างไร?”
เย่เฉินไม่พูดอะไร เอนตัวลง และใช้มือแยกพนักพิงของที่นั่งสองแถวที่บีบสองแม่ลูกอยู่ให้ออกจากกัน
เฉินจี่อข่ายมองจนอึ้งก่อน จากนั้นถึงจะดึงสติกลั่บมได้ เขาแอบหัวเราะเยาะตัวเองว่า:”ฉันรู้น้อยเห็นน้อยจึงเห็นเรื่องธรรมดาเป็นเรื่อง
ประหลาดจริงๆ ตอนนั้นคุณชายเชิญสายฟ้มาฆ่าราชาบู๊ทั้งแปดแห่งตระกูลอุ่ บนภูเขาฉางไป ราวกับปฏิหาริย์ เรื่องตรงนี้แค่นี้มันไม่ใช่อะไร
เลย……”
ในตอนที่เฉินจี๋อข่ายหัวเราะเยาะตัวเอง เย่เฉินก็ได้ดันที่นั่งที่บีบสองแม่ลูกอยู่ออก
หลังจากนั้น เขาอุ้มตู้ให่ชิงออกจากก่อน วางลงบนพื้นอย่างระมัดระวังข้างอุโมงค์ แล้วกลับไป อุ้มซูจื่อหยูออกมา
ในเวลานี้ ซูจือหยุอยู่ในสภาพที่วุ่นวายมาก
ในความวุ่นวายนี้ สมองของเธอยังคงทำงานตามปกติ แต่ว่า ก็เกือบจะถูกตัดขาดจากโล้กภายนอก
โลกของเธออยู่ในความมืดแล้ว เหลือเพียงความคิดเท่านั้น
และความคิดของเธอก็ถูกฝั่งอยู่ในจิตสำนึกของเธอเองอย่างสมบูรณ์
เธอจำได้ไม่ซัดว่าก่อนที่เธอจะหมดสติ เธอได้ยินคนพูด และดูเหมือนว่ามีคนอื่นปรากฎตัวที่นี่
ยิ่งไปกว่านั้น เธอรู้สึกว่าเสียงนั้นคุ้นมาก
“เสียงนั้นดูเหมือนกับเสียงที่ฉันได้ยินตอนที่ พี่ชายกับฉันถูกลักพาตัวในญี่ปุ่นและกำลังจะถูกฆ่า!”
“และเจ้าของเสียงนั้นคือผู้มีพระคุณที่ฉันตามหา!”
“แต่ว่า ก่อนที่ฉันจะหลับตา สติของฉันก็พร่ามัวไปแล้ว และไม่รู้ว่าตัวเองมีอาการประสาทหลอนจากการได้ยินรึเปล่า…..
“เพราะไม่ว่ายังไง เสียงของผู้มีพระคุณ ก็ไหลเวียนอยู่ในใจของฉันทุกวัน เป็นเรื่องปกติที่จะมีอาการประสาทหลอนในการได้ยินในกรณี
“ตอนนี้ลองคิดดู…… อาจารย์ที่ปูกำลังหามาตอนนั้น ดูแม่นจริงๆ…..
“เขาบอกว่าดวงชะตาของผู้มีพระคุณของฉันนั้นแข็งเกินไป และฉันไม่ควรตามหาผู้มีพระคุณต่อไป ไม่เช่นนั้นมันจะเป็นการรนหาที่ตาย
ดูเหมือนว่ามันไม่ได้เป็นแค่การพูดจาส่งเดช……
“แต่ว่าฉันกำลังจะตายในจินหลิง แต่กลับยังไม่มีโอกาสพบผู้มีพระคุณเลย พระเจ้าให้ฉันรนหาที่ตาย หรือว่าไม่ให้โอกาสฉันเจอทางสัก
ครั้งเลยเหรอ?”
“ลองคิดดู หากต้องตายที่นี่อย่างไม่มีผลลัพธ์ คงจะไม่ยอมจริงๆ…..
ในความคิดของซูจือหยู เมื่อเธอรู้สึกไม่ยอมให้กับความตายที่ใกล้ข้ามา จู่ๆเธอก็รู้สึกว่า ร่างกายของเธอดูเหมือนจะขาดการติดต่ออะไร
บางอย่าง
หลังจากนั้น เธอรู้สึกว่ามีคนเอามือมาประคองร่างกายเธอไว้ใต้รักแร้ และออกแรงดึง
ในตอนนี้ เธอรู้สึกตื่นตระหนกและไม่สบายใจ เพราะเธอไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกันแน่ และเธอไม่สามารถบอกได้ว่าความรู้สึกนี้เป็นจริง
หรือลวง
เธอรู้สึกว่านี่อาจเป็นจิตวิญญาณของเธอ กำลังพยายามจะออกจากร่างของเธอ
ในเวลานี้ เธอพยายามอย่างเต็มที่ที่จะลืมตา และหลังจากพยายามหลายครั้ง ในที่สุดเธอก็เห็นลำแสงในความมืดที่ไม่มีที่สิ้นสุด!
เธอค่อยๆเห็นหน้าผู้ชายๆ!
เธอรู้สึกประหลาดใจและมีความสุขในหัวใจ เธอจดจ่อกับแรงทั้งหมดของเธอไว้บนเปลือกตา และพยายามตา
ในวินาทีต่อมา ใบหน้าที่ถวิลหาค่ำาเช้า ก็ปรากฎขึ้นในดวงตาของเธอ!
ทันใดนั้น ชูจือหยูก็อดไม่ได้ที่จะอุทานในใจ:”คือเขา! คือเขาจริงๆ!”
ฉุกเฉิน……”