บทที่ 2574

เย่เฉินถามอย่างแปลกใจ “ทำไม จอมพลคามมิตเคยได้ยินตระกูลเย่เหรอ”

คามมิตรีบพูดด้วยสีหน้านอบน้อม “เคยได้ยินมาอยู่แล้ว! ตอนนั้นฉันเรียนมหาวิทยาลัยที่เย่นจิง ตระกูลเย ตระกูลชู เป็นตระกูลอันดับต้นๆ
ในจีน ตอนนั้นฉันได้ยินได้ฟังมา”

พูดจบ คามมิตถามอย่างสุภาพ “น้องชาย ไม่รู้ฉันเดาถูกไหม”

เย่เฉินไม่ปิดบัง เขาพยักหน้าและพูดว่า “ถูก ฉันคือคนของตระกูลเย่”

เมื่อพุดออกมา ที่เหลืออีกเจ็ดคนถึงกับอึ้ง

พวกเขาเป็นนักเรียนตัวท็อปในอาณาจักรการเงิน รู้เรื่องเศรษฐกิจของแต่ละประเทศฝืนอย่างดี แน่นอนว่าต้องรู้ถึงพละกำลังของตระกูล
เศรษฐีในจีน

เมื่อได้ยินว่าเเฉินเป็นทายาทของตระกูลเย่ พวกเขาเข้าใจทันที ว่าทำไมเย่เฉินถึงนั่งเครื่องบินคองคอร์ด มาถึงซีเรียในระยะเวลาอันสั้น
ได้

เพราะความสามารถของตระกูลแย่!

แต่น่าเสียดาย คนที่เรียกว่านักเรียนตัวท็อปอย่างพวกเขา จะเส้นผมบังภูเขา มีตาหามีแววไม่!

คามมิตที่อยู่ด้านข้าง รีบยกนิ้วโป้งขึ้นมา แล้วพูดว่า “คิดไม่ถึงว่าน้องชายเป็นคนตระกูลเย่ คนในตระกูลเย่ บุกมาที่นี่เพียงคนเดียว นำนับ
ถือจริงๆ!”

เย่เฉินยิ้มบางๆ “จอมพลคามมิตก็เกรงใจกันเกินไป”

คามมิตอดพูดอย่างตื่นเต้นไม่ได้ “คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าวันนี้ จะได้รู้จักกับทายาทตระกูลเย่ ช่างเป็นโชคชะตาจริงๆ!”

พูดจบ เขามองเย่ฉิน และพูดอย่างจริงใจ “น้องชาย จีนมีคำโบราณกล่าวไว้ว่า ไม่ตีกันก็ไม่รู้จักกัน ใช้กับเราสองคน นับได้ว่าเหมาะสม
ถ้านายไม่รังเกียจ ตั้งแต่นี้เป็นตันไป ฉันกับนายเป็นเพื่อนกัน!”

เย่เฉินพยักหน้า แล้วพูดอย่างจริงจัง “ในเมื่อพี่ชายพูดเช่นนี้ งั้นต่อไป เราคือเพื่อนกัน!”

คามมิตหัวเราะเสียงดัง เขาพูดว่า “น้องชาย ฉันรู้ว่านายดั้นต้นมาไกล เพื่อช่วยผู้หญิงคนนี้ เธอคงสำคัญกับนายมาก ฉันไม่ทำให้นายเสีย
เวลาแล้ว เราทั้งเบอร์ติดต่อเอาไว้ ฉันจะตามคำขอของนาย นั่งเฮลิคอปเตอร์ไปส่งพวกนายออกจากที่นี้ ถ้ามีโอกาส นายคอยมาเป็นแขกที่
ซีเรีย ถึงตอนนั้น ฉันจะต้อนรับนายอย่างตีแน่นอน!”

เย่เฉินเห็นเขาจริงใจอย่างแท้จริง จึงพูดอย่างไม่ลังเล “ไม่มีปัญหา! ถ้าต่อไปพี่ชายไปจีน ก็อย่าลืมติดต่อฉันล่ะ เมื่อถึงตอนนั้นจะต้อนรับ
ขับสู้อย่างดี!”

ขณะที่พูด ชายเชื้อสายจีนคนก่อนหน้านี้ ร้องไห้แล้วพูดว่า “คุณชายเ คุณเป็นคุณชายรวยเป็นล้นล้น อย่าถือสาพวกคนจนอย่างพวก
เราเลยครับ กว่าครอบครัวผมจะเลี้ยงผมมาจนถึงทุกวันนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย คุณให้โอกาสผมเถอะครับ ช่วยผมด้วย ผมคุกเข่าคำนับคุณก็ได้!”
พูดจบ เขาไม่สนใจที่โดนมัดมือไพล่หลังเอาไว้ พยายามคุกเข่าคำนับ

เย่เฉินพูดต้วยสีหน้าเย็นชา “พอเถอะ ไม่ต้องมาแสดงที่นี่ ไม่ว่านายพูดยังไง ฉันก็ไม่พานายไปด้วย”

เมื่อพูตจบ เขามองเช่อจื่อซิว แล้วพูตตัวยน้ำเสียงราบเรียบ “คุณเช่อ เราไปกันเถอะ”

เมื่อชายเชื้อสายจีนได้ยิน เขามองเฮ่อจือซิวอย่างโหดหี้ยม และพูดโพล่งออกมาว่า “เฮ่อจือชิว! ฉันมาที่นี่เพราะเธอ! เธอยอมทิ้งฉันไว้ที่นี่
แล้วหนีเอาซิวิตรอดไปคนเดียวเหรอ! เธอยั่งเป็นคนอยู่หรือเปล่า!”

ผู้หญิงอีกสองคน พูดอย่างสะอึกสะอื่น “จือซิว เราเป็นเพื่อนสนิทกัน ทำไมเธอถึงทิ้งพวกเราในเวลาแบบนี้….ถ้าเธอทึ้งเรา เราต้องตาย
แน่…”

ชายชาวอมริกันเชื้อสายอินเดิย ก็ร้องให้และพูดว่า “จือชิว ฉันไม่อยากตายนะ…ฟอแม่หาเงินมาทั้งชีวิต เพื่อส่งฉันจนเรียนจบ ฉันจะตาย
ไปแบบเงียบๆ ไม่ได้…”

ทันใดนั้น เฮ่อจือซิวน้ำตาคลอเบ้า และร้องห้ออกมา เขามองเย่เฉินด้วยแววตาที่น่าสงสาร ในดวงตาคู่สวย เต็มไปด้วยการอ้อนวอน
เย่เฉินพูดอย่างเย็นชา “พวกนายไม่ต้องรีบ หน่วยเนวีซิลต้องมาช่วยพวกนาย”

พูดจบ เขามองเฮ่อจื่อซิว แล้วพูดเตือนสติว่า “คุณเฮ่อ เราควรไปได้แล้ว!”