บทที่ 2573
เย่เฉินเห็นคามมิต มีสีหน้าอึดอัดใจ เขาอดขำไม่ได้ “ในเมื่อจอมพลคามมิตพูดแล้ว งั้นต่อไป ฉันจะพูดติดกันสองคำละกัน”
คามมิตยกมือขึ้นมา ทำาคารวะแบบจีนให้เย่เฉิน จากนั้นชี้ไปยังแปดคนตรงข้าม เขาพูดด้วยสีหน้าเป็นกันเอง “เลือกได้เลยน้องชาย!”
พูดจบ เขากลัวเยเฉินไม่ยอมรับข้อได้เปรียบ เขากัดฟันพูดว่า “เอางี้ พี่จะยอมอ่อนข้อให้อีก นายเลือกไปเลยห้าคน!”
ทันใดนั้น ความหวังของทั้งเจ็ดคนมีมากขึ้นอิก!
เย่เฉินมองคามมิต เขายิ้มบางๆ แล้วพูดชมว่า “จอมพลคามมิต ช่างจริงใจเหลือเกิน ดูจากจุดนี้ มองออกว่าเป็นคนมีคุณธรรมและรักษา
สัญญา”
คามมิตพยักหน้าเบาๆ และพูดอย่างจริงจัง “ฉันเป็นคนที่น่าเชื่อถือมาก ไม่ว่าจะเป็นต้านธุรกิจ หรือด้านการทำสงคราม ล้วนต้องรักษา
สัญญา ฉันพูดว่ให้นายพาคนออกไปได้ห้าคน ฉันไม่มีทางโกหกแน่นอน!”
เย่เฉินโบกมือไปมา “ฉันก็เป็นคนรักคุณธรรม แต่ไหนแต่ไร หลักการที่ฉันเชื่อคือ เคารพผู้อื่น ผู้อื่นก็จะเคารพเรา ดังนั้นในแปดคนนี้ ฉัน
ขอแค่คุณเฮ่อเพียงคนเดียว คนที่เหลือฉันให้นาย”
เมื่ออีกเจ็ดคนที่เหลือได้ยิน ต่างพากันร้องไห้ออกมา
ชายเชื้อสายจีนร้องครวญคราง “คุณเย่ เราเป็นเชื้อสายเดียวกัน คุณจะไร้ความเมตตา ไร้ความยุติธรรมกับผมไม่ได้!”
ชายชาวอมริกันเชื้อสายอินเดียกับเยาวชนคนอื่น ก็ร้องให้ออกมา และพูดร้องขอชีวิตไม่หยุด
เฮ่อจือซิวทนดูไม่ไหว เธอพูดอ้อนวอนว่า “คุณเย่…พวกเขาเป็นกบในกะลาจริงๆ มิตาหามีแววไม่ คุณอย่าถือสาพวกเขาเลยนะ คุณช่วย
พวกเขาออกไปด้วยนะ ถ้าเป็นไปได้…พาพวกเขาออกไปด้วยกันทั้งหมด…”
เย่เฉินพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “เช่อจือชิว เรื่องไม่ได้ง่ายขนาดนั้น การที่ผมมาช่วยคุณ เพราะเห็นแก่หน้าพ่อคุณ คุณให้ผมช่วยพวกเขา
ให้ผมเห็นแก่หน้าใครไม่ทราบ”
เฮ่อจือซิวรู้สึกผิดและลำบากใจ แต่เพื่อความปลอดภัยของเพื่อน เธอกัดฟันพูดว่า “คุณเย ถือว่าเห็นแก่หน้ฉัน! ฉันรู้ว่าการขอนี้ไร้สาระ
และไม่เหมาะสม ไม่ประมาณกำลังตัวเอง แต่คุณช่ายเห็นแก่หน้าฉัน ช่วยพวกเขาสักครั้ง…”
เย่เฉินส่ายหน้า เขาปฏิเสธอย่างแน่วแน่ “ผมไม่ไว้หน้าคุณ เพราะตั้งแต่ตันจนถึงตอนนี้ คนอเมริกันพวกนี้ ไม่ไว้หน้าผมสักนิต ผมไม่เคย
ประจบประแจงพวกต่างชาติ ดังนั้น ไม่ว่าเขาจะเป็นคนอเมริกันหรือมนุษย์บนดาวอังคาร ถ้าเขาไม่ไว้หน้าผม ผมก็ไม่ไว้หน้าเขา”
พูดจบ เขามองคามมิต แล้วชี้ไปที่เฮ่อจือชิว และพูดอย่างจริงจัง “ฉันพาเธอไปคนเดียว”
“เฮ้ย ยอดเยี่ยมไปเลย!” คามมิตกระทึบเท้า และพูดว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันก็ไม่พูดไร้สาระแล้ว ฉันจะสั่งลูกน้อง พวกนายสองคนหนีไป
ได้เลย แต่คนที่เหลือต้องซังเอาไว้!”
พูดจม คามมิตเดินออกไปที่ประตู และพูดว่า “เชิญเลยน้องชาย!”
เย่เฉินโบกมือไปมา “ไม่ต้อง ฉันไม่ใช่คนใจร้าย แต่ที่นี่เป็นถิ่นของนาย ฉันต้องรอบคอบ นายไปเตรียมเฮลิคอปเตอร์มาจอดไว้ในลาน
เฮลิคอปเตอร์ต้องไม่พกกระสุนใดๆ อีกอย่าง ต้องให้คนที่ไม่ใช่พนักงานเครื่องบิน ออกไปให้หมด และนายต้องเดินไปกับเราสองคนด้วย เมื่อคน
ที่มารับฉันมาถึง ฉันจะปล่อยนายกลับ นายโอเคไหม”
คามมิตมีสีหน้าลำบากใจ เขาพูดว่า “ถ้าถึงจุดหมาย แล้วนายเปลี่ยนใจ จะทำยังไง ถ้านายจับฉัน จะทำยังไง ตอนนี้ทหารรัฐบาลให้ค่าหัว
ฉันหลายล้านตอลลาร์ ฉันจะรู้ได้ไงว่านายไม่เห็นแก่เงิน”
“เห็นแก่เงินงั้นเหรอ” เย่เฉินยิ้มอย่างเหนื่อยใจ เขาชี้หน้าตัวเอง และถามเขาว่า “นายว่าคนอย่างเย่เฉิน เห็นแก่เงินงั้นเหรอ ฉันนั่งเครื่องบิน
คองคอร์ด มูลค่าหลายร้อยล้นตอลลาร์จากจีน มาสถานที่กระจอกแขนี้ ภายในเวลาหลายซั่โมง ฉันจะเห็นแก่ค่าหัวหลายล้านตอลลาร์ของ
นายอย่างนั้นเหรอ”
คามมิตกลิ่นน้ำลาย เขาพูดว่า “เครื่องบินคองคอร์ดงั้นเหรอ! น้องชาย…าย..นายเป็นคนตระกูลเยที่จีนเหรอ!”