บทที่ 2599

ซูโสว่เต้าในฐานะที่เป็นลูกชายคนโตของตระกูลชู หลายปีมานี้ถือได้ว่าไม่ว่าจะเหตุการณ์อะไรเขาเคยพบเจอมาหมดแล้ว แต่เมื่อต้อง
เผชิญหน้ากับเย่ฉินที่อายุยี่สิบกว่าผู้นี้ กลับทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์ความหวาดกลัวที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน

เขาไม่เข้าใจ ทายาทของตระกูลเย่ผู้นี้หตุใดถึงได้ดุดันเช่นนี้ ถึงกลับกลำาลงมือจัการตระกูลซูทีละคนโดยไม่มีความกลัวเกรงแม้แต่
น้อย

ในตอนแรก ถึงตระกูลซูกับตระกูลเย่จะต่อสู้กันดุเดือดขนาดไหน แต่ทุกคนต่างไม่มีใครกล้าลงมือโหดร้ายเช่นนี้ เนื่องจากทั้งสองตระกูล
ค่อนข้างแกร่ง ซึ่งมันเท่ากับว่าทั้งสองฝ่ายมีอาวุธนิวเคลียร์ของประเทศในครอบครอง ไม่มีใครกล้าต่อกรกับอีกฝ่ายขนาดนั้น

แต่ว่า ลูกชายของเย่ฉางอิงที่อยู่ตรงหน้า กลับไม่สนใจเรื่องพวกนี้เลย

เขาลักพาตัวซูโสว่เต่อ นี่เป็นการกระทำที่เห็นตระกูลซูอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย

ตอนนี้ เขาไม่เพียงแต่หยุดเท่านี้ ยังพุ่งเป้ามาที่ตัวเอง คนแบบนี้ เป็นผู้ทำลายกฎของเกมอย่างแท้จริง!

เมื่อเห็นความก้าวร้าวของเย่เฉินไม่ลดลง ซูโสว่เต้าก็รู้สึกประหม่าขึ้น ปากของเขายังคงอ่อนลงมาบ้าง เขาพูดอย่างจริงจ้งว่า”ในเย่นจิงถึง
จะมีตระกูลจำนวนไม่น้อยที่ต่างฝ่ายต่างแก่งแย่งกัน แต่ทุกคนยังคงรักษาความเคารพและความเกรงกลัวพื้นฐานอยู่บ้าง ฉันในตอนนี้ก่อตั้ง
พันธมิตรต่อต้านตระกูลเย่ แต่ก็ไม่เคยสร้างภัยคุกคามใดๆต่อพ่อแม่ของนายเลย นายมีสิทธิ์อะไรมาชุ่มโจมตีลักพาตัวฉัน?

เย่เฉินถามอย่างเย็นชา”คุณตายรึยังล่ะ? ”

ซูโสว่เต้าสีหน้าตกตะลึง”หมายความว่าไง? ”

เย่เฉินถามอีกครั้ง”ผมถามคุณว่า คุณตายรึยัง? ”

ซูโสว่เต้าทำเสียงห์”ตลกหน่า ถ้าฉันตายแล้ว ที่ยืนอยู่ตรงหน้านายเป็นผีรึไงกัน? ”

เย่เฉินพยักหน้า”ก็ใช่ไง คุณยังไม่ตาย แต่พ่อแม่ผมตายแล้ว! คุณปากบอกว่าคุณไม่เคยทำอะไรที่เป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยพ่อ
แม่ของผม แต่พ่อแม่ผมได้ตายจากไปเกือบยี่สิบปีแล้ว ตอนนี้คุณมาบอกว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง คุณคิดว่าผมจะเชื่อไหม? ”

ซูโสว่เต้าพูดอย่างประหม่าเล็กน้อย”นายจะไม่เชื่อก็ได้ แต่นายต้องรู้ว่า ถึงจะเป็นกฎหมาย มันก็เป็นข้อสันนิษฐาน ถ้านายมีหลักฐาน
พิสูจน์ได้ว่าการตายของพ่อแม่นายมีส่วนกี่ยวข้องกับฉัน ถ้านายจะฆ่าจะแกงฉันยังไงฉันไม่ว่า แต่ถ้านายไม่มีหลักฐาน งั้นกิพิสูจน์ได้แค่ว่า การ
ตายของพ่อแม่นายไม่เกี่ยวข้องอะไรกับฉัน! ”

เย่เฉินหัวเราะ”ซูโสว่เต้า คุณอย่าไร้เดียงสาเกินไปเลย ในเมื่อผมอยู่ตรงนี้แล้ว คุณคิดว่าผมจะพูดเรื่องกฎกติกากับคุณอย่างงั้นหรอ?

คุณตกอยู่ในงื้อมมือของผม ก็ต้องเล่นตามกติกาของผมเท่านั้น ดูจดจบของน้องชายคุณสิ คุณน่าจะรู้แล้วนะ”

ซูโสว่เต้าพูดโพล่งออกไปอย่างตกใจ”ฉันป็นลูกชายคนโตของตระกูลซู! เป็นทายาทในอนาคตของตระกูลซู! นายกล้าลงมือกับฉัน
ตระกูลซูต้องไปปล่อยนายไปแน่! ”

เย่เฉินเบะปาก”ในเมื่อผมกล้ำาทำ ผมก็ไม่กลัวการแก้แค้นของตระกูลซูหรอก อีกทั้งผมจะบอกคุณไว้ เรื่องนี้พอมาถึงคุณแล้วมันไม่จบแค่
นี้หรอกนะ ซูเฉิงเฟิงพ่อของคุณก็อยู่ในรายชื่อของผม นอกจากนี้ ถ้าตระกูลซูของคุณถูกผมตรวจสอบพบว่ายังมีคนเกี่ยวข้องกับการตายของ
พ่อแม่ผม หรือถ้ายังมีใครไม่ยอมรับ ผมก็จะจัดการพวกเขาทิ้งทั้งหมด!”

ซูโสว่เต้าถามอย่างหวาดกลัว”ตอนนี้นายไม่มีหลักฐานอะไร แต่นายกลับโจมตีตระกูลซูของฉัน ยังมีความชอบธรรมในยุทธภพอีกไหม? ”

“ความซอบธรรมในยุทธภพงั้นหรอ? “เย่เฉินหัวเราะอย่างเย้ยหยัน “คำว่าความซอบธรรมในยุทธภพสี่คำนี้ ถ้าออกจากปากของคนอื่นผม
ไม่มีความเห็นอะไรหรอกนะ แต่สี่คำนี้มันไม่คู่ควรกับคนของตระกูลซูอย่างพวกคุณ! ”

ซูโสว่เต้าขมวดคิ้ว”นายหมายความว่าไง? ”

เย่เฉินหัวเราะ”ผมหมายความว่าไงคุณไม่รู้แก่ใจหรอ? ผมขอถามคุณนะ ชูรั่หลีเป็นลูกสาวนอกสมรสของคุณนะ? !

ซูโสว์เต้าที่ได้ยินสามคำนี้ รู้สึกอับอาย เขาพูดด้วยน้ำเสียงขาดความมั่นใจ”รั่วหลีเป็นลูกสาวนอกสมรสของผมจริงๆ แต่คนที่ทำร้ายเธอ
ไม่ใช่ฉัน! ”

เย่เฉินพยักหน้า”ผมรู้ คนที่ทำร้ายเธอคือพ่อของคุณ ใช่ไหมล่ะ? ”

ซูโสว์เต้าหลบสายตาก้าวร้าวของเย่เฉิน แล้วโพล่งออกไปว่า”เรื่องนี้จนถึงตอนนี้ฉันยังไม่มีหลักฐานอะไรแน่ชัด ดังนั้นจะเป็นพ่อของฉัน
หรือไม่ ยังไม่ได้รับการยืนยัน”

เย่เฉินหัวเราะอย่างเยาะเย้ย”ไร้ประโยชน์จริงๆ! ”

ซูโสว่เต้าถามโพล่งออกไปว่า”นายหมายความว่าไง? ! ”

เย่เฉินตำหนิสียงดัง”ผมบอกว่าคุณมันไร้ประโยชน์จริง! เป็นเศษสวะตั้งแต่ต้นจนจบ! ”