บทที่ 2604
ตู้ให่ชิงอดไม่ได้หัวเราะออกมาแล้ว : “ฮ่าๆ นี่ลูกฝันอะไรเนี่ย”
ซูจือหยูยิ้มพร้อมพูดว่า : “ในฝันเหมือนว่าจะอยู่แถวแม่น้ำหย่งติ้ง ก็คือสถานที่ที่ตอนเด็กหนูชอบไปเล่นว่าวมากที่สุด”
พูดแล้ว ซูจือหยูก็พูดอีกว่า : “แม่ว่าความฝันนี้มันก็แปลกๆนะ ในความฝันหนูเป็นเด็กน้อยคนหนึ่ง แต่ตอนที่หนูฝันกลับว่าไม่ได้รู้สึกว่า
มันแตกต่างจากความเป็นจริงเลยสักนิด”
ตู้ไห่ชิงพยักหน้า : “นี่มันน่แปลกตรงไหนเหรอ ความฝันที่แตกต่างจากความเป็นจริงส่วนใหญ่ ล้วนแต่ดึงดูดคนที่ฝันในความฝันอย่าง
มาก หลังจากที่ตื่นขึ้นมาถึงรู้สึกว่าไร้สาระ”
พูดแล้ว เธอก็ถอนหายใจเมาๆ พูดต่อ : “โธ่…ทั้งชีวิตนี้ของแม่ ไม่รู้ว่าฝันถึงเรื่องที่ต่างจากความเป็นจริงและแปลกประหลาดมามากกว่า
เท่าไหร่แล้ว ฝันว่าคนที่ตายไปแล้วยังมีชีวิตอยู่ ฝันว่าตัวเองเปลี่ยนวิถีชีวิต…
ซูจือหยูมองไปยังตู้ให่ชิง เห็นใบหน้าของเธอที่นำมาซึ่งความเสียดายที่ไม่อาจจะลบเลือนไปได้ อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามว่า : “แม่ แม่เสียใจ
ภายหลังไหมที่แต่งานกับพ่อ? ”
ตูห่ซิงค่อนข้างตกตะลึง พร้อมทั้งฝืนยิ้ม พูดกล่าวว่า : “ถ้าหากตอนแรกเด็กผู้หญิงคนนั้นโตพอๆกับลูก รู้ว่าแต่งงานกับผู้ชายคนนั้นจะ
ต้องมาพร้อมกับความไม่เต็มใจไปทั้งชีวิต งั้นเธอก็ไม่มีทางยอมแต่งงานแน่ แต่ตอนที่เด็กผู้หญิงคนนั้นมีลูกสาวที่โตพอๆกับเธอในตอนแรกนั้น
ลูกถามเธออีกครั้ง งั้นเธอก็ไม่มีทางที่จะเสียใจภายหลังแน่”
เมื่อซูจือหยูได้ยิน เบ้าตาแดงก่อย่างไม่อาจห้ามได้
เธอเข้าใจความหมายในคำพูดของแม่
ถ้าหากสำหรับเธอเองแล้วนั้น แต่งงานกับพ่อ เป็นเรื่องที่เสียใจภายหลัง;
แต่ว่า ถ้าหากนับตัวเองเข้าไปด้วย แต่งงานกับพ่อ มีตัวเองและพี่ชาย เธอก็ไม่เสียใจภายหลังเลย
มีเพียงประโยคนี้ที่ไม่เสียใจภายหลัง สิ่งที่ฝังอยู่กลับว่าเป็นความรักที่แท้จริงในชีวิตแม่
ซูจือหยุอดไม่ได้ที่จะพูดอย่างซาบซึ้ง : “เม่…ขอบคุณค่ะแม่….
ตู้ไห่ชิงยิ้มพร้อมพูดว่า : “ยัยเด็กที่ม มาขอบคุณแม่ทำไมกันล่ะ? ”
พูดแล้ว เธอค่อยๆเช็ดน้ำตาที่มุมตาของซูจื่อหยูเบาๆ พูดอย่างจริงจังว่า : “เพราะงั้น ลูกไมใช่แม่ ลูกก็โตพอๆกับเด็กผู้หญิงคนนั้นในตอน
นั้น เพราะงั้นในอนาคตตอนที่ลูกเลือกคนที่จะเข้ามาเป็นอีกส่วนหนึ่งของชีวิต จะต้องมีความรอบคอบ อย่าเลือกเดินเส้นทางของแม่เด็ดขาด
ผู้ชายบนโลกใบนี้มีหลากหลายแบบ สูง เตี๋ย อ้วน ผอม ผิวขาว ผิวดำ จน รวย ทั้งหมดนี้มันไม่ได้สำคัญเลย เพียงแค่เลือกถูกเท่านั้นถึงจะสำคัญ
ที่สุด เพราะงั้นในอนาคตต้องเลือกคนที่ถูก จำคำพูดของแม่ไว้ อย่าทำพอถูไถ ”
ซูจือหยูพยักหน้าอย่างต่อเนื่อง พูดอย่างจริงจังมากว่า : “แม่ หนูรู้แล้ว….
และในเวลานี้ เสียงกริ่งก็ดังขึ้นมาทันที
ซูจื่อหยูรีบพูดกล่าว : “น่าจะเป็นคุณป้าที่มาเก็บภาชนะอาหาร หนูจะไปเปิดประตู”
พูดจบ ก็ลุกขึ้นยืนเดินไปที่หน้าห้อง ยื่นมือไปเปิดประตู
แต่ว่าให้เธอฝันก็คิดไม่ถึงว่า ตอนที่ประตูเปิดออก สิ่งที่กระโจนเข้ามายังม่นตาของเธอ กลับว่าเป็นผู้ชายที่เธอถวิลหาค่ำเช้า โหยหา
อย่างยิ่งมาเป็นเวลานาน…
เย่เฉิน!
ในเวลานี้ เย่เฉินที่รูปร่างที่สูงผอม สีหน้าเย็นชา นอยู่ที่ประตูห้องของซูจือหยู ตอนที่ใบหน้าของเย่เฉินเข้ามาใกล้มาก ซูจือหยูคนทั้งคน
ราวกับว่าโดนฟ้าผ่า ความรู้สึกที่ตื่นต้นและดีใจที่อยู่ภายในใจไม่อาจจะระงับไว้ได้แล้ว
เธอมองไปยังเย่เฉินอย่างปีติยินดีโพล่งพูดว่า : ” ผู้มีพระคุณ! เป็นคุณจริงๆด้วย! ”
เย่เฉินมองไปที่ซูจือหยู พูดด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกว่า : “คุณหนูซู รบกวนถอยออกไปหน่อย”
ซูจือหยูไม่ทราบสาเหตุ แต่ว่ายังคงเชื่อฟังถอยลงมาสามสี่ก้าว พูดถามโดยทันทีว่า : ” ผู้มีพระคุณ คุณจะเข้ามาเหรอ? ”
เย่เฉินไม่พูดจา ดึงซูโสว่เต้าออกมาจากข้างกำแพงที่อยู่ด้านข้างประตูด้านนอก ดึงเขามาอยู่ข้างหน้าเลย
ทันใดนั้นชูจือหยูไม่ทันได้ดูหน้าของโสว่ต้าให้ชัดเจน ก็เห็นเพียงเย่เฉินดิ่งคนๆหนึ่งออกมาจากจุดบอดของเส้นสายตาที่อยู่ด้านข้าง ตาม
ผ่าด้วย…
เสี่ยงดั่งตูม!
เห็นเย่เฉินยกเท้าขึ้นมา เตะผู้ชายคนนั้นเข้าไปในห้องแล้ว!