บทที่ 2605
เห็นเงาร่างคนๆหนึ่งกลิ้งตรงเข้ามาในห้องจากข้างเท้าของตัวเอง ซูจือหยูก็ตกใจอย่างมาก
แต่ว่า เธอก็ไม่ได้ไปสนใจดูว่าผู้ชายที่กลิ้งจากข้างเท้าของตัวเองไปนั้นเป็นใคร และให้ความสนใจทั้งหมดไปยังใบหน้าของเย่เฉิน
เห็นเย่เฉินยืนอยู่ตรงหน้าของตัวเองอย่างชัดจน ในใจของซูจือหยูราวกับว่าถูกเขาจับกุมไโดยสิ้นเชิงท้นที ความคิดถึงหลายวันที่ผ่าน
มาในเวลานี้เอ่อลันทะลักราวกับน้ำพุยังไงอย่างนั้น จากในใจของเธอ พุ่งเข้ามายังเข้าตาเธอเลย ตามมาด้วย กลายเป็นน้ำตาเม็ดใหญ่ที่กลิ้ง
ตกลงมา
เธอแทบจะคุกเข่าลงโดยฉับพลั่ทันที พูดอย่างสำลักว่า : “ขอบคุณผู้มีพระคุณที่ช่วยเหลือชีวิตไว้ถึงสองครั้ง! ขอบคุณผู้มีพระคุณที่
ช่วยชีวิตพี่ชายฉันไว้ ขอบคุณผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตแม่ของฉันไว้ ”
เย่เฉินชี้ไปยังซูโสว่เต้าที่หน้าตาบมช้ำที่ยืนอยู่ไม่ไกลด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึก พูดกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า : “อย่าเพิ่งรีบร้อนที่จะ
ขอบคุณผม คุณดูก่อนว่าเขาคือใคร! ”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ซูจือหยูหันหลังไปมองโดยทันที คนทั้งคนหยุดราวกับว่าถูกฟ้าผ่า!
“พ่อ? ! ”
ต่อให้ซูจือหยูฝืนก็คิดไม่ถึง คนที่ถูกเย่เฉินเตะเข้ามาคนนั้น จู่ๆจะเป็นพ่อของตัวเอง ซูโสว่เต้า!
ในเวลานี้ ซูโสว์เต้าก็มึนงงโดยสิ้นเชิง!
ซูจือหยูที่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนมโดยตลอด แม้ว่าในใจของชายชราจะคาดเดาไว้ว่าอาจจะได้รับความช่วยเหลือจากผู้ยอดฝีมือชาวญี่ปุ่นคน
นั้น แต่ชูโสว่เต้ากลับว่าไม่ได้เข้าใจเสวียนจีนี้อย่างถ่องแท้ ในใจของเขาเกี่ยวกับการวินิจฉัยว่าซูจือหยูจะมีชีวิตอยู่หรือตายนั้น ที่แห่ก็เป็นครึ่งๆ
กลับคิดไม่ถึงว่า จู่ๆเธอจะยังมีชีวิตอยู่!
แถมยังอยู่ในโรงแรมของตระกูลเย่ด้วย!
ซูโสว่เต้าเมื่อกี้ถูกเย่ฉินทรมานจิตใจกว่าหลายครั้ง คนทั้งคนกำลังรู้สึกผิดต่อลูกสาวทั้งสองคนอย่างมาก วันนี้เห็นซูจือหยูยังมีชีวิตอยู่
ทันใดนั้นก็ร้องไห้โฮออกมา : “จือหยู…อหยูลูกยังมีชีวิตอยู่จริงๆ…พ่อขอโทษลูกด้วยนะ!”
ในเวลานี้ ตู่ให่ชิงเดินมายังข้างกายของซูโสว่เต้าด้วยสีหน้าตกใจ เธอกัมหน้ามองชูโสว่เต้า แล้วก็เงยหน้ามองเย่เฉินที่หน้าประตู ทันใดนั้น
คนทั้งคนรู้สึกเหมือนว่าอยู่คนละโลกเลย
เย่เฉิน เหมือนกับเย่ฉางอิงมากเลยจริงๆ
(อยู่ตรงหน้าของตู่ให่ชิง ทำให้เธอรู้สึกเหมือนว่ากลับไปยัง30ปีก่อนโดยทันที
ย้อนกลับไปในวัยนั้นที่ตัวเองหมกมุ่นอยู่กับเย่ฉางอิง แม้แต่ในความฝันก็คิดอยากจะแต่งงานกับเขา
ในเวลานี้ ซูโสวเต้าเนตู้ให่ชิงเดินออกมาจากด้านใน คนทั้งคนก็ราวกับว่โดนฟ้าผ่ายังไงอย่างนั้น
เขาเห็นตู้ไห่ชิง โพล่งพูดทันทีว่า : “ไห่ชิง…คุณ…คุณก็ยังมีชีวิตอยู่…
ตู่ให่ชิงถูกเสียงนี้ทำให้ตื่นตกใจแล้ว เรียกสติกลับมาจากความทรงจำ และก้มหน้ามองไปยังซูโสว่เต้าอีกครั้ง เห็นใบหน้าห้าสิบกว่าปีของ
ซูโสว่เต้า กลับสู่ความเป็นจริงในท่ามกลางของจินตนาการโดยทันที
เธอมองไปยังซูโสว่ต้า สีหน้า แววตาล้วนแต่เงี่ยบสงบจนทำให้ในใจของซูโสว่เต้าสับสนวุ่นวายอย่างบอกไม่ถูก
ทันใดนั้น เธอเอ่ยพูดด้วยโทนเสียงที่งียบสงบเช่นกัน : “ซูโสว่เต้า ผ่านเรื่องราวมามากมายขนาดนี้ คงจะสามารถเซ็นข้อตกลงการหย่า
ร้างได้แล้วนะ?”
ทันใดนั้นซูโสว่เต้ารู้สึกอับอายขายขี้หน้าแทบตาย พูดสำลักว่า : “โอเค…ผมเซ็น..รอผมกลับไปถึงเย่นจิง จะเซ็นให้ทัน…”
ตู้ไห่ชิงพยักหน้า พูด : “รอคุณเซ็นเรียบร้อย ระหว่างฉันและคุณก็เคลียร์กันจบสิ้นแล้ว เรื่องที่เคยเกิดขึ้นทั้งหมดก่อนหน้านี้ ฉันก็จะไม่
ซักถามอีก ”
ซูโสว่เต้าพูดพร้อมน้ำตาไหลอาบแก้ม : “ไห่ซิง เรื่องลั่กพาตัวและรถชน ล้วนแต่เป็นการเตรียมการของพ่อเพียงคนเดียว ไม่เกี่ยวอะไรกับ
ผม! ”
“ฉันรู้” ตู่ไห่ชิงยิ้มเล็กน้อย: “ในช่วงเวลาที่ใช้ชีวิตเป็นสามีภรรยากัน ฉันรู้ถึงแม้ว่าคุณจะเกลียดฉัน ก็ใช่ว่าจะลงมืออย่างโหดเหี้ยมจริงๆ”