บทที่ 2628

เย่เฉินมองเฉินจี๋อข่ายและสั่ง “เหล่าเฉิน เดี๋ยวคุณจดช่องทางติดต่อของแม่รั่วหลีไว้นะครับ ติดต่อกับท่านในนามของตระกูลเย่ไปก่อน ดู
ว่าท่านยอมมามั้ย ถ้าท่านไม่สนใจร่วมงานกับฉันค่อยบอกไปว่าคุณชายตระกูลเย่อยากหารือเรื่องร่วมต่อสู้กับตระกูลซูกับท่าน”
เฉินจี๋อข่ายรีบบอก “ได้ครับคุณชาย เดี๋ยวผมจะไปจัดการเรื่องนี้”

เย่เฉินหันไปหาซูรั่วหลี “รั่วหลี เธอเอาช่องทางการติดต่อให้เหล่าเฉินแล้วก็กลับห้องไปพักผ่อนเถอะ”

“ค่ะ!”

เมืองโม่เฉิงทิศตะวันออกเฉียงเหนือในขณะนี้

เมืองเล็กๆที่ไม่ใหญ่นี้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่หนาวที่สุดของหวาเซี่ย

ถึงแม้ตอนนี้เข้าปลายเดือนหนึ่งแล้ว แต่อุณหภูมิที่ต่ำที่สุดของเมืองโมก็ยั่งอยู่ที่ติดลบสิบเจ็ดถึงสิบแปดองศา แทบจะเท่ากับช่องฟรีซ
ของตู้เย็น

ช่วงเวลาที่หนาวที่สุดของฤดูหนาว อุณหภูมิที่นี่ต่ำถึงประมาณติดลบห้าสิบองศา

ตระกูลเหอซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลกังฟูที่สำคัญในหวาเซี่ย ตั้งรกรากอยู่ในเมืองระดับเขตที่มีประชากรไม่เกินหนึ่งแสนคน
บรรพบุรุษของตระกูลเหอไม่ใช่ชาวเมืองโม่โดยกำเนิด

พวกเขามาจากคาบสมุทรซานตง ยุคราชวงศ์หมิงและชิงพวกเขาป็นตระกูลกังฟูที่มีชื่อเสียงมากในคาบสมุทรซานตง บรรพบุรุษหาเลี้ยง
ชีพด้วยการเปิดสำนักคุ้มภัยและโรงต่อสู้

แต่คนตระกูลเหอในสมัยนั้นเน้นการฝึกฝนภายนอกมากกว่า จึงยังห่างชั้นกับตระกูลบูโดอยู่ไกล

จนกระทั่งยุคปลายราชวงศ์ชิง คาบสมุทรชานตงเกิดการจลาจลด้วยสงคราม คนตระกูลเหอข้ามด่านชานไห้ไปดิ้นรนใช้ชีวิตในภาค
ตะวันออกทั้งครอบครัว ด้วยความบังเอิญจึงได้รับคัมภีร์มวยกำลังภายในที่ขาดหายไปบางส่วนมา

ที่บอกว่าขาดหายไปบางส่วนสาเหตุหลักก็เพราะเกือบครึ่งหนึ่งของเนื้อหาได้หายไปนานแล้ว ไม่ว่าจะเป็นท่ามวยหรือวิธีการลำเลียงพลัง
ภายในต่างขาดหายไปเยอะ

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น หลังจากที่ทุกคนในตระกูลเหอย้ายไปทางตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว ก็ยังใช้วิชามวยกำลังภายในที่ไม่สมบูรณ์นี้เบียด
เข้าไปติดลำดับของตระกูลบูโดได้

ยิ่งกว่านั้น เนื่องจากวิชามวยกำลังภายในที่ตระกูลเหอได้มาขาดเนื้อหาไปเยอะ เวลาที่คนตระกูลเหอฝึกฝนมักจะมีความผิดปกติของพลัง
ภายใน ชีพจรไหลย้อนเกิดขึ้น เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ถ้าเบาจะบาดเจ็บอยู่หลายเดือน ถ้าหนักคือเสียวรยุทธไปทั้งหมด มีบางคนที่จบชีวิตลงด้วย
เหตุนี้ด้วย

ดังนั้นตระกูลเหอจึงค่อยๆสรุปแผนรับมือออกมา นั่นก็คือพยายามฝึกฝนวิชามวยกำลังภายในนี้ในที่หนาวสุดขั้ว อากาศหนาวจัดจะช่วย
ควบคุมพลังภายในได้ดีขึ้น และช่วยลดอัตราความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุได้ด้วย

ด้วยเหตุนี้ ตระกูลเหอถึงย้ายไปอยู่ที่เมืองโม่ เมืองที่หนาวที่สุดของหวาเซี่ย และตั้งรกรากอยู่ที่นี่

ในวัยเด็กของชูรั่วหลีรวมถึงวัยแรกรุ่นของเธอได้ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มาตลอด ส่วนแม่ของเธอเขาเหออิงชิ่ว หลังจากเสียแขนไปหนึ่งข้างเพราะ
ช่วยซูโสว่เต้าก็อาศัยอยู่ที่นี่มาตลอด น้อยครั้งมากที่จะออกจากเมืองโม่

อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้เหออิงชิ่วแทบจะวิ่งวุ่นอยู่ข้างนอกตลอด

เริ่มจากตอนที่ซูรั่หลีถูกจับในญี่ปุ่น เธอได้ยินซูโสว่เต๋าบอกว่าจะไปช่วยชูรั่วหลีออกมาและไปพบซูรั่วหลีที่ญี่ปุ่นด้วยตัวเอง บอกให้เธอ
รออยู่ที่บ้านอย่างสบายใจ

แต่คิดไม่ถึงว่าจะมีข่าวว่าซูรั่วหลีหายไป ตระกูลซูหักหลังซูรั่วหลี

ตั้งแต่นั้นมาเหออิงซิ่วก็อยู่ที่ญี่ปุ่นเป็นส่วนใหญ่เพื่อตามหาข่าวคราวของซูรั่วหลี

แม้จะรู้ว่าเป็นการงมเข็มในมหาสมุทร แต่เธอยังคงพยายามตามหาในโตเกียวรวมถึงพื้นที่โดยรอบอย่างสุดความสามารถ ก่อนจะยอม
จ่ายเงินก้อนใหญ่จ้างวานเรือกู้ภัยให้ตามหาในพื้นที่มหาสมุทรของญี่ปุ่น รวมถึงพื้นที่มหาสมุทรในประเทศด้วย แต่ก็ยังไม่พบเบาะแสที่เกี่ยวฆ้อง
ใดๆ

เมื่อวานซิ่นเธอเพิ่งกลับมาจากชายฝั่งทะเลทางตะวันอกเฉียงใต้ ครั้งนี้เธอวิ่งวุ่นตามทุกเมืองที่มีท่เรือสำคัญ ก็ยังไม่ได้ยินว่ามีคนแอบ
ลักลอบขึ้นฝั่ง

เธอรู้ดีว่ายิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ความเป็นไปได้ที่ซูรั่วหลียังมีชีวิตอยู่ก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น

ดังนั้น เธอจึงหารือกับพ่อของเธอเหอหงเซิ่ง ว่าจะระดมทุนเพิ่มและไปค้นหาตามพื้นที่ชายฝั่งทะเลของคาบสมุทรซานตงดู ว่าจะพบซูรั่ว
หลีมั้ย…