บทที่ 2639
เที่ยงครึ่ง รถของเย่เฉินค่อยๆขับเข้ามาในมหาวิทยาลัยการเงินและเศรษฐศาสตร์จินหลิง ตอนนี้ถึงเวลาพักเที่ยงของมหาวิทยาลัยแล้ว
บนทางเดินในมหาวิทยาลัยมีนักเรียนที่กาะกลุ่มเดินกันมากมาย ส่วนใหญ่เดินไปทางโรงอาหารและหอพัก และบางคนที่ดูแล้วเตรียมออกไปกิน
ข้าวนอกรั้วมหาวิทยาลัย
เฮ่อจือชิวถามเย่เฉิน “คุณเย่ พ่อของฉันไปกินข้าวอยู่หรือเปล่าคะ เราควรติดต่อเขาก่อนมั้ย?”
เย่เฉินพยักหน้า และเอ่ยยิ้มๆ “เดี๋ยวฉันจะส่งข้อความเสียงไปหาเขา เธออย่าเพิ่งส่งเสียงนะ”
เฮ่อจือชิวรู้ว่าเย่เฉินแค่อยากเซอร์ไพรส์พ่อจึงรับปาก “ได้ค่ะ….
เย่เฉินจอดรถใต้ตึกสำนักงานและโทรหาเฮ่อหยว่นเจียงด้วยวีแชท
เพิ่งจะกดคำขอสนทนาด้วยเสียงไป อีกฝ่ายก็กดรับทันที จากนั้นเสียงของเฮ่อหยว่นเจียงก็ดังเข้ามา “เย่เฉิน นายอยู่ที่นั่นเป็นยังไงบ้าง?!
มีอะไรคืบหน้ามั้ย?”
เย่เฉินจึงเอ่ยขึ้น “คุณอาเฮ่ออย่าเพิ่งใจร้อนนะครับ สถานการณ์ของผมตอนนี้ค่อนข้างซับซ้อน ไม่สามารถอธิบายให้เข้าใจได้ในประโยค
สองประโยค”
เฮ่อหยว่นเจียงรีบถาม “แล้วนายได้เจอจือชิวหรือยัง”
เย่เฉินตอบ “ตอนนี้ยังครับ ทหารเฝ้าระวังของฝ่ายค้านป้องกันไว้แน่นหนามาก ผมกำลังหาทางอยู่ครับ”
พูดไป เย่เฉินก็ถามเขา “คุณอาเฮ่อทานข้าวเที่ยงหรือยังครับ”
เฮ่อหยว่นเจียงถอนใจ “ฉันมีอารมณ์กินข้าวที่ไหนเล่า ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ฉันกระวนกระวายอยู่ตลอด ทีแรกฉันโทรหานายตั้งหลาย
สาย แต่ขึ้นว่าไม่อยู่ในพื้นที่ให้บริการ ฝั่งนายไม่มีสัญญาณใช่มั้ย?”
เย่เฉินอธิบาย “สัญญาโทรศัพท์ไม่มีอยู่แล้วครับ จึงไม่สามารถรับสายโทรเข้าปกติได้ แต่ผมติดตั้งเครื่องมือเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน
ดาวเทียมไว้ จึงอยากสามารถต่อเน็ตได้ผ่านดาวเทียม แค่ค่าเน็ตแพงไปหน่อยครับ”
เฮ่อหยว่นเจียงไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ แต่อดถอนใจไม่ได้ “เรื่องนี้ต้องรบกนายมากจริงๆ…..ไม่ว่าหลังจากนี้จะมีโอกาสได้เจอจือชิ
วอีกมั้ย จะช่วยเธอออกมาได้หรือไม่ นายก็ต้องรักษาความปลอดภัยของตัวเองไว้นะ”
เย่เฉินพูดยิ้มๆ “คุณอาเฮ่อสบายใจได้ครับ ผมจะพาลูกสาวของคุณอากลับประเทศมาอย่างปลอดภัย”
พูดเสร็จเขารีบบอก “คุณอาเฮ่อ ผมวางก่อนนะครับ มีอะไรคืบหน้าแล้วผมจะบอก”
เฮ่อหยว่นเจียงได้แต่ตอบไปว่า “ถ้าอย่างนั้นนายต้องระวังตัวด้วยนะ”
เย่เฉินกดจบสนทนาเสียง เฮ่อจือชิวด้านข้างอดถามเขาไม่ได้ “เราจะทำยังไงต่อไปคะ”
เย่เฉินด์บรถ หยิบหน้ากากใช้แล้วทิ้งออกมาสองน หลังจากใส่องแล้วเขาก็บอกกับเฮ่ออชิว “ใส่หน้ากากนี้แล้วเราตรงไปที่ห้องทำงาน
ของพ่อเธอเลย เขาต้องอยู่ที่นั่นแน่นอน”
เฮ่อจือชิวรู้ว่าเย่เฉินอยากเซอร์ไพรส์พ่อตัวเองจึงยิ้มและเอ่ยขึ้น “คุณคิดว่าฉันใส่หน้ากากแล้วพ่อฉันจะจำฉันไม่ได้หรอคะ”
เย่เฉินยิ้มพร้อมตอบ “ฉันกล้าพนัน ตราบใดที่เธอไม่พูด พ่อเธอจำเธอไม่ได้แน่นอน”
“เป็นไปไม่ได้” เฮ่อจือชิวส่ายหัว พูดอย่างมั่นใจ “ฉันแค่คุยกับพ่อไม่ค่อยถูกคอ แต่ไม่ได้หมายความว่าความสัมพันธ์ของเราจะตึงเครียด
และห่างเหินนะคะ เขาต้องจำฉันได้ในปราดเดียวแน่นอนค่ะ”
เย่เฉินยิ้มบางๆ “ไม่เชื่อก็ลองดู เดี๋ยวเธอไปเคาะประตูเองเลย ดูว่าเขาจะจำเธอได้มั้ย”
เฮ่อจือชิวเบ้ปาก “ได้ คนแพ้ต้องเลี้ยงข้าวนะคะ”
พูดจบก็ใส่หน้ากากอย่างให้ความร่วมมือ