เหออิงซิ่วรีบถามอีกครั้ง “ซูจือหยูได้หายไปพร้อมกับตู้ไห่ชิงแล้วไม่ใช่หรือ? ลูกเคยเห็นเธอหรือ?”

ซูรั่วหลีพยักหน้าและกล่าวอย่างจริงจังว่า “พี่จือหยูและน้าตู้ก็พักอยู่ในโรงแรมนี้เช่นกัน”

“ลูกว่าอะไรน่ะ?!” เหออิงซิ่วเริ่มประหม่าและกล่าวโพล่งออกมา “พวกเธอสองแม่ลูกก็พักอยู่ที่นี่ด้วย?! แล้วพวกเธอรู้หรือไม่ว่าแม่อยู่ที่นี่?”

เหออิงซิ่วรู้สึกผิดต่อตู้ไห่ชิงมาโดยตลอด

อย่างไรเสีย ตอนที่เธอตั้งครรภ์นั้นตนเองมีความสัมพันธ์กับสามีของเธอ หลังจากนั้นตนเองจึงได้ให้กำเนิดซูรั่วหลี ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ตนเองเป็นคนที่เข้าไปพัวพันกับชีวิตคู่ของคนอื่น และเป็นมือที่สามในขณะที่เธอตั้งตั้งครรภ์

ดังนั้น เธอจึงกลัวที่จะได้พบตู้ไห่ชิงอีกครั้ง

ขณะนี้ซูรั่วหลีกล่าวว่า “พวกเธอสองแม่ลูกไม่รู้ว่าแม่อยู่ที่นี่ หลังจากที่คุณชายเย่ช่วยชีวิตพวกเธอแล้ว ก็จัดให้พวกเธอพักอยู่ที่นี่ และเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ข่าวรั่วไหล จึงไม่ให้พวกเธอออกจากห้อง ฉันพักอยู่ที่โรงแรมนี้มาหลายวันแล้ว จนกระทั่งเช้าของวันนี้ ลูกน้องของคุณชายเย่มารับไป ถึงได้รู้ว่าพวกเธอสองแม่ลูกก็พักอยู่ที่นี่ด้วย”

เหออิงซิ่วตกใจยิ่งกว่าเดิมจนอ้าปากค้าง “ลูกบอกว่าพวกเธอสองแม่ลูกก็ได้รับการช่วยเหลือจากคุณชายเย่ด้วยเช่นกัน!”

“ค่ะ!” ซูรั่วหลีพยักหน้าและกล่าวว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะการช่วยเหลือของคุณชายเย่ พวกเธอสองคนคงถูกซูเฉิงเฟิงฆ่าตายแล้ว!”

เหออิงซิ่วพยักหน้าอย่างครุ่นคิด จากนั้นจึงถามว่า “ทำไมคุณชายเย่ถึงพาลูกไปเจอพวกเธอล่ะ?”

“เรื่องนี่…” ซูรั่วหลีรู้สึกลังเลขึ้นมา

เธอไม่รู้ว่าตนเองควรบอกแม่เกี่ยวกับเรื่องของซูโสว่เต้าพ่อของตนเองดีหรือไม่?

พูดแล้ว ก็กลัวว่าแม่จะเสียใจ

ไม่พูด ก็รู้สึกว่าไม่รับผิดชอบต่อแม่ของตนเอง

เหออิงซิ่วเห็นว่าซูรั่วหลีลังเลที่จะพูด และรีบถาม “รั่วหลี มีอะไรที่ลูกอยากจะบอกแม่?”

ซูรั่วหลีเม้มปากอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวว่า “แม่ ฉันมีเรื่องจะบอก แต่แม่อย่าโกรธน่ะ”

เหออิงซิ่วรีบกล่าวว่า “ลูกบอกมาเถอะ แม่จะไม่ร้อนใจและไม่โกรธ การที่ลูกสามารถยืนอยู่ต่อหน้าแม่ได้โดยไม่ได้รับอันตรายใด ๆ แม้ว่าฟ้าจะถล่ม แม่ก็ไม่ร้อนใจอีกแล้ว!”

ซูรั่วหลีกล่าวว่า “พ่อก็ถูกคุณชายเย่จับ…… ”

“อะไรนะ?” เหออิงซิ่วตกใจจนอ้าปากค้างและตาเบิกกว้าง จ้องไปที่ซูรั่วหลีเป็นเวลานาน จากนั้นจึงรวบรวมความกล้าเพื่อถามว่า “หรือว่าคุณชายเย่ จะฆ่าพ่อของลูกแล้ว?”

ซูรั่วหลีส่ายศีรษะ “ยังไม่ถึงขนาดนั้น พ่อยังมีชีวิตอยู่…… ”

เมื่อเหออิงซิ่วได้ยินประโยคนี้ ก็ค่อย ๆ ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เธอมีความรักที่ลึกซึ้งต่อซูโสว่เต้า

อย่างไรเสีย ช่วงชีวิตที่ดีที่สุดของเธอก็อุทิศให้กับซูโสว่เต้าเกือบทั้งหมด และแม้แต่ร่างกายของตนเองก็อุทิศให้กับเขาแล้วเช่นกัน

แม้จะไม่ได้เจอหน้ากันนานหลายปี แต่ความรู้สึกในใจยังคงอยู่เสมอ

เมื่อได้ยินว่าซูโสว่เต้าตกอยู่ในมือของเย่เฉิน สิ่งที่เธอกลัวที่สุดคือเย่เฉินจะฆ่าซูโสว่เต้าทันที

อย่างไรเสียด้วยความสามารถของเย่เฉิน การที่จะฆ่าซูโสว่เต้านั้นง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ

เมื่อได้ยินว่าซูโสว่เต้ายังมีชีวิตอยู่ เธอถึงได้วางใจ

หลังจากนั้น เธอถอนหายใจเบา ๆ และกล่าวว่า “เฮ้อ…ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ยังมีชีวิตอยู่ก็ดีแล้ว”

หลังจากนั้น ก็ถามอีกครั้งว่า “พ่อของลูกถูกจัดให้พักอยู่ที่นี่ด้วยหรือ?”

“ไม่ใช่ค่ะ” ซูรั่วหลีกล่าวด้วยความอึดอัด “คุณชายเย่ส่งพ่อไปแล้ว…….”

เหออิงซิ่วรีบถาม “ส่งไปที่ไหน?”

ซูรั่วหลีเม้มปากและกล่าวประโยคหนึ่งว่า “ซีเรีย…..”